การบ้าน'ฟลิค'หลังเกมเสมอตราหมี

บาร์เซโลน่า ตกเป็นฝ่ายตามหลัง 0-2 ตั้งแต่ 6 นาทีแรกของเกม แต่ทีมของ ฮันซี่ ฟลิค รัวคืน 4 ประตูรวดพลิกกลับมานำ 3-2 ก่อนจบครึ่งแรก ก่อน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ จะบวกเพิ่มอีกหนึ่งประตูนำห่าง 4-2 ช่วงนาที 74
แต่ บาร์เซโลน่า ปิดเกมไม่เป็นจนกระทั่ง แอตเลติโก มาดริด ไล่มาเป็น 3-4 จาก มาร์กอส ยอเรนเต้ นาที 84 ก่อน อเล็กซานเดอร์ ซอร์ล็อธ ตีทำประตูนำทีมตราหมีตามตีเสมอ 4-4 ช่วงนาที 90+3 ในเกมแรกของรอบตัดเชือกศึก โกปา เดล เรย์
ฟลิค เผยว่าฟอร์มการเล่นของ บาร์เซโลน่า ส่วนใหญ่นั้นน่าชื่นชม ทั้งการคุมบอล, คุมจังหวะการเล่น และสร้างโอกาสทำประตูได้หลายครั้ง โดยกล่าวว่า 'เราเล่นได้ดีมากตลอด 75 นาที ตอนนี้เรามีโอกาสดีที่จะได้แสดงให้เห็นว่าเราสามารถคว้าชัยชนะที่ เมโตรโปลีตาโน่ ได้'
'เราจะทุ่มสุดตัว วันนี้เราเห็นแล้วว่าเราไม่ยอมแพ้ หลังจากเสีย 2 ประตูในช่วงต้นเกม หนึ่งในบทเรียนสำคัญจากเกมนี้คือความจำเป็นในการปรับปรุงแนวป้องกัน ประตูที่เสียไปนั้นเน้นย้ำถึงจุดที่ต้องปรับปรุง และทีมสตาฟฟ์จะต้องแก้ไขจุดบกพร่องเหล่านั้นก่อนเกมที่สอง'
'เรามีโอกาสคว้าชัยชนะ เราจะต้องพูดถึงประตูที่เสียไป เราต้องแก้ไขข้อผิดพลาดของเรา ทีมยังอายุน้อยมาก ยังมีช่องว่างให้ปรับปรุงอีกมาก'
แม้จะมีข้อบกพร่องในการเล่นเกมรับ แต่ฟอร์มการเล่นของแต่ละคนนั้นโดดเด่นมาก ซึ่งเทรนเนอร์ชาวเยอรมันกล่าวว่า 'ทัศนคติและความคิดของเรายอดเยี่ยมมากหลังจากนั้น แต่เราต้องปรับปรุงในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ'
'เราทำงานหนัก โค้ชเตรียมตัวมาดีและเราเห็นมันในวันนี้ ประตูแรกที่เราเสียไปทำให้เราเล่นเกมรับได้ดีขึ้น ผมพอใจกับผลงานที่เราทำ'
อินญีโก้ มาร์ตีเนซ กองหลังวัย 33 ปียอมรับว่าเขามีความรู้สึกเหมือนทีมอาซูลกราน่ามอบของขวัญให้คู่แข่ง โดยกล่าวว่า 'เมื่อคุณมอบของขวัญให้นักเตะ อัตเลิโก พวกเขาทำประตูได้แน่นอน เราเหนือกว่ามาก ผมคิดว่าเกมแบบนี้ควรจะจบลงด้วยสกอร์ 6-2 แต่สุดท้ายก็จบด้วยการเสมอ 4-4 และมันจะยากในสนามที่ยากพอๆกับของพวกเขา แต่ถ้าเราทำได้ในแบบที่เรารู้ว่าเราจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร'
'เมื่อพวกเขาทำประตูใส่พวกเราทุกคน ไม่ใช่แค่กองหลังเท่านั้น แต่รวมถึงนักเตะในแนวรุกด้วย นั่นคือสิ่งที่เราทำ และเราต้องอดทนและเรียนรู้จากสิ่งนี้'
'ในฟุตบอล สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ถูกต้อง เราทำผิดพลาด 2 ครั้งในช่วงท้ายและสองครั้งในช่วงเริ่มต้น แต่มันชัดเจนว่าทีมนี้ต้องมีสมาธิตลอดทั้งเกม พวกเขาทำแบบเดียวกันกับเราใน ลา ลีกา ตอนนี้ถึงเวลาพักและเดินหน้าชัยชนะในลีกต่อไปแล้ว'
ขณะที่ เปา กูบาร์ซี่ กองหลังวัย 18 ปีที่ทำประตูแรกของตนเองในสีเสื้ออาซูลกราน่าเผยว่า บาร์เซโลน่า เล่นได้ต่ำกว่าระดับที่เคยทำได้และสมควรได้รับผลเสมอเช่นกัน 'เราโกรธกับช่วง 10 นาทีสุดท้ายที่ทีมเล่น เราไม่ได้อยู่ในระดับของเรา เราสมควรได้รับผลเสมอ'
'(หลังจาก) ฟอร์มที่ยอดเยี่ยม เราแสดงให้เห็นในการพลิกสถานการณ์จาก 0-2 ในตอนแรก เราไม่สามารถเริ่มต้นเกมแบบนั้นได้ มันจะเป็นเกมชิงชนะเลิศที่ เมโตรโปลีตาโน่ ผมกำลังรอมันอยู่ (การทำประตู) และผมจูบตราสโมสร เพราะ บาร์ซ่า คือสโมสรในชีวิตผม เป็นสิ่งที่ผมรักมากที่สุด'
ส่วน เปดรี้ กล่าวแบบตรงไปตรงมาว่าทีมอาซูลกราน่าควรจะเล่นอย่างชาญฉลาดกว่านี้โดยเฉพาะตอนที่เป็นฝ่ายนำ 4-2 ก่อนเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายของเกม
'ตอนเราขึ้นนำ 4-2 เราต้องเล่นกับบอลฉลาดกว่านี้ แต่เรากลับไม่ฉลาดเลย มันเกิดขึ้นกับเรามาแล้วใน ลา ลีกา พวกเขากลับมาเล่นงานเราอีกครั้ง'
'เราต้องเล่นบอลฉลาดกว่านี้ ทั้งตอนไม่มีบอล เราต้องครองบอลนานขึ้น เข้าหาเกมด้วยสัญชาตญาณ และมองหาประตูที่ 5 แต่ต้องฉลาดด้วย และเราไม่ได้ทำแบบนั้น'
'ถ้าไม่มีบอล เราสามารถเพรสซิ่งได้ดีกว่านี้ในหลายๆจุดเช่นกัน ถ้าเราเพรสซิ่งไม่ได้ เราจำเป็นต้องถอยแนวรับลงมาด้านหลังอีกเล็กน้อย'
จากการวิเคราะห์ของสื่อแคว้นกาตาลุนย่าระบุว่ามี 5 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทัพอาซูลกราน่าทำได้แค่เสมอทีมตราหมีในศึก โกปา เดล เรย์ รอบรองชนะเลิศนัดแรก
1.การจัดการเกมรับย่ำแย่
บาร์เซโลน่า จัดการพื้นที่ส่วนแรกไม่ดี พวกเขาไม่สามารถจัดการเกมกับ แอตเลติโก มาดริด ได้ดีตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบเกม โดยขาดความต่อเนื่องสลับไปมาระหว่างการครองบอลและขาดการควบคุมบอล เหมือนช่วงต้นเกมที่เสียสองประตูในช่วง 6 นาทีแรกเป็นตัวอย่างดีที่สุด
แม้พวกเขาจะกลับมาคุมเกมได้อีกครั้งในช่วงที่เหลือของครึ่งเวลาแรกจนพลิกกลับมาเป็นฝ่ายนำ 3-2 และยังครองเกมได้ แต่ก็ปล่อยให้เกมหลุดมือไปอย่างช้าๆ หลังการนำห่าง 4-2 จากการทำประตูของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ช่วงนาที 74
2.การขาดประสิทธิภาพในการจบสกอร์
ทั้ง บาร์เซโลน่า และ แอตเลติโก มาดริด ต่างทำได้ฝั่งละ 4 ประตู แม้ทีมอาซูลกราน่าสร้างโอกาสทำประตูเหนือกว่าทีมตราหมี แต่พวกเขาไม่ดีพอที่จะคว้าโอกาสของตัวเองไว้ได้เพราะทีมของ ฟลิค มีโอกาสทำได้ 7-8 ประตูหากมีความเฉียบคมในจังหวะจบสกอร์
เฟร์ราน ตอร์เรส ที่ลงเล่นฐานะตัวจริงในเกมนี้สร้างอันตรายได้มากจากการเคลื่อนที่ในตำแหน่งหมายเลข 9 แต่เขาพลาดโอกาสทองในจังหวะทำประตูอย่างน้อยสองครั้ง ส่วน เลวานดอฟสกี้ ควรทำเพิ่มอีกหนึ่งหรือสองประตูเช่นกัน
3.ฟูลแบ็กสองฝั่งทำผลงานไม่ดี
อาเลฆานโดร บัลเด้ และ ชูลส์ กุนเด้ ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เพิ่มความกว้างให้แนวรุกของ บาร์เซโลน่า ซึ่งพวกเขาต่างทำได้ดีหลายครั้งในฤดูกาลนี้ แม้ว่า บัลเด้ จะเล่นเกมรับได้ดี แต่ก็มีข้อผิดพลาดบ้าง ทว่าความผิดพลาดของ กุนเด้ มีส่วนทำให้ทีมอาซูลกราน่าเสียสองประตู
ทั้ง กุนเด้ และ บัลเด้ ต่างเปิดพื้นที่ให้คู่แข่งด้านหลังค่อนข้างมากเมื่อพวกเขาเติมขึ้นมาเล่นเกมรุก และเห็นได้อย่างชัดเจนว่าแผนของ แอตเลติโก มาดริด คือการใช้ประโยชน์จากจุดนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ ฟลิค ต้องหาทางแก้ไขก่อนการลงเล่นเกมสองบนสังเวียน เมโตรโปลีตาโน่
4.ขาดการสนับสนุน เปดรี้
เปโดร กอนซาเลซ โลเปซ เปดรี้ เป็นผู้เล่นดีที่สุดของ บาร์เซโลน่า อีกครั้ง แม้ว่า แอตเลติโก มาดริด จะเพรสซิ่งสูงก็ตาม แต่ เปดรี้ เป็นเพียงคนเดียวที่ทำให้แน่ใจว่าบอลยังคงขับเคลื่อนต่อไป น่าเสียดายที่มิดฟิลด์วัย 22 ปีไม่มีคู่หูคนใดที่ก้าวขึ้นมาช่วยแบ่งเบาภาระในแดนกลางร่วมกับเขา
เฟรงกี้ เดอ ย็อง ทำผลงานในช่วงที่ผ่านมาได้และมิดฟิลด์ชาวดัตช์ค่อยๆพัฒนาเกมขึ้นมาเมื่อเวลาผ่านไป อย่างไรก็ตามการตัดสินใจถอด เปดรี้ ออกจากสนามช่วงนาที 85 ทำให้เกมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่มีนักเตะคนใดที่ลงสนามมาทำผลงานได้ดีเหมือนมิดฟิลด์วัย 22 ปี
5.ซิเมโอเน่ เปลี่ยนตัวได้ดีกว่า ฟลิค
เมื่อทีมของเขาต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ไม่รีรอที่จะส่งผู้เล่นสำรองลงสนาม ซึ่งพวกเขาต่างทำได้ตามที่ทีมต้องการ โดยเฉพาะ อังเคล กอร์เรอา, ซามูเอล ลีโน่ และ อเล็กซานเดอร์ ซอร์ล็อธ ต่างสร้างปัญหาให้ทีมอาซูลกราน่าอย่างไม่หยุดหย่อน
แม้ว่า ฟลิค จะบริหารจัดการเกมส่วนใหญ่ได้อย่างยอดเยี่ยมก็ตาม แต่เทรนเนอร์ชาวเยอรมันล้มเหลวในการเปลี่ยนตัวผู้เล่นในหลายๆด้าน เนื่องจากเขารอนานเกินไปในการเปลี่ยนตัวครั้งแรก ทว่าเมื่อเขาทำมัน ก็เลือกส่งนักเตะที่ทำลายความสมดุลของทีมอย่าง กาบี, เฟร์มีน โลเปซ และ เอริก การ์เซีย ที่ไม่สามารถต้านทานเกมของทีมตราหมีได้ดีพอ
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT