ชีวิตไม่เหมือนเดิมของยามาล

ลามีน ยามาล แนวรุกดาวโรจน์ของ บาร์เซโลน่า ยังคงสร้างความประทับใจได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเขาจะพบกับช่วงปืนฝืดบนเวทีลีกาก็ตาม หลังการทำประตูครั้งล่าสุดตั้งแต่เกมบุกขย่ม เรอัล มาดริด 4-0 ในเกม 'เอล กลาซิโก้' ช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่มันไม่ได้มีความสำคัญอะไรเมื่อเทียบกับผลงานโดยรวมของเขาที่มีต่อทัพอาซูลกราน่า
ด้วยวัยเพียง 17 ปี เด็กปั้นจาก 'ลา มาเซีย' ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะดีที่สุดในโลก เขาคว้าแชมป์ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า ร่วมกับ บาร์เซโลน่า รวมถึงการคว้าแชมป์ ยูโร 2024 ร่วมกับทีมชาติสเปนตั้งแต่อายุยังน้อย
ยามาล ยังคว้ารางวัล โกปา โทรฟี่ หรือดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของ ฟร้องซ์ ฟุตบอล เช่นเดียวกับ โกลเด้น บอย หรือรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมที่มีอายุไม่เกิน 21 ปีของ ตุ๊ตโต้สปอร์ต
มูนีร์ นาสราอุย พ่อของเขาชาวโมร็อกกันเป็นช่างทาสี ส่วน เชล่า เอบาน่า แม่ของเขาเป็นชาว เอกวาทอเรียล กีนี เป็นพนักงานเสิร์ฟ พ่อแม่ของเขาแยกทางตั้งแต่เขาอายุ 3 ขวบ แต่ทั้งคู่ยังช่วยกันดูแล ยามาล จนถึงอายุ 10 ขวบ
แม่ของเขาย้ายจาก มาตาโร่ มาอยู่ กราโนเยร์ส ที่ ยามาล เริ่มเล่นฟุตบอลกับสโมสรท้องถิ่นอย่าง ลา ตอร์เรต้า ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ซึ่งเขาเดินทางไปมาระหว่างสองเมืองเพื่อใช้เวลากับพ่อและแม่ของเขา
ยามาล เติบโตในย่าน โรกาฟอนดา ของเมืองมาตาโร่ ที่เขามักฉลองการทำประตูด้วยการแสดงท่าหมายเลข 304 ซึ่งเป็นตัวเลข 3 หลักสุดท้ายของรหัสไปรษณีย์ท้องถิ่น (08304) นำมาซึ่งความภาคภูมิใจและการยอมรับมาสู่ชุมชนของชนชั้นแรงงานในเมือง โรกาฟอนดา
แนวรุกวัย 17 ปียังคงมีความผูกพันกับย่าน โรกาฟอนดา ที่ยังคงเป็นตัวกำหนดชีวิตประจำวันของเขา ยามาล เผยว่าเขาแสดงความเคารพต่อย่านนี้ด้วยการทำท่ามือ 304 ทุกครั้งที่เขาทำประตูได้
'มันมีความหมายเหมือนกัน มันแสดงถึงย่านพักอาศัยวัยเด็กของผมและวัฒนธรรมของเรา ใน โรกาฟอนดา ผู้คนจากภูมิหลังที่แตกต่างกันอาศัยอยู่ร่วมกัน แต่สุดท้ายแล้วเราเป็นเหมือนที่น้อง เราทุกคนมาจากครอบครัวเดียวกัน'
'ผมยังคงรู้สึกเหมือนเดิม เมื่อผมกลับไปที่นั่น ผมรู้สึกสงบ ไม่มีใครมารบกวนผม และที่นี่คือสถานที่พักผ่อนของผม เป็นที่ที่ผมสามารถผ่อนคลายและชาร์จพลังได้' ยามาล กล่าว
ในวัย 17 ปี แนวรุกของ บาร์เซโลน่า ไม่เพียงแต่มีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพตั้งแต่การลงประเดิมสนามเท่านั้น แต่เขายังเติบโตอย่างมากอีกด้วย มีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นและกล้าที่จะลองทำอะไรในสนามมากขึ้น
'มันเปลี่ยนไปมาก ตอนนี้ ผมมีความมั่นใจมากขึ้นและทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ผมเคยเล่นด้วยความปลอดภัยและทำในสิ่งที่คาดหวังในแต่ละช่วงเวลา'
'ตอนนี้ผมพยายามสนุกกับตัวเองมากขึ้น รับแรงบันดาลใจมาจากภายในอก และเล่นอย่างอิสระ ผมคิดว่าตอนนี้ผมเล่นด้วยความมั่นใจมากขึ้น'
เด็กปั้นจาก 'ลา มาเซีย' ยืนยันว่าเขาไม่ได้โฟกัสไปที่การทำสถิติ และเป้าหมายหลักของเขาคือการสร้างความบันเทิงแก่แฟนๆ เพราะนั่นคือสิ่งที่เขาชอบเมื่อดูฟุตบอลของตัวเอง
'ผมเชื่อว่ากุญแจสำคัญคือการโฟกัสที่ไปตัวเองและทำสิ่งดีที่สุดสำหรับทีมเสมอ ผมไม่ใช่นักเตะที่ใส่ใจสถิติมากนัก ผมเล่นเพื่อความสนุก เพื่อทำให้แฟนบอลมีความสุข และแน่นอนว่าเพื่อชัยชนะ'
'ผมไม่เปรียบเทียบสถิติของตัวเองกับคนอื่นๆ เมื่อผมดูการแข่งขันฟุตบอล ผมต้องการเล่นการเล่นที่น่าตื่นเต้น การเลี้ยงบอล นั่นคือสิ่งที่ผมพยายามทำให้ผู้คนมาดูเราเล่น เพื่อให้มันสนุก ในท้ายที่สุด หากผมสนุกกับตัวเอง แฟนๆก็จะสนุกด้วยเช่นกัน'
ยามาล ยังพูดถึง ฮันซี่ ฟลิค เทรนเนอร์ชาวเยอรมันว่ามีส่วนสำคัญในการพัฒนาฝีเท้าของเขาในฤดูกาลนี้ โดยกล่าวว่า 'เขาเป็นคนใจดีมาก เป็นคนที่พูดคุยด้วยได้ เขามักจะถามเราเสมอว่ารู้สึกอย่างไรและสอนอะไรเราหลายอย่าง'
'ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเขา นั่นคือเหตุผลที่เขาได้รับการเคารพทั้งในฐานะโค้ชและฐานะคนๆหนึ่ง'
'เขาเข้มงวด แต่ก็เข้าใจว่านักเตะแต่ละคนต้องการอะไรในช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อเป็นเรื่องของแนวคิดในการเล่นเกมป้องกัน เขาจะขอสิ่งที่เฉพาะเจาะจง เขาไม่พูดอะไรมากนัก แค่บอกว่าออกไปสนุกกับตัวเอง นั่นคือความมั่นใจที่เขามอบให้กับเรา'
ยามาล มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากขึ้น หลังเขาทำผลงานโดดเด่นในศึกยูโรในช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ที่พลิกชีวิตเขาหลังจากนั้น
'มันเปลี่ยนแปลงผมและยังเปลี่ยนวิธีที่คู่แข่งมองผมด้วย ก่อนหน้านี้ ผมยังเป็นเด็กคนหนึ่ง แต่หลังจากการคว้าแชมป์ยูโร ทุกอย่างก็ดูแตกต่างออกไป ผมไม่ใช่เด็กอีกต่อไป ผมเล่นด้วยความมั่นใจมากขึ้น'
'การคว้าแชมป์ทำให้นักเตะทุกคนก้าวไปข้างหน้า และคุณสามารถรู้สึกได้ ผมยังจำประตูที่ยิงได้ในเกมกับ ฝรั่งเศส เมื่อผมเห็นลูกบอลกระทบเสาและเข้าประตู ผมรู้ว่ามันเป็นประตู ผมจำได้ว่าผมฉลองและเห็นแม่นั่งร้องไห้อยู่บนอัฒจันทร์'
นับตั้งแต่คว้าแชมป์มาได้ ชีวิตเขาก็เปลี่ยนไปมาก และตอนนี้ชื่อเสียงก็ทำให้เขาไม่สามารถทำสิ่งต่างในชีวิตประจำวันได้มากนัก
'มันแตกต่างออกไป ทุกที่ที่ผมไป ทุกคนที่ผ่านไปมา ผมรู้ว่าพวกเขาจำผมได้ เมื่อก่อนผมสามารถเดินทางไปตามปกติ แต่ตอนนี้การต้องผ่านสนามบินเป็นเรื่องยากมาก มันเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นเรื่องยากเพราะผมไม่มีชีวิตที่เป็นปกติอีกต่อไป'
'ผมไม่สามารถไปเดินเล่นกับพี่ชายหรือดื่มกาแฟกับแม่เหมือนเดิมได้ ชื่อเสียงนำมาซึ่งสิ่งดีๆ แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน'
แม้ ยามาล จะมีความปรารถนาในการคว้าแชมป์ทุกรายการที่มีส่วนร่วมก็ตาม แต่แนวรุกวัย 17 ปียอมรับว่ามีสองรายการที่มีความสำคัญต่อเขา
'มีสองรายการที่ทำให้การทำประตูได้ทำให้คุณรู้สึกมีความสุขมากกว่ารายการอื่นๆ นั่นคือ แชมเปี้ยนส์ลีก และ ฟุตบอลโลก ซึ่งเป็นสองรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุด'
'เมื่อเพลงแชมเปี้ยนส์ลีกบรรเลงขึ้น ทุกคนจะขนลุกซู่ ผมทำประตูได้ในเกมที่พบกับ โมนาโก และ อตาลันต้า และผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย ยกเว้นประตูที่ผมยิงใส่ ฝรั่งเศส ในศึกยูโร'
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT