ความฝันของชิค

พาทริค ชิค กลับมาทำผลงานดีที่สุดอีกครั้ง หลังการดระทุ้ง 21 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 35 เกมในฤดูกาลนี้ ท่ามกลางความพยายามในการป้องกันแชมป์บุนเดสลีกา และ เดเอฟเบ โพคาล หลังกระเด็นตกรอบ 16 ทีมของรายการแชมเปี้ยนส์ลีก จากการปราชัยต่อคู่ปรับสำคัญอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ด้วยสกอร์รวม 0-5
นับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งกับ เลเวอร์คูเซ่น ในช่วงซัมเมอร์ปี 2020 ชิค ทำผลงานขึ้นๆลงๆ ก่อนจะกลับมาทำผลงานยอดเยี่ยมกับทีมห้างยา นับตั้งแต่ยึดตำแหน่งตัวจริงมาจาก วิคเตอร์ โบนีเฟซ หัวหอกชาวไนจีเรียน
เมื่อถูกถามว่าเขาพัฒนาไปอย่างไรบ้างในช่วงเวลา 4 ปีครึ่งกับทีมห้างยา หัวหอกชาวเช็กตอบว่า 'ผมดูหนุ่มกว่าเดิม แต่ผมคิดว่าผมทำถูกต้อง ผมทำประตูได้จำนวนมากกับ เลเวอร์คูเซ่น และเราคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล และ ซูเปอร์ คัพ'
ต่อด้วยคำถามที่ว่าคุณคิดว่าได้ทำผลงานเกินความคาดหมายของตัวเองหรือไม่ ชิค ตอบว่า 'ถ้าจะบอกตามตรง ผมไม่คาดคิดเลยว่าช่วงเวลา 4 ปีครึ่งกับ เลเวอร์คูเซ่น จะประสบความสำเร็วได้มากขนาดนี้'
กองหน้าวัย 29 ปียังพูดถึงเคล็ดลับความสำเร็จของตนเองว่า 'ก่อนอื่นเลย ผมอยากจะบอกว่าด้วยวินัยและคนดีๆที่อยู่รอบตัวคุณ มันเป็นกีฬาที่ต้องใช้ทั้งโค้ช, ทีมสตาฟฟ์ และนักเตะ ถ้าไม่มีพวกเขา ผมคงจะช่วยทีมไม่ได้ คุณต้องต่อสู้เพื่อความฝัน และคุณต้องมีคนดีๆอยู่รอบตัวคุณด้วย'
เมื่อถูกถามว่าเขาพอใจกับการทำ 16 ประตูจากการลงเล่น 22 เกมบนเวทีบุนเดสลีกาหรือไม่ ชิค ตอบว่า 'มันเป็นสถิติที่ดีแน่นอน แต่เรารู้ว่าฤดูกาลเริ่มต้นอย่างไร สำหรับผม มันไม่ดีนัก แต่ผมไม่ยอมแพ้ ผมยังคงต้องเตรียมพร้อมเมื่อโอกาสมาถึง และเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากผมลงเล่นอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล เพราะถ้าคุณไม่พร้อม ผมคงไม่มานั่งคุยถึงเรื่องนี้'
'ผมต้องบอกว่าผมรู้สึกดีมากและมีสุขภาพแข็งแรงมาก ผมไม่มีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหรือปัญหาอื่นๆ ที่จะมาขัดขวางคุณ ดังนั้นผมจึงรู้สึกฟิตมาก นั่นช่วยผมในสนามได้อย่างแน่นอน'
เมื่อถูกถามว่าเขาเปลี่ยนแปลงอะไรเกี่ยวกับการฝึกซ้อมหรือทัศนคติ หลังการบาดเจ็บหรือไม่ ชิค กล่าวว่า 'ไม่, เห็นได้ชัดว่าการบาดเจ็บไม่ใช่เรื่องง่ายและตลอดช่วงเวลานั้นก็ไม่ง่ายเลย มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากในอาชีพค้าแข้งของผม และผมอยากจะบอกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากช่วงหนึ่ง'
'นับตั้งแต่ที่ผมกลับมาจากการบาดเจ็บ ผมจะไม่บอกว่าผมเปลี่ยนแปลงอะไรไปมาก ผมอาจใช้เวลามากขึ้นในการทำงานป้องกัน แต่จะไม่บอกว่าผมเปลี่ยนวิธีการของผม ผมพยายามให้ดีที่สุดเสมอและยังคงทำเช่นนั้นอยู่จนถึงตอนนี้'
แม้ เลเวอร์คูเซ่น จะตกรอบ 16 ทีมของรายการแชมเปี้ยนส์ลีกก็ตาม แต่ ชิค มองโลกในแง่ดีว่ามันจะช่วยลดภาระในตารางแข่งขันที่อัดแน่นตลอดช่วงหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้
'ตารางการแข่งขันของเราจะไม่ยุ่งวุ่นวายเหมือนทีมอื่นๆ แต่โดยทั่วไปแล้วมันจะยากมากเมื่อต้องลงเล่นทุกๆ 3 หรือ 4 วันติดต่อกันเป็นเวลาหลายเดือน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย'
เมื่อถูกถามว่าโปรแกรมแข่งขันของ เลเวอร์คูเซ่น ที่ลดน้อยลงทำให้ทีมห้างยาได้เปรียบ บาเยิร์น มิวนิค หรือไม่ ชิค ตอบว่า 'ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นข้อได้เปรียบจริงๆหรือไม่ เพราะมันคือ บาเยิร์น ดังนั้นมันคงจะยากอยู่แล้วไม่ว่าจะทางใดก็ตาม การเผชิญหน้ากับพวกเขามักจะเข้มข้นและยากเสมอ'
'ผมคิดว่าเราอยู่ในระดับเดียวกับพวกเขา เพราะคุณคงจะเห็นแล้วว่าเราสามารถแข่งขันกับพวกเขาได้ แต่พวกเขาทำได้มาหลายปีแล้ว และเราอยู่ในระดับนี้ได้แค่สองปีเท่านั้น ตอนนี้เราสามารถแข่งขันกับสโมสรเหล่านี้ได้ แต่มันเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะแข่งขันในระดับนี้ทุกปี'
'การเผชิญหน้ากับ บาเยิร์น ยิ่งใหญ่มากจริงๆ เพราะ บาเยิร์น ครองความยิ่งให่มาเป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว การที่ เลเวอร์คูเซ่น คว้าแชมป์บุนเดสลีกาเมื่อฤดูกาลที่แล้วถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่ทำให้ลีกน่าดึงดูดและน่าตื่นเต้นมากขึ้น ผมมีความสุขจริงๆที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนั้น'
ปัจจุบัน เลเวอร์คูเซ่น ตามหลังจ่าฝูง บาเยิร์น มิวนิค อยู่ 8 คะแนน ขณะที่เหลือโปรแกรมลงสนามอีกเพียง 9 นัด แต่ ชิค เชื่อว่าการแข่งขันเพื่อแย่งถาดแชมป์บุนเดสลีกายังไม่จบ
'มันยังไม่จบ และคุณไม่มีทางรู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวงการฟุตบอล แม้ว่าเราจะมีคะแนนตามหลังถึง 8 แต้ม แต่เรายังต้องการกดดันพวกเขา บอกตามตรงว่ามันคงยาก แต่เราพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์'
เมื่อถูกถามถึงความสามารถของ โฟลเรียน เวียร์ตซ์ ในการครองบอลเผชิญหน้ากับคู่แข่งอย่าง บาเยิร์น มิวนิค, ชิค กล่าวว่า 'ผมว่ามันเป็นเรื่องของเทคนิคเป็นหลัก เขาสามารถครองบอลได้ระหว่างนักเตะสามคน และนี่คือพรสวรรค์ของเขา มันไม่ใช่แค่กับ บาเยิร์น เท่านั้น เพราะเขาสามารถพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์แบบนี้ได้เป็นส่วนใหญ่'
'สำหรับผมแล้ว มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะผมเห็นมันในการฝึกซ้อมและการแข่งขัน มันไม่ใช่ครั้งแรก และผมเคยเห็นมาแล้วหลายครั้ง อาจดีกว่าถ้าจะถามว่าเขาทำได้อย่างไร แต่มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นพร้อมกัน คุณต้องควบคุมบอล คุณต้องมองเห็นผู้เล่นรอบๆตัวคุณ และสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาเป็นนักเตะที่พเศษมาก ดังนั้นเขาจึงสามารถทำได้ และมีนักเตะเพียงไม่กี่คนที่ทำได้เหมือนเขา'
ชิค ยังนึกย้อนไปถึงความฝันในวัยเด็กของเขาว่า 'ความฝันของผมคือการได้เล่นฟุตบอลในระดับสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การได้เล่นฟุตบอลในระดับนี้ และเล่นต่อหน้าแฟนจำนวนมากในสนามกีฬาดีที่สุดในโลกเป็นเป้าหมายที่ผมมุ่งหวังมาตลอด การแข่งขันในโลกฟุตบอลนั้นสูงมากและมีผู้เล่นมากมาย'
'ดังนั้นโอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จนั้นไม่สูงนัก ผมตั้งเป้าหมายไว้ แต่ไม่เคยแน่ใจว่าจะสามารถบรรลุความปรารถนาเหล่านี้ได้หรือไม่ ดังนั้นผมจึงรู้สึกขอบคุณมากที่สามารถทำสำเร็จ'
ก่อนจะพูดถึงปัจจัยแห่งความสำเร็จของเขาว่า 'ระเบียบวินัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และต้องมีเป้าหมายเสมอและลงมือทำ แม้ว่าตอนที่ผมยังเด็ก ผมอาจไม่ค่อยอยากฝึกซ้อมและขี้เกียจและชอบทำอย่างอื่นมากกว่าก็ตาม แต่ผมรู้เสมอว่ายังต้องทำ เพราะไม่เช่นนั้นผมจะพลาดบางอย่างที่ทำให้ผมผิดหวังในภายหลัง ผมคิดว่าการมีวินัยและการทำงานหนักที่คุณทุ่มเทให้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด'
เมื่อถูกถามถึงช่วงเวลาดีที่สุดในอาชีพค้าแข้งของเขาจนถึงตอนนี้ ชิค ตอบว่า 'การคว้าแชมป์บุนเดสลีกาถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในอาชีพค้าแข้งของผม เช่นเดียวกับการคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล'
'ในศึกยูโรปี 2021 ก็เป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมสำหรับผมในอาชีพค้าแข้งเช่นกัน ซึ่งผมภูมิใจมาก ผมเป็นคนทำประตูสูงสุดร่วมกับ คริสเตียโน่ (โรนัลโด้) นั่นจึงเป็นความทรงจำที่ดี เช่นเดียวกับการคว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์'
ชิค ยังพูดถึงความภูมิใจของเขากับ เลเวอร์คูเซ่น ว่า 'สิ่งที่เราทำในฤดูกาลที่แล้วน่าเหลือเชื่อมาก นั่นคือการคว้าแชมป์บุนเดสลีกาโดยไม่แพ้ใคร สุดท้ายแล้วเราพ่ายแพ้เพียงเกมเดียวในนัดชิงชนะเลิศยูโรปาลีก ผมจะบอกว่าผมภูมิใจกับทีมของผมในช่วงท้ายของทุกเกม และเราไม่แพ้ใคร'
'การทำแบบนี้ได้ 50 ครั้งสมควรได้รับความเคารพ และเรายังทำประตูในช่วงท้ายเกมได้จำนวนมากด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ยากมาก ผมคิดว่าทีมสมควรได้รับความเคารพหลังจากจบเกมในแต่ละเกมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว'
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT