เส้นทางอาชีพของกาซาโด้

มันเป็นฤดูกาลพิเศษสำหรับ บาร์เซโลน่า ภายใต้การกุมบังเหียนของ ฮันซี่ ฟลิค ที่ยังอยู่เส้นทางลุ้นแชมป์ 3 รายการทั้ง ลา ลีกา, แชมเปี้ยนส์ลีก และ โกปา เดล เรย์ หลังสอยแชมป์ ซูเปร์ โกปา เด เอสปันญ่า มาก่อนหน้านี้
การมาถึงของ ฟลิค มีส่วนผลักดันแข้งดาวรุ่งขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่หลายคนและหนึ่งในนั้นคือ มาร์ก กาซาโด้ ที่ก้าวขึ้นมาแบกรับภาระสำคัญในช่วงต้นฤดูกาล หลังการบาดเจ็บของ เฟรงกี้ เดอ ย็อง และ มาร์ก เบร์นาล อีกหนึ่งแข้งอายุน้อย
กาซาโด้ ลงเล่นทุกรายการรวมกัน 35 เกม ทำ 1 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้ ก่อนมิดฟิลด์วัย 21 ปีจะโชคร้ายได้รับบาดเจ็บเอ็เข่าขวาจากเกมบุกชนะ แอตเลติโก มาดริด 4-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาส่งผลให้ต้องพักแข้งอย่างน้อย 2 เดือน
ก่อนหน้านี้ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ เทรนเนอร์ทีมชาติสเปนเรียกตัว กาซาโด้ ติดทัพกระทิงครั้งแรกในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว พร้อมส่งมิดฟิลด์ดาวรุ่งของ บาร์เซโลน่า ลงประเดิมสนามฐานะสำรองในเกมชนะ เดนมาร์ก 2-1 บนเวที ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน
กาซาโด้ ยังมีชื่อติดโผชุดทำศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก รอบ 8 ทีมกับ เนเธอร์แลนด์ส ในช่วงเดือนนี้ด้วย แต่ด้วยปัญหาบาดเจ็บทำให้เขาต้องถอนตัวโดยปริยาย
มิดฟิลด์วัย 21 ปีเคยพูดถึงแรงบันดาลใจหลังถูกเรียกตัวติดทัพกระทิงก่อนหน้านี้ว่า 'การถูกเรียกตัวติดทีมชาติเป็นเรื่องพิเศษเสมอมา และมันเป็นความฝันของนักฟุตบอลทุกคนเมื่อพวกเขาได้ลงสนาม และตอนนี้ผมต้องเผชิญหน้ากับมันด้วยความกระตือรือร้น'
'ในการเรียกตัวครั้งก่อน ผมไม่ค่อยรู้จักเพื่อนร่วมทีม แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไป และผมจะเผชิญหน้ากับมันด้วยความกระตือรือร้นและความปรารถนาที่จะทำผลงานให้ดีเช่นเดิม'
กาซาโด้ ยังพูดถึงการสูญเสียครั้งสำคัญของสโมสร หลังด็อกเตอร์ การ์เลส มีนาร์โร่ การ์เซีย แพทย์ประจำทีมเสียชีวิตแบบกระทันหันว่า 'ใช่, มันเป็นช่วงสัปดาห์ที่ซับซ้อน เนื่องจากการสูญเสียแพทย์ประจำทีม และเรายังคงโศกเศร้ากับการสูญเสียครั้งนี้'
'มันเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ แต่เหมือนที่โค้ชพูด สิ่งดีที่สุดที่เราทำได้ในตอนนี้คือการทำผลงานให้ดีที่สุดและคว้าแชมป์เพื่อเขาและครอบครัวของเขา และผมคิดว่าทีมมีแรงจูงใจที่จะทำเช่นนั้น'
มิดฟิลด์วัย 21 ปียังพูดถึงการเผชิญหน้ากับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีม หลังการฝ่าด่านยากอย่าง เบนฟิก้า ในรอบที่ผ่านมา
'มันจะเป็นเกมที่ยากมาก เพราะเราอยู่ในรอบก่อนรองชนะเลิศของแชมเปี้ยนส์ลีก และไม่มีคู่ต่อสู้ที่ง่ายเลย โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในทัวร์นาเมนต์นี้ และเกมของเราที่นั่นก็ซับซ้อนด้วย' กาซาโด้ กล่าวถึงเกมที่ทัพอาซูลกราน่าบุกชนะทีมเสือเหลือง 3-2 ในรอบ ลีก เฟส
'แต่ผมเชื่อว่าทีมมีความมั่นใจและความทะเยอทะยานที่จะทำสิ่งที่สวยงาม และเรายังใจเย็นและพร้อมสำหรับความท้าทายนี้'
จากนั้นเมื่อถูกถามว่าเขารู้สึกประหลาดใจหรือไม่ที่ บาร์เซโลน่า กลายเป็นทีมเต็งในทุกรายการที่พวกเขามีส่วนร่วมในฤดูกาลนี้ กาซาโด้ ตอบว่า 'ทำไมจะไม่ล่ะ? ในท้ายที่สุด เราคือ บาร์เซโลน่า และเรามุ่งมั่นในการอย่างเสมอ และเราต้องต่อสู้เพื่อทุกอย่าง'
'ฤดูกาลนี้ เราทำได้ดี เรายังคงอยู่ในการแข่งขันเพื่อไล่ล่าทุกแชมป์ เราอยู่ในตำแหน่งผู้นำของลีก และเรากำลังต่อสู้ในทัวร์นาเมนต์อื่นๆด้วย'
'ผมคิดว่าทีมกำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ ตอนนี้เรากำลังเข้าใกล้ช่วงที่สำคัญสุดที่ทุกอย่างจะถูกตัดสิน และผมคิดว่าทีมมีความมั่นใจที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งนั้น'
กาซาโด้ ยังกล่าวชื่นชม ฮันซี่ ฟลิค สำหรับทุกอย่างที่เทรนเนอร์ชาวเยอรมันทำและวิธีที่เขาทำให้ขุมกำลังมีความสดใหม่และมีแรงจูงใจตลอดเวลา
'ฟลิค เป็นคนที่ใกล้ชิดกับเรามากในฐานะนักเตะ เขาพูดคุยกับพวกเราทุกคนและชอบติดต่อกับเราโดยตรง และผมคิดว่านั่นทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น'
'ห้องแต่งตัวเป็นหนึ่งเดียวกันมาก และเราช่วยเหลือกันมาก และนั่นสะท้อนให้เห็นในการแข่งขัน'
ปีนี้ถือเป็นฤดูกาลพิเศษสำหรับ กาซาโด้ เนื่องจากเขาได้โอกาสลงเล่นกับทีมชุดใหญ่และทีมชาติสเปน ก่อนจะถูกสกัดดาวรุ่งด้วยการบาดเจ็บเท่านั้น
'ผมรู้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่สำคัญมากสำหรับผม เพราะมันเป็นย่างก้าวสำคัญในการขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ ผมเชื่อว่าผมสามารถทำผลงานได้ดีด้วยความมั่นใจของโค้ชและเพื่อนร่วมทีม'
'อย่างที่ผมพูด สถิติต่างๆเป็นเรื่องดี แต่ตอนนี้เป้าหมายของผมคือการจบฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์'
มิดฟิลด์วัย 21 ปียังไม่รู้สึกท้อแม้ว่าจะสูญเสียตำแหน่งให้ เฟรงกี้ เดอ ย็อง หลังมิดฟิลด์ชาวดัตช์ฟิตสมบูรณ์ก็ตาม 'ท้ายที่สุดแล้ว ผมยังเป็นนักเตะอายุน้อย และนี่คือฤดูกาลแรกของผมในลีกระดับชั้นนำ เฟรงกี้ เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม และเขาทำผลงานได้อย่างน่าทึ่งในฤดูกาลนี้'
'แต่ผมยังใจเย็น ผมมั่นใจ และผมจะทำงานหนักต่อไปเพื่อกลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิม'
มิดฟิลด์วัย 21 ปียังพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมิดฟิลด์ชาวดัตช์ พร้อมเน้นย้ำว่าการแข่งขันระหว่างกันไม่ได้สร้างรอยร้าวภายในทีมแต่อย่างใด
'ความสัมพันธ์ของผมกับ เฟรงกี้ ยอดเยี่ยมมาก เขาเป็นคนดีและเป็นมืออาชีพมาก มันเป็นเรื่องปกติที่ตอนนี้เขาจะได้ลงเล่นมากกว่าผม แต่เราทั้งคู่เข้ากันได้ดี'
'ที่ ลา มาเซีย, พวกเขาสอนให้เราแข่งขันกันด้วยความสัมพันธ์อันดี และผมคิดว่านั่นช่วยทีมได้มาก'
กาซาโด้ ยังพูดถึงช่วงเวลาที่อยู่ใน ลา มาเซีย และบทเรียนที่เขาเรียนรู้จากศูนย์ฝึกอันเลื่องชื่อของสโมสรว่า 'ที่ ลา มาเซีย, พวกเขาสอนให้คุณเล่นเป็นทีม และตั้งแต่ยังเด็ก ทุกทีมต่างก็เล่นแบบเดียวกันหมด'
'การสร้างแนวคิดและเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับสโมสรแห่งนี้ และเรายังเรียนรู้คุณค่าของการแข่งขันและการทำงานเป็นทีมด้วย'
กาซาโด้ ยังพูดถึงเรื่องที่ว่าตอนนี้อาจกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับนักเตะที่ก้าวขึ้นมาจาก ลา มาเซีย จะลงประเดิมสนามและกลายเป็นขาประจำในทีมชุดใหญ่ของ บาร์เซโลน่า
'ตอนนี้ มันดูเหมือนว่าถ้าคุณไม่ได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ตอนอายุ 17 ปี คุณก็จะไม่ได้ลงเล่น แต่ผมใช้เวลาส่วนใหญ่กับทีมเยาวชนและเรียนรู้อะไรมากมาย'
'ผมเล่นกับทีมสำรองของ ราฟา มาร์เกซ เป็นเวลา 2 ปี และนั่นช่วยให้ผมเติบโตขึ้นทั้งในฐานะนักเตะและในฐานะคนๆหนึ่ง'
'เขาสอนผมหลายอย่าง ไม่ใช่แค่ในฐานะนักเตะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในฐานะบุคคลด้วย เขาสอนผมทุกอย่าง และผมจำได้ว่าเขาให้ผมฝึกซ้อมการส่งบอลครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะเขาเก่งมาก'
มิดฟิลด์ดาวรุ่งยังพูดถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากด้วยความอดทนและรอคอยโอกาสของเขาว่า 'มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากเพราะผมเห็นว่าความฝันของผมใกล้เกิดขึ้นแล้ว แต่มันยังไม่เป็นจริง อย่างไรก็ตาม ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากประสบการณ์นั้น มันทำให้ผมเติบโตเป็นผู้ใหญ่และมีความพร้อมมากขึ้น'
กาซาโด้ ยังแสดงความปรารถนาว่าจะค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ไปตลอดอาชีพของเขาว่า 'ผมหวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้น ผมอยากใช้ชีวิตตลอดอาชีพทั้งหมดของผมที่ บาร์เซโลน่า และรีไทร์ที่นี่ นี่คือความฝันของผม มันคือสโมสรที่ผมรัก'
'ผมหวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้น อย่างที่ผมบอก เป้าหมายของผมคือการอยู่ที่นี่ให้นานที่สุดและยุติอาชีพของผมที่ บาร์เซโลน่า'
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT