แง่มุมจากอดีตมือขวาชาบี

เซร์คิโอ อาเลเกร วัย 47 ปีเคยมีประสบการณ์สำคัญกับ บาร์เซโลน่า ถึง 2 ช่วงเวลา ซึ่งทั้งสองช่วงนั้นมีอิทธิพลต่อสโมสรอย่างมาก ทั้งการทำงานฐานะโค้ชใน ลา มาเซีย ระหว่างปี 2001-2006 ที่ช่วยพัฒนานักเตะพรสวรรค์ในขณะนั้น 

ก่อนเขาจะใช้เวลา 3 ปีเป็นผู้ช่วยของ ชาบี เอร์นานเดซ ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2021 จนถึงซัมเมอร์ปี 2024 จนกระทั่งย้ายมารับตำแหน่งผู้ช่วยโค้ชของ อัล-ซาดด์ สโมสรกาตาร์ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา

อาเลเกร ได้พูดคุยเกี่ยวกับแง่มุมต่างๆของสโมสร รวมถึงปรัชญาของ ชาบี และแนวทางของเทรนเนอร์วัย 45 ปีที่มีต่อนักเตะดาวรุ่งของทีมอาซูลกราน่า โดยเน้นย้ำว่า ชาบี มีความมั่นใจในบรรดาผู้เล่นอายุน้อยมาตลอด เขาไม่เคยลังเลที่จะมอบโอกาสให้พกวเขาเมื่อสมควรได้รับ และการปรากฎตัวของ ลามีน ยามาล เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้ 

'ชาบี ชอบเดิมพันกับนักเตะดาวรุ่ง และเขาเป็นคนกล้าหาญเสมอมา และไม่เคยลังเลใจกับ ลามีน หรือนักเตะดาวรุ่งคนอื่นๆ' อาเลเกร กล่าว

'มันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากที่ได้ประเดิมสนามในวัยเพียง 15 ปี แต่ ชาบี กลับไม่ลังเลเลยและตอนนี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าเขาเป็นนักเตะแห่งอนาคตของ บาร์เซโลน่า' 

บางคนอาจโต้แย้งว่า ยามาล ถูกส่งลงสนามด้วยความจำเป็น แต่มันไม่ใช่แบบนั้น เมื่อเขาก้าวขึ้นมาอยู่ในทีมครั้งแรก แม้ว่า บาร์เซโลน่า จะมีแนวรุกที่มีประสบการณ์อย่าง ราฟินญ่า และ อุสมาน เดมเบเล่ ก็ตาม

'เราเห็นว่า ลามีน ควรเป็นผู้เล่นอ้างอิงสำหรับ บาร์เซโลน่า ในอนาคต มันเป็นเรื่องจริงที่เรามี เดมเบเล่ และ ราฟินญ่า ในตำแหน่งของเขา และเราไม่จำเป็นต้องส่งพวกเขาลงสนาม แต่เขายังได้รับโอกาส'

อย่างไรก็ตามมันชัดเจนแล้วว่า ยามาล มีศักยภาพที่จะเป็นผู้เล่นหลักสำหรับอนาคตของสโมสร ผลงานของเขาในการฝึกซ้อมนั้นยอดเยี่ยมมาก และทีมสตาฟฟ์ก็ยอมรับในพรสวรรค์อันมหาศาลของเขา

'ในการฝึกซ้อม เราเห็นผลงานของเขาอย่างจริงจัง และเทรนเนอร์ที่ดูแลด้านร่างกายของเราก็ทำงานของเขาได้ดีมาก'

แม้ว่า ยามาล จะมีปัญหาในเกมกับ โอซาซูน่า แต่เขากลับมาทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมในการเผชิญหน้ากับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จากนั้นก็ยังพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณโค้ชฟิตเนสที่ทำงานอย่างใกล้ชิดกับเขาด้วยเช่นกัน

'ผมจำได้ว่าเขาผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในเกมกับ โอซาซูน่า ในการเผชิญหน้ากับผู้เล่นอย่าง ฆวน กรูซ (อัลบาโร่) มาได้อย่างไร จนสามารถเอาชนะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง หลังจากนั้น ในด้านร่างกาย เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างมาก'

อีกหนึ่งแข้งดาวรุ่งที่ อาเลเกร พูดถึงคือ เปา กูบาร์ซี่ ในช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันที่สโมสร ซึ่งมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นตั้งแต่ทีมชุดใหญ่, บาร์ซ่า แอธเลติก และ ฆูเบนีล อา 

'ความจริงคือในช่วงเวลาของเรา มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ บาร์เซโลน่า, บาร์ซ่า แอธเลติก และ ฆูเบนีล อา และเรามักจะนำผู้เล่นมาฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่เสมอ และ กูบาร์ซี่ กับ (มาร์ก) กาซาโด้ ต่างเข้าร่วมการฝึกซ้อมเหล่านี้เสมอ'

ความสามารถในการผ่านบอลของ กูบาร์ซี่ เป็นเรื่องที่น่าทึ่ง และเขายังเข้ากับรูปแบบของเซนเตอร์แบ็กในแบบฉบับของ บาร์เซโลน่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ ชาบี ต้องการในตำแหน่งนั้น

'เขาเป็นเซนเตอร์แบ็กในแบบฉบับของ บาร์เซโลน่า และนั่นคือสิ่งที่ ชาบี มองหาในตำแหน่งนี้' 

แม้จะอายุเพียง 17 ปี แต่ กูบาร์ซี่ ก็ได้รับความไว้วางใจในบทบาทที่ประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่ง อาเลเกร เชื่อว่าทีมอาซูลกราน่าได้กองหลังเปี่ยมคุณภาพที่สามารถรับใช้สโมสรไปได้อีกถึง 15 ปี

'เขาอายุเพียง 17 ปี แต่นั่นคือสิ่งที่เรากำลังมองหา และ ชาบี ก็ไม่ลังเลแม้ว่าเรื่องประสบการณ์จะเป็นปัจจัยสำคัญในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กก็ตาม กับ กูบาร์ซี่ เราจะมีนักเตะที่ยอดเยี่ยมในอีก 15 ปีข้างหน้า'

ต่อด้วยการพูดถึง เฟร์มีน โลเปซ ซึ่งเป็นอีกหนี่งแข้งดาวรุ่งที่มีความโดดเด่น ในฤดูกาลแรกกับทีมชุดใหญ่ มิดฟิลด์วัย 21 ปีลงฝึกซ้อมเพียงไม่กี่ครั้ง แต่เขาก็สร้างความประทับใจแก่สตาฟฟ์เทรนเนอร์

'ในฤดูกาลแรกของเรา เฟร์มีน เข้าร่วมการฝึกซ้อมบางเซสชั่นและเราชอบเขามาก เขามาฝึกซ้อม 3 หรือ 4 ครั้ง และเขาก็โดดเด่นมาก'

'จากนั้น บาร์เซโลน่า ส่ง เฟร์มีน ย้ายไปเล่นกับ ลีนาเรส ด้วยสัญญายืมตัว ซึ่งช่วยให้เขามีความเข้าใจถึงความต้องการในการเล่นให้ บาร์เซโลน่า'

เมื่อกลับมาจาก ลีนาเรส ผลงานของเขาในช่วงปรีซีซั่นนั้นยอดเยี่ยมมาก นั่นทำให้ เฟร์มีน ได้ตำแหน่งในทีมชุดใหญ่อย่างที่เขาสมควรได้รับ ความเก่งกาจและจรรยาบรรณในการทำงานของมิดฟิลด์วัย 21 ปีทำให้เขาเป็นอีกหนึ่งทรัพยากรที่มีค่าสำหรับทีม

'ในช่วงปรีซีซั่นเมื่อปีที่แล้ว เขาโดดเด่นมากอีกครั้งเพราะ เฟร์มีน ทำหลายๆอย่างได้เป็นอย่างดี เขาเป็นเด็กที่ยอดเยี่ยม และในช่วงปรีซีซั่น เขาสมควรได้รับตำแหน่งของเขา'

อาเลเกร ยังพูดถึงผลงานของ ชาบี ที่ บาร์เซโลน่า ว่าเป็นสิ่งที่ควรชื่นชมเมื่อพิจารณาจากการเผชิญกับปัญหามากมายของเขาในช่วงเวลาดังกล่าว

'เรารู้สึกมีส่วนร่วมกับสถานการณ์ในปัจจุบันของ บาร์เซโลน่า และรูปแบบการเล่นของพวกเขา พวกเขาเล่นในระดับสูง และโฟกัสไปที่การคว้าแชมป์ทุกรายการ ผมรู้สึกแย่เมื่อผลงานของ ชาบี ถูกวิพากษ์วิจารณ์เมื่อเปรียบเทียบกับเทรนเนอร์คนปัจจุบัน'

อาเลเกร เผยว่าเขารู้สึกว่าการเปรียบเทียบระหว่าง ชาบี กับ ฮันซี่ ฟลิค นั้นไม่ยุติธรรม เพราะแต่ละขั้นตอนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

'ผมไม่คิดว่ามันจำเป็นต้องโจมตีโค้ชคนก่อนเพื่อเพิ่มมูลค่าให้โค้ชคนปัจจุบัน ผมคิดว่าทุกอย่างมันเป็นกระบวนการที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง' 

เมื่อมองย้อนกลับไป อาเลเกร ยังคงพอใจกับผลงานที่พวกเขาทำสำเร็จ และมีความสุขที่ได้เห็นสโมสรเดินหน้าไปในทิศทางที่ดีในปัจจุบัน

ส่วนช่วงเวลาที่เขาทำงานร่วมกับ ชาบี นั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ก็มีความสำเร็จที่ยังคงหล่อหลอมอนาคตของ บาร์เซโลน่า ต่อไป

'เราต้องชื่นชมช่วงเวลาที่ ชาบี เข้ามารับหน้าที่โค้ชของทีม การรับหน้าที่โค้ชนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จากนั้นพวกเขาก็คว้าแชมป์และมอบโอกาสให้กับนักเตะที่ตอนนี้กลายเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีม'

'เรารู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนั้นและมีความสุขที่ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี เราเสี่ยงและตัดสินใจ และเรารู้สึกว่ามีส่วนร่วมในช่วงเวลานี้'