แนวทางรับแรงกดดันของยามาล

ลามีน ยามาล กลายเป็นนักเตะคนสำคัญของ บาร์เซโลน่า และทีมชาติสเปนด้วยวัยเพียง 17 ปี เขาได้รับความเคารพและการชื่นชมจากแฟนๆและเพื่อนร่วมทีม โดยเฉพาะการหวนคืนทัพกระทิงอีกครั้งหลังจากไม่ได้ลงเล่นทีมชาติมานาน 4 เดือน ก่อนการลงเผชิญหน้ากับ เนเธอร์แลนด์ส บนเวที ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 

'ดีมาก เรามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมาก ทุกคนต้อนรับคุณเป็นอย่างดีในทีมนี้ ผมมีความสุขมากที่ได้พบกับเพื่อนร่วมทีมอีกครั้ง และตอนนี้มันถึงเวลาสนุกและลงเล่นแล้ว' ยามาล กล่าวด้วยความตื่นเต้นที่กลับมาลงเล่นกับทัพกระทิงอีกครั้ง

น่าเสียดายที่เพื่อนร่วมทีมของ ยามาล อย่าง มาร์ก กาซาโด้ ต้องพลาดการลงเล่นกับทัพกระทิง หลังมิดฟิลด์วัย 21 ปีบาดเจ็บเอ็นเข่าขวาจากเกมบุกชนะ แอตเลติโก มาดริด 4-2 

'หลังจากเกมกับ แอตเลติโก มาดริด ผมถามเขาว่าจะไปแคมป์ฝึกซ้อมอย่างไร เขาบอกว่าต้องเข้ารับการสแกนเอ็มอาร์ไอ เพราะบาดเจ็บเข่า' ยามาล เผย

'ผมได้คุยกับเขาเมื่อวานนี้ และส่งข้อความถึงเขาเพื่อขอให้เขาฟื้นตัวกลับมาเร็วๆ เมื่อเขากลับมา ผมจะไปเยี่ยมเขาและเราจะได้ใช้เวลาร่วมกัน เราหวังว่าเขาจะฟื้นตัวเร็วๆนี้ เรารักเขามาก'

เมื่อถูกถามถึงฟอร์มการเล่นของ กาซาโด้ ก่อนได้รับบาดเจ็บ แนวรุกวัย 17 ปีกล่าวเสริมว่า 'เขากำลังมีฤดูกาลที่น่าเหลือเชื่อ สำหรับฤดูกาลแรกของเขาในระดับสูง เขาเล่นได้ดีมาก จ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตู และผมดีใจที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีสำหรับเขา'

แม้ถูกมองว่าเขาเป็นผู้นำของทั้ง สเปน และ บาร์เซโลน่า แต่ ยามาล ยังคงมุ่งมั่นที่จะสนุกกับเกมของเขาต่อไป 'ผมออกไปเล่นเพื่อสนุกกับตัวเองและไม่คิดถึงเรื่องนี้ ผมอยากสนุกและมีความสุขกับการเล่นฟุตบอล ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุด และไม่คิดถึงเรื่องพวกนี้'

เมื่อถูกถามถึงการที่ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ นายใหญ่ทัพกระทิง และ ฮันซี่ ฟลิค เทรนเนอร์ทีมอาซูลกราน่าให้ต่างให้กำลังใจเขาโฟกัสกับการเล่นของตัวเอง

'พวกเขาบอกกับผมหลายครั้งมากจนไม่พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันเป็นสิ่งที่คุณควรจำไว้เสมอ' ยามาล กล่าว 'มันจะเจ็บปวดมากหากคุณเริ่มเชื่อว่าคุณเก่งที่สุดในทุกๆด้าน คุณต้องสนุกกับตัวเองและไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่นๆ นั่นคือหนทางข้างหน้า'

เมื่อถามถามถึงความหงุดหงิดตอนถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม เขาตอบว่า 'นั่นแสดงให้เห็นว่าทุกคนต้องการลงเล่น ในช่วงที่ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม นักเตะทุกคนต่างก็หัวเสีย มันเป็นเรื่องปกติ แต่ระหว่างทางไปที่ม้านั่งสำรอง มันก็ผ่านไป'

'เพื่อนร่วมทีมที่เข้ามา เมื่อคุณอยู่ในสนาม เขาต้องการให้คุณทำผลงานให้ดี และท้ายที่สุด มันก็เป็นแบบนั้น'

สเปน จะพบกับ เนเธอร์แลนด์ส ที่มี เฟรงกี้ เดอ ย็อง เพื่อนร่วมทีม บาร์เซโลน่า ลงนำทัพ หลังมิดฟิลด์วัย 27 ปีพลาดการลงเล่นเกมบุกชนะ แอตเลติโก มาดริด เนื่องจากปัญหาเรื่องโรคกระเพาะ

'ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง เขามีปัญหาเรื่องกระเพาะ เมื่อเรารู้ว่าเราจะลงเผชิญหน้ากับ เนเธอร์แลนด์ส เราคุยกันถึงเรื่องนี้ ผมอวยพรให้เขาโชคดี และผมตื่นเต้นที่จะได้เล่นกับเขา เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม เราตั้งตารอที่จะลงเผชิญหน้ากับ เนเธอร์แลนด์ส มาก'

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับแข้งรุ่นเก๋าอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แข้งวัยรุ่นตอบว่า 'มันเป็นสิ่งที่มองเห็นได้ เราเป็นกลุ่มที่ผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้น เรามีความรู้สึกเหมือนเป็นทีมมากกว่าปีที่แล้วมาก นั่นคือกระบวนการตามธรรมชาติเมื่อกลุ่มนักเตะมารวมตัวกันและใช้เวลาร่วมกัน'

'มีแค่ ดานี่ โอลโม่ เท่านั้นที่เข้ามา ซึ่งเคยไปเล่นในศึกยูโรมาแล้ว และเราเป็นนักเตะสเปนหลายคนที่รวมตัวกันเป็นครอบครัวที่ยอดเยี่ยม คุุณมองเห็นได้จากการเฉลิมฉลองกับ อัตเลติโก หรือ เบนฟิก้า เราทุกคนเฉลิมฉลองให้กันและกัน และนั่นคือกุญแจสำคัญของทีม'

ยามาล ยังยกความดีความชอบแก่ ฮันซี่ ฟลิค ที่ช่วยปลูกฝังจรรยาบรรณในการทำงานที่เอาจริงเอาจังว่า 'เขาปลูกฝังในตัวเราว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือความเข้มข้น เราต่อสู้เพื่อกันและกัน เราทุ่มเททุกอย่างเพื่อเสื้อตัวนี้ เพื่อนักเตะ เพื่อแฟนๆ และครอบครัว เราต้องมีความปรารถนาที่จะคว้าชนะอยู่เสมอ'

ลามีน ยังเผยว่า ฟลิค เป็นเจ้านายที่เข้าถึงได้ง่าย โดยกล่าวว่า 'เขาเข้าถึงได้ง่ายมาก เขาใส่ใจทุกคน เขาอธิบายทุกอย่างเพื่อให้คุณรู้ว่าต้องปรับปรุงจุดไหนบ้างหรือไม่ เราชื่นชมเขาสำหรับเรื่องนี้'

เมื่อถูกถามว่าเขาเคยมาสายในการประชุมทีมหรือไม่ ยามาล หัวเราะและกล่าวว่า 'โชดีที่ไม่เคยเลย ไม่เช่นนั้น ผมคงไม่ได้ลงเล่นเหมือนกับที่เกิดขึ้่นกับ ชูลส์ (กันเด้) ฟลิค รู้วิธีที่จะได้รับความเคารพจากทีม'

จากนั้น ยามาล ยังพูดถึงการปรับตัวของเขากับชีวิตนอกศูนย์ฝึก ลา มาเซีย ว่า 'ตอนนี้ผมเปลี่ยนไปในชีวิตที่เงียบสงบมากขึ้น ในบหอพักของศูนย์ฝึก ผมรู้สึกสงบ แต่ข้างนอกจะมีเด็กๆอยู่ที่ประตูเสมอ และคุณไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้ ที่บ้าน ผมสามารถพักผ่อนได้ ผมสามารถเดินทางไปเยี่ยมแม่และพ่อได้ทุกเมื่อที่ต้องการ'

'ผมมีอิสระมากขึ้นเพราะ ลา มาเซีย เป็นหอพัก และมันเป็นเรื่องปกติที่เราจะควบคุมได้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน อย่างไรก็ตาม เมื่อใดก็ตามที่ผมสามารถทำได้ ผมจะกลับไปเยี่ยมเพื่อนๆ ผมรักพวกเขามาก'

ยามาล ตระหนักดีว่าการเป็นแข้งดาวรุ่งในวงการฟุตบอลมีเรื่องให้เสียสมาธิมากมาย 'คุณต้องคิดถึงการเป็นนักฟุตบอลและดูแลตัวเอง ไม่มีใครจะดูแลคุณได้ดีไปกว่าตัวคุณเอง การฝึกซ้อมและการแข่งขันมีอยู่เสมอ ดังนั้นคุณจะต้องมีสมาธิ'

ลามีน ยังพูดถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทีมเยาวชนของบาร์ซ่าว่า 'ผมมีเพื่อนอย่าง ไบรอัน ฟารีนาส และผมดีใจกับเขามาก เราดูเกมชิงชนะเลิศ ขณะรับประทานอาหารกลางวันก่อนเกมกับ แอตเลติโก มาดริด เขาคอยอัปเดตเกี่ยวกับลีกเยาวชนและเกมลีกให้ผมทราบอยู่เสมอ และผมพยายามไปดูเมื่อมีโอกาส'

'การลงเล่นในทีมเยาวชนและทีมเยาวชนนั้นสนุกเพราะมีความสมดุลมากกว่าทีมเยาวชนอื่นๆ ซึ่งโดยปกติแล้วสกอร์จะสูสีกันมาก คุณสนุกกับการดูพวกเขาและดูเพื่อนๆของคุณเล่น' 

เมื่อถูกถามว่าเขายืนกรานในคำพูดของตัวเองหรือไม่ว่าเขาจะเก็บการทำประตูไว้เฉพาะเกมสำคัญๆ ยามาล ชี้แจงว่า 'ทุกแมตช์ต่างมีความสำคัญ แต่พวกเขามักจะพูดเสมอว่าในบริบทของแชมเปี้ยนส์ลีก, อัตเลติโก หรือ เรอัล มาดริด ผมทำผลงานได้ดี'

ยามาล ยังพูดถึงเสียงวิจารณ์ที่ระบุว่าเขายังยิงประตูได้ไม่มากพอว่า 'ตราบใดที่พวกเขาไม่บอกว่าผมอยู่ในฟอร์มที่แย่หรือทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน พวกเขาจะหาทางออกได้เสมอ สิ่งต่อไปที่พวกเขาจะพูดคือผมไม่จ่ายบอล ผมยังใจเย็นมาก'

เมื่อถูกถามว่าเขาสนุกกับการจ่ายบอลมากเท่ากับการทำประตูหรือไม่ แนวรุกวัย 17 ปีตอบว่า 'มันขึ้นอยู่กับการจ่ายบอล ถ้าเป็นการผ่านบอลที่คุณทำแล้วเพื่อนร่วมทีมของคุณผ่านทุถคนเข้าไปทำประตู ผมก็มีความสุข แต่คุณไม่ได้สนุกแบบเดียวกัน'

'อย่างไรก็ตาม ผมมีความสุขเสมอไม่ว่าจะจ่ายบอลหรือทำประตู ตราบใดที่มันเป็นประโยชน์ต่อทีม'

เมื่อพูดถึงพัฒนาการทางร่างกายของเขาระหว่างซีซั่นที่แล้วกับฤดูกาลนี้ ลามีน กล่าวว่า 'มันเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการทางร่างกายของผม ยิ่งผมแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่ ผมจะมีพลังมากขึ้นทั้งส่วนบนและส่วนล่างของร่างกาย คุณเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ ปีที่แล้ว ผมไม่สามารถผ่านกองหลังสามคนได้ เพราะร่างกาย'

'ผมยังไม่แข็งแกร่งพอ ตอนนี้ ผมทำประตูจากกลางสนามได้แล้ว มันเป็นส่วนหนึ่งของงาน ตอนนี้เราเล่นเกมสวนกลับเร็วบ่อยมาก และคุณต้องมีความอดทนเพื่อเดินหน้าต่อไปในเกมแล้วเกมเล่า'

เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ยิ่งใหญ่อย่าง ลีโอเนล เมสซี่ และ อันเดรส อีเนียสต้า ที่ไม่เคยพุ่งล้มเลยเมื่อถูกทำฟาวล์ ลามีน ตอบว่า 'ทุกคนต่างตอบสนองต่อการถูกทำฟาวล์แตกต่างกันออกไป หากคุณถูกอัดและคนอื่นพูดว่าคุณพุ่งล้ม พวกเขาก็ต้องพิจารณาถึงความเร็วที่คุณวิ่งด้วย ในหัวข้อนี้ ผมไม่มีข้อมูลอ้างอิง เมื่อถูกอัด ผมก็ล้มลง และเมื่อผมสามารถก้าวต่อไปได้ ผมก็ล้มลง'

ยามาล ยังพูดถึงโอกาสคว้าแชมป์ของ บาร์เซโลน่า ในฤดูกาลนี้ว่า 'ผมรู้สึกถึงฤดูกาลก่อนที่ เปแอสเช เขี่ยเราตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีก ผมรู้สึกถึงการเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่คว้าชัยชนะ'

'ในฤดูกาลที่แล้วอย่างเกมกับ แอตเลติโก  มาดริด เมื่อวันอาทิตย์ เราคงไม่ชนะ เหมือนเกมกับ เบนฟิก้า ตอนนี้เรามีความรู้สึกว่าเป็นทีมที่ต้องการมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ'

เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ในการเผชิญหน้ากับ เรอัล มาดริด บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ ว่า 'ทำไมจะไม่ล่ะ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเกรงกลัวทีมไหนเลย ผมเคยบอกไปแล้วว่า ลิเวอร์พูล เป็นทีมเต็งเพราะพวกเขาจบอันดับหนึ่งในรอบ ลีก เฟส แต่หลังจากพวกเขา เราเป็นทีมลำดับถัดมา'

'เราไม่เกรงกลัวใคร เราเป็นทีมที่ทำร้าย เรอัล มาดริด มากที่สุด และพวกเขาก็ทำแบบเดียวกันกับเรา' 

เมื่อถูกถามว่าเขาเชื่อจริงๆหรือไม่ว่า บาร์เซโลน่า เป็นทีมเต็งที่มีโอกาสคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นนี้ ยามาล ตอบว่า 'ถ้าคุณไม่เชื่อว่าตัวเองเป็นทีมเต็ง คุณก็จะเริ่มแพ้แล้ว คุณไม่สามารถคิดถึงการพ่ายแพ้ คุณต้องเชื่อว่าคุณคือทีมดีที่สุด เป็นทีมที่เล่นได้ดีที่สุด และมีโอกาสชนะมากที่สุด'