:::     :::

จุดพลิกผันของราฟินญ่า

วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม 2568 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
585
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ราฟินญ่า กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มดีที่สุดในอาชีพของเขา หลังการโน้มน้าวของ ฮันซี่ ฟลิค ที่ทำให้แนวรุกชาวบราซิเลียนตัดสินใจค้าแข้งกับทัพอาซูลกราน่าต่อไป

ราฟินญ่า เป็นหนึ่งในผู้เล่นแนวรุกที่ทำผลงานดีสุดในซีซั่นนี้ของ บาร์เซโลน่า และการเติบโตของเขาในช่วงปีที่ผ่านมาถือเป็นเรื่องที่น่าประทับใจอย่างมาก หลังประสบปัญหาพอสมควรในช่วงสองฤดูกาลแรกที่ค้าแข้งกับยักษ์แคว้นกาตาลุนย่า นับตั้งแต่ย้ายมาจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์ปี 2022

ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ราฟินญ่า ทำรวมกัน 27 ประตูกับ 14 แอสซิสต์ จากการลงเล่นทุกรายการ 42 เกม ซึ่งมากกว่าช่วง 2 ปีแรกที่ทำเพียง 20 ประตูกับ 5 แอสซิสต์ 

แนวรุกวัย 28 ปีได้พูดถึงประเด็นต่างๆมากมายเกี่ยวกับความขัดแย้งเรื่องอนาคตค้าแข้งของเขาในช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเขาคิดถึงการย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า เช่นกัน

'ผมกำลังคิดจะย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า หลังจบศึก โกปา อเมริกา เพราะผมรู้สึกไม่สบายใจจนกระทั่ง (ฮันซี่) ฟลิค โทรหาผม' ราฟินญ่า กล่าวหลังฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ทำให้เขาอยูในจุดที่ไม่ดีนัก 

จากนั้น ราฟินญ่า เริ่มเล่าเพิ่มเติมว่ามันเป็นเรื่องยากแค่ไหนที่ต้องทนฟังข่าวการย้ายสังกัดของเขาทุกสัปดาห์ แม้แต่สื่อยังสร้างเรื่องราวว่าเขาไม่เหมาะกับการประสบความสำเร็จในแคว้นกาตาลุนย่า


'ช่วงนั้นเป็นเวลาที่วุ่นวายมาก ทุกวันเราได้ยินข่าววาผมจะย้ายไปทีมใดทีมหนึ่ง สิ่งต่างๆไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น ผมมีฤดูกาลที่แย่กว่าที่คาดไว้ และผมเห็นคนเรียกร้องให้ผมย้ายออกจากทีม และทุกวันก็มีข่าวการจากไปของผม'

'ผมคิดอย่างจริงจังที่จะย้ายออกจากทีม' แนวรุกชาวบราซิเลียนกล่าวเสริม ก่อนจะพูดถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาตัดสินใจค้าแข้งกับทัพอาซูลกราน่าต่อไปมาจากความไว้วางใจของ ฟลิค 

'ฟลิค โทรหาผมและขอให้ผมไปฝึกซ้อมก่อนตัดสินใจ เพราะเขาอยากพูดคุยกับผมและหวังพึ่งพาผม นั่นเป็นจุดเปลี่ยนในการตัดสินใจอยู่ต่อของผม'

จากนั้น ราฟินญ่า ยังเผยว่าเขาได้จับเข่าพูดคุยกับภรรยาถึงความมั่นใจของเขาว่าสามารถโน้มน้าวโค้ชคนใดก็ตามในโลกนี้ หากพวกเขามองเห็นคุณค่าของการทำงานหนักและความมุ่งมั่น

'ผมคุยกับภรรยาและบอกกับเธอว่า ถ้าชายคนนี้มีความยุติธรรมและมองเห็นความพยายามที่ผมทุ่มเทในการฝึกซ้อม ผมจะทำให้เขามอบความรักให้ผมภายในหนึ่งสัปดาห์ และเขาจะไม่เสียใจ และผมคิดว่าผมคิดถูกต้อง'

จากนั้นแนวรุกชาวบราซิเลียนยังพูดถึงการกลับสู่เวอร์ชั่นดีที่สุดของเขา และแง่มุมทางจิตใจของเกมที่มีความสำคัญพอๆกันด้านร่างกายในการนำมาซึ่งผลงานในระดับดังกล่าว


'ด้านจิตใจมีความสำคัญมากกว่าการดูแลร่างกายของคุณ หากในหัวของคุณไม่เป็นปกติ ร่างกายของคุณจะไม่ตอบสนองอย่างที่ควรจะเป็น'

'ในช่วงกลางฤดูกาลที่แล้ว หลังจากได้รับบาดเจ็บ ผมได้เพิ่มความเข้มข้นในการทำงานรวมกับนักจิตวิทยา และทั้งหมดนี้ช่วยผมได้มาก และทำให้ผมเข้าใจตำแหน่งของตัวเองไม่เพียงแค่ในฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในชีวิต ในฐานะชายคนหนึ่ง ในฐานะพ่อ และในฐานะสามี' 

'ผมคิดว่าเรื่องนี้สำคัญกว่าการดูแลร่างกายมาก' ราฟินญ่า กล่าว

แนวรุกชาวบราซิเลียนยังเผยว่าเขาเป็นคนที่เกลียดความพ่ายแพ้ในทุกกรณี ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขามีความมุ่งมั่นเพื่อคว้าชัยชนะเสมอ 

'ผมเป็นคนเกลียดการพ่ายแพ้ ผมไม่ชอบแพ้ ไม่วาจะเป็นในฟุตบอล วิดีโอเกม หรือที่บ้านก็ตาม'

'ผมไม่รู้ มันเป็นแค่ความรู้สึกแย่ๆที่ผมมี และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมมาถึงจุดนี้ ความปรารถนาที่จะพัฒนา ความปรารถนาที่จะคว้าชัยชนะ ไม่ว่าใครก็ตามที่เข้ามาใหม่จะสังเกตเห็นสิ่งนี้' 

ราฟินญ่า ยังพูดถึงความสำคัญของการรักษามาตรฐานและความคิดของตัวเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาต้องเป็นแบบอย่างให้ผู้เล่นอายุน้อยหลายคนในห้องแต่งตัว

'ผมสังเกตเห็นความปรารถนาของคนอื่นๆที่จะชนะด้วย เรามองเห็นคนอายุมากกว่าและวิธีที่พวกเขาปฏิบัติ ผมรู้ว่าผมอาจเป็นแบบอย่างสำหรับบางคน และผมพยายามทำให้พวกเขาเห็นบางอย่างที่เป็นบวกในตัวผม'

'ความปรารถนาที่จะคว้าชัยชนะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในวงการฟุตบอล หากคุณกลับมาด้วยความสุขจากเกมที่คุณแพ้หรือเสมอ คุณจะไม่รู้สึกถึงฟุตบอลอย่างที่ควรจะเป็น'


แนวรุกวัย 28 ปียังพูดถึงการเก็บ 3 คะแนนซึ่งเป็นผลลัพธ์เดียวที่ยอมรับได้เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ในปัจจุบันของ บราซิล บนเวทีฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก

'การคว้า 3 คะแนนในแมตช์ที่เราต้องการเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ในขณะนี้ เรากำลังมองหาการทำงานดีที่สุดของเรา เรายังไม่ได้อยูในช่วงดีที่สุด แต่เรากำลังมองหามัน สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือการคว้าชัยชนะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม'

'เห็นได้ชัดว่าเราต้องการทำงานให้ดี แต่เรากำลังอยู่ในช่วงที่เราต้องส่งมอบผลงาน ผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด'

'เราอยูในช่วงเวลาที่การเล่นเกมให้ดีแล้วแพ้ไม่เพียงพอ ฟุตบอลเป็นเรื่องของผลการแข่งขัน และไม่สำคัญว่าคุณจะเล่นอย่างไร'

ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ทำให้หลายคนมองว่า ราฟินญ่า เป็นอีกหนึ่งตัวเต็งที่มีโอกาสคว้ารางวัล บัลลง ดอร์ แต่แนวรุกวัย 28 ปีเผยว่านั่นไม่ใช่เป้าหมายโดยตรงของเขา

'บอกตามตรง รางวัล บัลลง ดอร์ ไม่ใช่เป้าหมายส่วนตัว เป้าหมายของผมคือการทำประตู, แอสซิสต์ และคว้าแชมป์กับ บาร์เซโลนา และทีมชาติ เมื่อทุกอยางเป็นไปด้วยดีสำหรับสโมสรและประเทศ นักเตะแต่ละคนจะเปล่งประกายออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ'

เมื่อถูกถามถึงการเป็นผู้เล่นแนวรุกดีที่สุดในตอนนี้ ราฟินญา กล่าวว่า 'ถ้าผมได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล บัลลง ดอร์ ถือเป็นชัยชนะในตัวมันเอง หลังจากทุกอย่างที่ผมผ่านมาในอาชีพค้าแข้ง การได้อยู่ตรงนั้นถือเป็นชัยชนะแล้ว ผมพยายามไม่โฟกัสที่สิ่งนั้น ผมโฟกัสที่ฟุตบอล เกมแล้วเกมเล่า การฝึกซ้อมแล้วฝึกซ้อม'


ราฟินญ่า กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มที่ดี แต่แนวรุกวัย 28 ปีก็ยกเครดิตให้ทีมเช่นกันสำหรับความสำเร็จทั้งหมดของเขา

'ผมคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างเชื่อมโยงกัน หากทีมไม่ดี ผลงานของแต่ละคนจะไม่อยู่ที่นั่น นั่นคือข้อเท็จจริง'

'ตั้งแต่เริ่มต้น เรามีฤดูกาลที่ดี และผู้เล่นเริ่มเปล่งประกาย ไม่ใช่แค่ผมเท่านั้น แต่รวมถึงนักเตะคนอื่นๆใน บาร์เซโลน่า ด้วย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือทีม นั่นคือปัจจัยสำคัญที่สุด และนั่นคือวิธีที่แต่ละคนโดดเด่น'

แข้งชาวบราซิเลียนยังเผยว่าตนเองโชคดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมของ ฟลิค โดยกล่าวว่า 'ผมคิดว่าผมโชคดีที่ได้เป็นสวนหนึ่งของทีมแบบนี้ นักเตะที่ยอดเยี่ยมที่มีโอกาสแข่งขันเพื่อแย่งแชมป์รายการสำคัญๆ ในอีกหลายปีข้างหน้า'

แม้จะว้ยเพียง 28 ปี แต่ ราฟินญ่า เป็นหนึ่งในนักเตะอายุมากที่สุดของ บาร์เซโลน่า ชุดปัจจุบัน และเขาเผยว่ารู้สึกทึ่งกับคุณภาพของพรสวรรค์ของสโมสรที่มีอยู่ในอะคาเดมี่ของสโมสร

'นักเตะดาวรุ่งที่ดูเหมือนว่าจะมีประสบการณ์เล่นฟุตบอลมาเป็น 10 ปี พวกเขาเสนออะไรมากมายให้กับฟุตบอล การโดดเด่นท่ามกลางพวกเขาทำให้ผมมีความสุขมาก ในบางแง่มุม ผมพยายามมีส่วนสนับสนุนผลงานแง่บวกของทีม'

'ผมชอบการลงเล่นในสนาม ไม่ว่าจะเล่นตำแหน่งใดก็ตาม ผมพยายามปรับตัวให้เข้ากับบทบาทใดๆก็ตาม ตราบใดที่ผมสามารถช่วยทีมได้'

'ในช่วงต้นฤดูกาลที่แล้ว ผมไม่มีความคิดแบบนั้น ผมแค่โฟกัสไปที่การเล่นในตำแหน่งของตัวเอง ผมคิดว่าถ้าไม่ได้เล่นตรงนั้น ผมก็จะเล่นไม่ได้ แต่ผมเปิดใจรับความท้าทายใหม่ๆ'

'ผมไม่ได้บอกว่าต้องปรับตัว แต่ควรปรับตัวใหม ตอนเริ่มต้นอาชีพของผม ผมเล่นทางซ้าย จากนั้นก็ย้ายไปทางขวาและผมชอบมาก แต่ผมตระหนักว่าการปรับตัวใหม่มีความสำคัญต่ออาชีพของผม'

ราฟินญ่า ทุ่มเทเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ในสนามเสมอ แต่แข้งชาวบราซิเลียนยังพูดถึงความสำคัญของการทำงานนอกสนามอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเช่นกันเพื่อรักษาอาชีพค้าแข้งให้ยาวนานขึ้น


'ในอาชีพของผม ผมได้เห็นทั้งสองด้านของเหรียญ ผมผ่านช่วงเวลาที่ไม่เคยดูแลตัวเองเลย จากนั้นผมยังเห็นตรงกันข้าม นั่นคือดูแลตัวเองให้มากขึ้น'

'ตอนนี้ผมอยู่ในส่วนที่ต้องดูแลหลายอย่าง ผมเห็นว่าการไม่ดูแลตัวเองหมายความว่าอย่างไร และเมื่อเริ่มดูแลตัวเอง ผมเข้าใจถึงความสำคัญของการดูแลร่างกายตัวเอง ท้ายที่สุดแล้ว นี่คืออาชีพของผม'

ราฟินญ่า ยังพยายามถ่ายทอดแนวคิดนี้แก่ผู้เล่นอายุน้อยในทีมอาซูลกราน่าด้วย 'ผมพยายามถ่ายทอดแนวคิดนี้ไปยังผู้เล่นอายุน้อยอยาง ลามีน, เปดรี้ และ กาบี การดูแลตัวเองไม่ใช่เรื่องตลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฟุตบอลยุคใหม่ ซึ่งต้องการการดูแลตัวเองอย่างมาก'

'ซีซั่นที่มี 70 เกม คุณต้องดูแลร่างกายของคุณ หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ ดูแลการนอนหลับ เรื่องการรับประทานอาหาร นั่นคือหน้าที่ของคุณ'

'ถ้าคุณไม่ดูแลเครื่องมือที่สำคัญสุดในการทำงานนี้ ซึ่งก็คือร่างกายของคุณ สิ่งต่างๆจะไม่เป็นไปตามที่คุณต้องการ ผมรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่เนิ่นๆ ผมคิดว่าตอนที่ผมอยู่ฝรั่งเศส และมันช่วยผมได้มาก'


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด