แมตช์'เอล กลาซิโก้'กับแถวเกียรติยศ
บาร์เซโลน่า กวาด'ดับเบิ้ลแชมป์'มานอนกอดตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ก่อนหลังเกมบุกยิงสลุต เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า 4-2
ขณะที่ เรอัล มาดริด คงประคองตัวรอเล่นนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกกับ ลิเวอร์พูล ในวันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคมนี้
แต่ใช่ว่าแมตช์'เอล กลาซิโก้'ยกที่ 176 บนเวทีลีกาในวันอาทิตย์นี้จะไร้ซึ่งความหมายไปซะทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน? เมื่อไหร่? หรือสถานการณ์ใดก็ตาม มันคือเกมแห่งศักดิ์ศรีไม่มีฝ่ายใดยอมก้มหัวศิโรราบโดยง่ายแน่
แมตช์'เอล กลาซิโก้'ยกนี้ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ทั้งสองทีมต้องพิสูจน์ให้อีกฝ่ายรู้ว่าพวกกรูเหนือกว่า...
175 แมตช์'เอล กลาซิโก้'ก่อนหน้านี้ เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายชนะ 72 ครั้ง บาร์เซโลน่า กำชัย 70 ครั้ง เสมอ 33 ครั้ง ทีมชุดขาวยิง 283 ประตู บาร์ซ่าซัด 280 ประตู
มันจะเป็นการเผชิญหน้ากันอีกครั้งระหว่าง ลิโอเนล เมสซี่ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งต่างคว้ารางวัล'บัลลง ดอร์'มาแล้วคนละ 5 สมัยและต่างเป็นตัวเต็งที่มีโอกาสคว้ารางวัลดังกล่าวเป็นครั้งที่ 6 ในปีนี้
เมสซี่ เป็นนักเตะที่ทำผลงานโดดเด่นสุดบนเวทีลีกาซีซั่นนี้หลังกดรวมกัน 32 ประตู มาจากโอกาสสับไก 187 ครั้ง ซึ่งเป็นการยิงจากนอกเขตโทษ 8 ประตูและมาจากการซัดฟรีคิก 6 ประตู กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ยังทำแอสซิสต์อีก 12 ครั้ง
32 ประตูของ เมสซี่ ยังทำให้ซุปตาร์อาร์เจนไตน์มีโอกาสลุ้นรางวัล'รองเท้าทองคำ'หลังนำหน้าคู่แข่งสำคัญอย่าง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ กองหน้าทีมชาติอียิปต์ของ ลิเวอร์พูล หนึ่งประตูและยังเหลือโปรแกรมลงเล่นอีก 4 เกม ขณะที่ โรนัลโด้ ยิงบนเวทีลีกาเพียง 24 ประตูเท่านั้น
ซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ยิง 43 ประตูจากการลงเล่นกับทีมอาซูลกราน่าซีซั่นนี้ 51 เกม ขณะที่ โรนัลโด้ กด 42 ประตูจากการลงเล่น 41 เกมกับพลพรรค'โลส บลังโกส'
เมสซี่ ยังเป็นผู้นำในการทำแอสซิสต์ 12 ครั้ง มากกว่าเพื่อนร่วมสังกัด หลุยส์ ซัวเรซ, ปิโอเน่ ซิสโต้ ของ เซลต้า บีโก้, ปาโบล ฟอร์นาลส์ ของ บียาร์เรอัล กับ กอนซาโล่ เกเดส ของ บาเลนเซีย ที่ทำคนละ 9 แอสซิสต์ ส่วน โรนัลโด้ เพิ่งแอสซิสต์เพียง 5 ครั้ง
บาร์เซโลน่า เพิ่งสอย'ดับเบิ้ลแชมป์'ทั้ง ลีกา กับ โกปา เดล เรย์ ซีซั่นนี้ แต่บางคนอาจมองว่าความสำเร็จดังกล่าวมีศักดิ์ศรีด้อยกว่าการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก โดยเฉพาะการคว้าแชมป์รายการนี้ 3 ปีติดต่อกัน (ถ้าทำได้)
แต่ทีมอาซูลกราน่ายังมีโอกาสสร้างผลงานระดับประวัติศาสตร์หากทีมของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ไม่แพ้ตลอด 4 เกมที่เหลือของซีซั่นนี้ นั่นคือการจบซีซั่นอย่างสมบูรณ์แบบด้วยการคว้าดับเบิ้ลแชมป์และไม่ปราชัยตลอดฤดูกาล
แอธเลติก บิลเบา เป็นทีมแรกของสเปนที่คว้าแชมป์ลีกาฤดูกาล 1929-30 โดยไม่ปราชัยตลอดซีซั่น แต่ช่วงเวลานั้นมีทีมลงเล่นเพียง 10 สโมสรและทั้งฤดูกาลลงเล่น 18 เกม ซึ่ง บิลเบา คว้าแชมป์ด้วยสถิติชนะ 12 เสมอ 0
ไม่ต่างจากการคว้าแชมป์ในฤดูกาล 1931-32 ของ เรอัล มาดริด หลังทีมชุดขาวทำสถิติชนะ 10 เสมอ 8
ถ้ามันเกิดขึ้นกับ บาร์เซโลน่า ในซีซั่นนี้คงเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่กว่าเพราะมันต้องลงเล่นกันอย่างยาวนานถึง 38 เกม โดยมี เรอัล มาดริด เป็นตัวแปรสำคัญว่าจะทำให้ทีมของบัลเบร์เด้ทำผลงานระดับประวัติศาสตร์สำเร็จหรือไม่
บาร์เซโลน่า มีโอกาสจบฤดูกาลด้วยการคว้า'ดับเบิ้ลแชมป์'และไม่ปราชัยตลอดซีซั่น แน่นอนว่ามันมีศักดิ์ศรีไม่ด้อยไปกว่าการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกแม้แต่น้อย
ทีมอาซูลกราน่าสร้างสถิติไม่แพ้จากการลงเล่นลีกา 41 เกมติดต่อกันจนถึงตอนนี้ ซึ่งเป็นผลงานจากซีซั่นก่อน 7 เกมต่อเนื่องอีก 34 นัดในฤดูกาลนี้ ซึ่งบัลเบร์เด้มีโอกาสจบซีซั่นอย่างสมบูรณ์แบบจากโปรแกรมลงเล่น 4 เกมสุดท้ายกับ เรอัล มาดริด (เหย้า), บียาร์เรอัล (เหย้า), เลบันเต้ (เยือน) และ เรอัล โซเซียดาด (เหย้า)
ก่อนหน้าแมตช์'เอล กลาซิโก้'วันอาทิตย์นี้ยังมีประเด็นที่หลายคนกำลังสนใจนั่นคือนักเตะมาดริดจะยอมตั้งแถวเพื่อยืนปรบมือให้เกียรติเจ้าของแชมป์ลีกาทีมล่าสุดอย่างบาร์ซ่าหรือไม่
เรอัล มาดริด คว้าแชมป์'ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ'กลับมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมื่อวันที่ 16 ธันวาคมปีก่อน หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้าแมตช์'เอล กลาซิโก้'บนสังเวียน'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'
ฝั่งทีมอาซูลกราน่าไม่ยืนตั้งแถวให้เกียรติ เรอัล มาดริด ในฐานะแชมป์'ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ'โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นการแข่งขันที่พวกเขาไม่มีส่วนร่วมด้วย ก่อนทีมของบัลเบร์เด้จะทำให้ซีดานเคืองซ้ำสองด้วยการบุกขย่มทีมชุดขาวพ่ายยับคารัง 0-3 จากการทำประตูของ หลุยส์ ซัวเรซ, ลิโอเนล เมสซี่ และ อเล็กซ์ บีดาล
มีการทวงถามมาก่อนหน้านี้หลายครั้งว่านักเตะมาดริดจะยืนตั้งแถวเพื่อให้เกียรติคู่แข่งที่คว้าแชมป์ลีกาหรือไม่ ซึ่ง ซีดาน ยังยืนยันเจตนารมณ์เดิมว่านักเตะชุดขาวจะไม่ทำตามธรรมเนียมปฏิบัติ แม้มันเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ไม่มีกฎข้อบังคับให้ทำก็ตาม ทว่ามันสิ่งที่คนมีสปิริตพึงกระทำ
ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสของ เรอัล มาดริด ยืนกรานว่านักเตะชุดขาวจะไม่ยืนตั้งแถวเพื่อให้เกียรติบาร์ซ่า ซึ่งเป็นการเอาคืนทีมคู่ปรับที่ไม่เคยแสดงความเคารพให้พวกเขามาก่อนหน้านี้
'ผมคงจะถูกถามเกี่ยวกับเรื่องนี้และคำตอบของผมชัดเจนมาก มันเป็นการตัดสินใจของผมและมันก็สิ้นสุดแล้ว ผมไม่เข้าใจแนวคิดเรื่องการยืนตั้งแถวเพื่อให้เกียรติทีมแชมป์และเราจะไม่ทำ บาร์ซ่าเคยทำลายประเพณีมาแล้ว'
ขณะที่ เซร์คิโอ รามอส กัปตันทีม เรอัล มาดริด ยืนยันว่านักเตะทีมชุดขาวจะทำตามคำสั่งนายแบบไม่บิดพริ้ว
บาร์เซโลน่า เคยตั้งแถวเพื่อให้เกียรติ เรอัล มาดริด ในแมตช์'เอล กลาซิโก้'เมื่อเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมปี 2008 บนสังเวียน'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'แม้ว่ามันจะขัดความรู้สึกก็นักเตะบาร์ซ่าก็ตาม แต่มันเป็นสปิริตที่พึงกระทำ
การ์เลส ปูโยล อดีตกัปตันทีมอาซูลกราน่าซึ่งนำลูกทีมยืนตั้งแถวให้เกียรติแชมป์ที่เบร์นาเบวเมื่อ 10 ปีก่อนเคยกล่าวไว้ว่า'ในฐานะกูเล่ (แฟนบาร์ซ่า) ผมไม่ชอบเลย แต่ในฐานะนักกีฬา คุณต้องรู้จักแชมป์และนั่นเป็นสิ่งที่เราจะทำ พวกเขาควรได้รับรางวัลในสนาม'
ขณะที่ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เทรนเนอร์บาร์เซโลน่าไม่ใส่ใจว่าลูกทีมของซีดานจะตั้งแถวเพื่อให้เกียรตินักเตะบาร์ซ่าในฐานะแชมป์ลีกาหรือไม่ แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่ควรทำก็ตาม
'ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่แต่ละทีมต้องตัดสินใจ แต่ผมคิดว่าการตั้งแถวเป็นการให้เกียรติผู้เล่นคู่แข่ง มันอาจเป็นเรื่องแปลกที่จะทำในตอนนี โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่าง บาร์ซ่า กับ มาดริด สองทีมที่มีการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ระหว่างสองสโมสร มันจะมีความรู้สึกแปลกๆอยู่ข้างหลัง แทนที่มันจะเป็นการตั้งแถวให้เกียรติทีมใดทีมหนึ่ง มันกลายเป็นการทำเพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกอับอาย'
'โอ้, พระเจ้า มันทำให้ผมแทบบ้า การตั้งแถวเกียรติยศ ย้อนกลับไปข้างหลังหรือมองไปข้างหน้า คุณไม่สามารถปล่อยวางเรื่องนี้ลงได้เลย มันเป็นเพียงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ นี่ไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับการตั้งแถวเกียรติยศเลย'
'คุณอาจไม่เห็นด้วยกับการตั้งแถวเกียรติยศ ดังนั้นถ้าคุณกำลังพูดถึงคนใดที่จะเหมาะสมสำหรับสิ่งนี้ ผมคิดว่า อันเดรส (อีเนียสต้า) สมควรได้รับจากทั้งสนามเพื่อให้เกียรติเขา ผมแน่ใจว่ามันจะเกิดขึ้น'บัลเบร์เด้กล่าว
อันเดรส อีเนียสต้า ซึ่งกำลังจะเป็นอีกหนึ่งตำนานของบาร์เซโลน่าและเขากำลังจะลงเล่นแมตช์'เอล กลาซิโก้'ครั้งสุดท้ายในอาชีพค้าแข้ง เขาสมควรได้รับเกียรติจากความสำเร็จจากทุกคนแม้กระทั่งคู่แข่งของเขาก็ตาม เพียงแต่อีกฝ่ายจะคิดเป็นหรือไม่เท่านั้น
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT