การบ้านซัมเมอร์ของบัลเบร์เด้
บาร์เซโลน่า คว้า'ดับเบิ้ลแชมป์'ซีซั่นนี้ ทีมอาซูลกราน่าสร้างสถิติไม่แพ้บนเวทีลีกาติดต่อกันมากสุดในประวัติศาสตร์ 42 เกมนับรวม 7 นัดจากฤดูกาลที่ผ่านมา
ทีมยักษ์กาตาลุนย่ายังมีโอกาสสร้างสถิติอันน่าทึ่งประดับวงการลูกหนังเมืองกระทิงหากทีมของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ไม่ปราชัยตลอด 3 เกมสุดท้ายของฤดูกาลกับ บียาร์เรอัล (เหย้า), เลบันเต้ (เยือน) และ เรอัล โซเซียดาด (เหย้า)
ยูเวนตุส, มิลาน และ อาร์เซน่อล เป็นเพียง 3 ทีมใน 5 ลีกใหญ่ยุโรปในรอบกว่า 100 ปีที่ลงเล่นตลอดซีซั่นโดยไม่แพ้ใคร ขณะที่ บาร์เซโลน่า กำลังจะจารึกชื่อเป็นสโมสรที่ 4 ซึ่งทำผลงานแบบเดียวกัน
บาร์เซโลน่า ยุค หลุยส์ เอ็นรีเก้ ทำสถิติกระทุ้งเกิน 100 ประตูตลอด 3 ฤดูกาล นั่นเป็นเพราะทีมอาซูลกราน่ายังแนวรุกพระกาฬอย่าง'MSN'เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ กับ เนย์มาร์
ทีมของเอ็นรีเก้ยิง 110 ประตูในซีซั่น 2014-15 ก่อนขยับเพิ่มเป็น 112 ประตูในฤดูกาลต่อมา ปิดท้ายด้วย 116 ประตูในฤดูกาล 2016-17 ก่อนเทรนเนอร์ชาวอัสตูเรียโน่จะโบกมืออำลาสโมสร
ขณะที่ บาร์เซโลน่า ในฤดูกาลนี้ของ บัลเบร์เด้ เพิ่งยิงคู่แข่งรวมกัน 89 ประตู ซึ่งคงไต่ไปถึงหลักร้อยลำบาก แม้ว่าจะเหลือโปรแกรมลงสนามอีก 3 นัดก็ตาม นั่นเป็นเพราะทีมอาซูลกราน่าเหลือตัวผลิตสกอร์เพียง 2 คนคือ เมสซี่ กับ หลุยส์ ซัวเรซ หลัง เนย์มาร์ เปิดตูดไปรับทรัพย์กับ เปแอสเช ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
ถ้าพิจารณากันในส่วนของการเล่นเกมรับ ทีมยุคเอ็นรีเก้ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบในซีซั่นแรก ทัพอาซูลกราน่ายิงคู่แข่งเกิน 100 ประตูและยังเสียเพียง 21 ประตู พร้อมฟาด'ทริเปิ้ลแชมป์'ในฤดูกาลนั้น ก่อนจะเสียเพิ่มขึ้นเป็น 29 กับ 37 ประตูในช่วง 2 ฤดูกาลหลัง
ขณะที่ทีมยุค บัลเบร์เด้ ที่ว่ากันว่าเล่นด้วยความรัดกุมมากขึ้น แต่ทีมของเทรนเนอร์ชาวบาสโก้เสียให้คู่แข่งไปแล้ว 23 ประตู โดยเหลือโปรแกรมลงสนามอีก 3 เกม ดังนั้นการเล่นเกมรับของทีมยุคนี้จึงไม่ได้ดีกว่าซีซั่นแรกของเอ็นรีเก้
บัลเบร์เด้ พยายามหาทุกวิถีทางเพื่อทำให้ทีมเล่นเกมรุกมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งการจัด เคราร์ด เดวโลเฟว ลงเล่นในตำแหน่งของ เนย์มาร์ สลับ อุสมาน เดมเบเล่ ดาวเตะค่าตัวแสนแพงลงเล่นบ้าง แต่ทั้งคู่ยังสอบไม่ผ่าน ก่อนรายแรกจะถูกปล่อยไปอยู่กับ วัตฟอร์ด หรือแม้แต่การทดลองดัน เปาลินโญ่ ขึ้นมาเล่นเหมือนกองหน้าตัวที่สองป้วนเปี้ยนอยู่หน้ากรอบเขตโทษคู่แข่ง ทว่ามิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนก็ยังไม่ใช่คำตอบ
เปาลินโญ่ อาจยิงประตูได้มากกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลังการลงเล่น 15 นัดแรกของฤดูกาล แต่หลังจากนั้นชื่อของอดีตมิดฟิลด์สเปอร์สหายไปจากสกอร์บอร์ดตลอด 18 เกมหลังสุด นับตั้งแต่การยิงประตูสุดท้ายในเกมชนะ เลบันเต้ 3-0 เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา สถิติของ เปาลินโญ่ จึงหยุดอยู่ที่ 8 ประตูเท่านั้น
89 ประตูที่ทีมอาซูลกราน่าทำได้ในซีซั่นนี้มาจาก เมสซี่ (33) กับ หลุยส์ ซัวเรซ (24) มากกว่าครึ่ง โดยมี เปาลินโญ่ เป็นดาวยิงอันดับ 3 ของสโมสร
ขณะที่ตัวสำรองอดทนอย่าง ฟรานซิสโก้ อัลกาเซร์ ยิงเพียง 4 ประตู ตามมาด้วย ฟิลิปเป้ กูตินโญ่ ที่เพิ่งย้ายมาจาก ลิเวอร์พูล ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเพลย์เมกเกอร์ชาวบราซิเลียนกดไปแล้ว 3 ประตู
ส่วน เดมเบเล่ ไม่ต้องพูดถึงหลังเจ้าหนุ่มวัย 20 กะรัตเพิ่งยิงไปเพียงเม็ดเดียวจากการซัดประตูเบิกร่องในเกมเสมอ เซลต้า บีโก้ บนสังเวียนบาไลโดส 2-2 เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา การทำประตูของแข้งค่าตัว 105 ล้านยูโรยังน้อยกว่าผู้เล่นกองหลังอย่าง เคราร์ด ปีเก้ กับ จอร์ดี้ อัลบา ซึ่งยิงคนละ 2 ประตูด้วยซ้ำ
นับตั้งแต่ยุค'เป๊ป'กวาร์ดิโอล่า แก้ปัญหาการเล่นเกมรับซึ่งเป็นจุดอ่อนของทีมก่อนหน้านั้นโดยเน้นการครองบอลเป็นหลัก มันเป็นปรัชญาขั้นพื้นฐานของการทำทีมฟุตบอลเพราะถ้าคุณไม่เสียบอลให้ฝ่ายตรงข้ามก็มีโอกาสเสียประตูน้อยลง ผ่านมาถึงยุคเอ็นรีเก้ก็ใช้แนวทางไม่ต่างจาก'เป๊ป'
ทว่าทีมอาซูลกราน่ายุคของ บัลเบร์เด้ ครองบอลเพียง 60.2% ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 2009-10 แนวรับของทีมยักษ์กาตาลุนย่าจึงถูกแนวรุกคู่แข่งคุกคามมากขึ้นกว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ส่วนหนึ่งมาจากองค์ประกอบทีมที่ด้อยลงไปด้วย จากที่เคยมีแผงมิดฟิลด์ดีที่สุดในโลกทั้ง ชาบี เอร์นานเดซ, อันเดรส อีเนียสต้า กับ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ก่อน ชาบี จะอำลาสโมสรหลังจบฤดูกาล 2014-15 ขณะที่ อีเนียสต้า อยู่ในช่วงโรยลาตามวัยและกำลังจะโบกมือลาสโมสรหลังจบซีซั่นนี้
บุสเก็ตส์ เป็นอีกหนึ่งคนที่ทำผลงานตกลงไปตามอายุด้วยเช่นกัน เขาเป็นผู้เล่นที่คอยปัดกวาดเช็ดถูก่อนบอลจะหลุดเข้าไปคุมคามแนวรับ เมื่อตัดบอลได้ บุสเก็ตส์ ยังสามารถโต้ตอบด้วยการเล่นเกมสวนกลับเร็ว รวมถึงการยิงประตูจากลูกลักไก่ด้วย ทว่าซีซั่นนี้เขาเพิ่งยิงเพียงประตูเดียว ตัวเลขประสิทธิภาพการเล่นยังตกลงไปจากซีซั่นก่อนชัดเจนด้วย จาก 4.18 ในฤดูกาล 2016-17 เหลือเพียง 3.35 ในซีซั่นนี้
บัลเบร์เด้ ก้าวเข้ามารับงานในช่วงเปลี่ยนผ่านไม่ว่าจะเป็นการชิ่งหนีของ เนย์มาร์, ความโรยลาของ อีเนียสต้า, การบาดเจ็บของ เดมเบเล่ และ การย้ายมาร่วมทีมล่าช้ากว่ากำหนดของ กูตินโญ่ งานของเทรนเนอร์ชาวบาสโก้จึงไม่ง่ายนัก แต่เทรนเนอร์วัย 54 ปียังทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในระดับหนึ่งจากการคว้า'ดับเบิ้ลแชมป์'
จากผลงานดังกล่าวจึงมีความชอบธรรมเพียงพอสำหรับการคุมทีมอาซูลกราน่าต่อไปในซีซั่นหน้า ซึ่ง โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานทีมอาซูลกราน่าออกมายืนยันอย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
'บัลเบร์เด้จะเป็นเทรนเนอร์ของบาร์ซ่าในฤดูกาลหน้า เขาต้องการทำงานต่อและในหัวผมไม่เคยมีความคิดที่จะปลดบัลเบร์เด้'บาร์โตเมว ยืนยันผ่านสื่อ
อย่างไรก็ตามเทรนเนอร์ชาวบาสโก้ยังมีปัญหาที่รอการสะสางในช่วงซัมเมอร์นี้อีกไม่น้อยทีเดียว โดยเฉพาะการเลือกแท็คติกที่เหมาะสมกับขุมกำลังที่ทีมอาซูลกราน่ามีอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงการเติมผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาในช่วงหน้าร้อน ซึ่งเทรนเนอร์วัย 54 ปีมีหลายอ็อปชั่น โดยอาจเลือกการเล่นแบบเพลย์เซฟอย่างการส่ง เปาลินโญ่ ลงเล่นเป็นมิดฟิลด์คู่กลางกับ บุสเก็ตส์ เป็นหนึ่งในนั้น ทว่าประสิทธิภาพการเล่นของมิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนยังดูเป็นรอง ราคิติช พอสมควร
ขณะที่ กูตินโญ่ ซึ่งจะเริ่มต้นการเตรียมความพร้อมตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่นจะก้าวขึ้นมารับบทบาทตัวทำเกมแทน อีเนียสต้า ซึ่งอดีตแข้งหงส์แดงน่าจะปรับตัวเข้ากับระบบการเล่นของทีมอาซูลกราน่าดีขึ้น หรือแม้แต่ เดมเบเล่ ก็น่าจะได้รับโอกาสจากบัลเบร์เด้ในช่วงปีที่สองมากขึ้น
การนำบาร์เซโลน่าคว้า'ดับเบิ้ลแชมป์'ซีซั่นนี้ขณะที่ทีมมีปัญหามาตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ถือเป็นผลงานที่น่ายกย่องชื่นชม เพียงแต่ยังมีจุดด่างจากการตกรอบ 8 ทีมของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกหลังการปราชัยต่อ โรม่า แบบหมดสภาพยังคงเป็นชนักปักหลังบัลเบร์เด้มาจนถึงทุกวันนี้
ทีมอาซูลกราน่าอาจทุ่มเงินครั้งมโหฬารอีกครั้งในช่วงซัมเมอร์นี้เพื่อกระชาก อองตวน กรีซมันน์ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสของ แอตเลติโก มาดริด ซึ่งมีมีมูลค่าฉีกสัญญา 100 ล้านยูโรเพื่อดึงเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระการทำประตูของ เมสซี่ กับ หลุยส์ ซัวเรซ ซึ่งจะมีอายุเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งปี
ทีมยักษ์กาตาลุนย่าอาจต้องเติมความสดให้กับแผงมิดฟิลด์ด้วยผู้เล่นสายเลือดใหม่อีกหนึ่งคนอย่างน้อยและที่ลืมไม่ได้คือตำแหน่งแบ็กขวาที่หวังพึ่งได้เฉพาะ เซร์จี้ โรเบร์โต้ ซึ่งไม่ใช่กองหลังอาชีพด้วยซ้ำ เนื่องจาก เนลซอน เซเมโด้ กองหลังค่าตัว 30 ล้านยูโรสอบไม่ผ่าน ยังไม่นับรวมรายละเอียดปลีกย่อยที่ยังต้องปรับแต่งให้เข้าที่เข้าทางด้วย
นั่นคือการบ้านในช่วงซัมเมอร์นี้ของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ซึ่งเป็นว่าที่เทรนเนอร์คนแรกในประวัติศาสตร์ของบาร์เซโลน่าที่ทำทีมไม่แพ้ตลอดฤดูกาล
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT