ความสุขที่หายไป...
แกเร็ธ เบล ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่นับตั้งแต่ย้ายจาก สเปอร์ส มาสวมชุดขาวในช่วงหน้าร้อนปี 2013
จาก 5 ปีที่ผ่านมา กองหน้าชาวเวลส์สร้างปรากฎการณ์ร่วมกับ เรอัล มาดริด ด้วยการคว้าแชมป์ยุโรปถึง 4 สมัยและยังเป็นการฟาดแชมป์ 3 ปีติดต่อกันด้วย
เบล ยังเคยสอยแชมป์ลีกา (2016-17), แชมป์โกปา เดล เรย์ (2013-14), แชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ (2014, 2016 กับ 2017), แชมป์ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า (2017) และ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ (2014, 2016 กับ 2017)
ทว่าความสำเร็จต่างๆนานาไม่สามารถทดแทนความสุขที่หายไปได้ ความสุขจากการลงสนาม ความสุขจากการลงเล่นต่อเนื่องที่มีน้อยลงในช่วงหลัง
กองหน้าทีมชาติเวลส์ซึ่งเป็นฮีโร่ที่ลงมายิงสองประตูนำ เรอัล มาดริด อัด ลิเวอร์พูล 3-1 คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 13 รู้สึกหงุดหงิดที่ต้องนั่งรอโอกาสอยู่ที่ข้างสนามโดยเฉพาะในเกมสำคัญหลายครั้ง
ทั้งที่ฝีเท้าระดับกองหน้าวัย 28 กะรัตสามารถออกสตาร์ทตัวจริงได้กับทุกทีมในโลกนี้ แต่อาจเป็นข้อยกเว้นสำหรับ ซีเนดีน ซีดาน ซึ่งมักจะเลือกลูกรักอย่าง คาริม เบนเซม่า ลงเล่นตัวจริงก่อนเสมอ
ซีดาน เลือกทำสิ่งดีที่สุดเพื่อทีมและยืนยันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมันตรงข้ามกับความต้องการของ เบล ที่อยากลงเล่นมากกว่านี้ อยากลงสนามต่อเนื่องและยังเป็นนักเตะที่สามารถสร้างความแตกต่างได้เสมอเหมือนแมตช์ชิงชนะเลิศที่เคียฟเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
แต่จากการยืนยันของเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสอาจทำให้ เบล ต้องคิดใคร่ครวญเรื่องอนาคตค้าแข้งของตนเองอีกครั้ง มันอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ยากสุดในชีวิตการเป็นนักเตะของกองหน้าทีมชาติเวลส์
มันมีจุดต่างระหว่าง เบล กับ ซีดาน นั่นคือกองหน้าชาวเวลส์คาดหวังว่าจะได้รับการการันตีตำแหน่งตัวจริง ซึ่งมันไม่มีโอกาสเป็นไปได้หากซีดานยังมีจุดยืนไม่ต่างจากเดิม
การมีชื่อเป็นเพียงตัวสำรองในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาอาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ เบล ตัดใจอำลาถิ่น'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'ในช่วงซัมเมอร์นี้
'ผมต้องการลงเล่นต่อเนื่อง ไม่ใช่ลงเล่นสัปดาห์นี้ แล้วสัปดาห์ต่อไปก็หลุดจากทีม และมันไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในฤดูกาลนี้เท่านั้น'เบล ระบายความอึดอัดกับ บีที สปอร์ต
'ผมบาดเจ็บราว 5-6 สัปดาห์ในซีซั่นนี้ แต่ผมก็ฟิตสมบูรณ์ตลอดนับจากนั้น'เบล ยืนยันเรื่องสภาพร่างกายที่เคยตกเป็นเครื่องหมายคำถามว่ามีส่วนทำให้เขาหลุดเป็นตัวสำรองในทีมของซีดาน
'ผมคงต้องนั่งคุยกับเอเยนต์ของผมในช่วงหน้าร้อนนี้และหาบทสรุปของเรื่องนี้'
'มันชัดเจนเลยว่าผมผิดหวังสุดๆที่ไม่ได้ออกสตาร์ทในเกมนี้ (นัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก) ผมสมควรได้รับมัน แต่ผู้จัดการทีม (ซีดาน) เป็นคนตัดสินใจ'
'สิ่งสำคัญสุดคือผมรู้วิธีการของการเป็นมืออาชีพ มันเป็นเกมที่เล่นกันเป็นทีม แต่เมื่อคุณเป็นตัวสำรอง มันก็เป็นเกมที่มีผู้เล่นมากกว่า 11 คนและเมื่อคุณลงไป ก็ต้องพยายามสร้างความแตกต่างและผมก็ทำมัน'
'เรารู้ว่าเราประสบความสำเร็จและรู้ว่าเรามีดีแค่ไหน'
'เราทำผลงานในลีกาน่าผิดหวัง แต่เราคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกและมันจึงเป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม'
'ผมต้องการสนุกกับช่วงเวลานี้ก่อน จากนั้นจะไปพักผ่อนในช่วงหน้าร้อนและผมแน่ใจว่าเราจะนั่งคุยกันและมองหาว่าอะไรดีที่สุด'เบลกล่าวถึงการพิจารณาเรื่องอนาคตค้าแข้งของตนเองในช่วงซัมเมอร์นี้
อดีตเด็กปั้น เซาธ์แฮมป์ตัน ย้ายมาค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ในช่วงซัมเมอร์ปี 2013 ด้วยค่าตัว 91 ล้านยูโร ทว่าบางแหล่งข่าวระบุตัวเลขว่ามีมูลค่าสูงถึง 100 ล้านยูโร ซึ่งเป็นสถิติโลกในขณะนั้น
เขายังมีสัญญากับทีมชุดขาวจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2022 แน่นอนว่าการตัดใจย้ายออกจากเมืองหลวงของสเปนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้จะมีเงินสโมสรเงินถุงเงินถังอย่าง แมนฯยูไนเต็ด, เชลซี, บาเยิร์น มิวนิค หรือแม้แต่อู่ข้าวอู่น้ำเก่าอย่าง สเปอร์ส พร้อมอ้าแขนต้อนรับก็ตาม
หนึ่งในคนที่มีบทบาทสำคัญคือการตัดสินเรื่องอนาคตของ แกเร็ธ เบล คงหนีไม่พ้น โจนาธาน บาร์เน็ตต์ เอเยนต์ของกองหน้าทีมชาติเวลส์นั่นเอง
นับตั้งแต่ย้ายออกจากเล้าไก่มาสวมเครื่องแบบสีขาวของ เรอัล มาดริด ในช่วงหน้าร้อนปี 2013 มีข่าว แกเร็ธ เบล จะย้ายออกจาก'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'ทุกช่วงซัมเมอร์ ซึ่ง บาร์เน็ตต์ ต้องออกโรงมาสยบข่าวลือต่างๆนานาทุกหน้าร้อนเช่นเดียวกัน
ทว่าสถานการณ์ในช่วงซัมเมอร์นี้อาจแตกต่างไปจากเดิมหลังกองหน้าชาวเวลส์แสดงออกชัดเจนว่าอึดอัดกับสถานะที่เป็นอยู่ในปัจจุบันกับทีมชุดขาว
'แกเร็ธ เป็นนักเตะของ เรอัล มาดริด และ รัก เรอัล มาดริด และ เรอัล มาดริด ก็รัก เบล เช่นเดียวกัน'บาร์เน็ตต์ เคยบอกกับอีเอสพีเอ็นก่อนหน้านี้
'การพูดถึงเรื่องนี้ทั้งหมดมาจากการเขียนของนักข่าวที่ไม่ทราบว่าอะไรเกิดขึ้นและต้องการเขียนถึงอะไรบางอย่างโดยไม่แคร์ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่'
ทว่าสถานการณ์เปลี่ยนไปหลัง แกเร็ธ เบล ระบายความอึดอัดผ่านสื่อด้วยตนเอง
อย่างที่จั่วไว้ข้างต้นว่าการย้ายออกจาก'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักเนื่องจาก แกเร็ธ เบล ยังมีสัญญากับทีมชุดขาวจนถึงปี 2022
ตามรายงานข่าวก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า แมนฯยูไนเต็ด ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ เบล พร้อมเปย์ 100 ล้านยูโรเพื่อดึงกองหน้าทีมชาติเวลส์ไปจาก เรอัล มาดริด ในช่วงซัมเมอร์นี้
แต่มันอาจเป็นตัวเลขที่น้อยเกินไปที่จะทำให้มูรินโญ่สมหวังหลังสื่อบางสำนักระบุว่า เรอัล มาดริด โก่งค่าตัวนักเตะไว้สูงถึง 227 ล้านยูโร ซึ่งมากกว่าค่าฉีกสัญญาของ เนย์มาร์ ที่เปแอสเชเคยจ่ายให้ทีมอาซูลกราน่ามูลค่า 222 ล้านยูโรด้วยซ้ำ
อนาคตค้าแข้งของ เบล จะก้าวไปในทิศทางใดไม่มีใครสามารถตอบแทนได้ เราคงต้องรอให้กองหน้าชาวเวลส์จับเข่าคุยกับเอเยนต์เพื่อหาทางออกหลังเบลสิ้นสุดช่วงพักร้อน บางทีเราอาจจะเห็นเบลกลับมาค้าแข้งในเกาะอังกฤษเพื่อตามหาความสุขที่หายไปกลับคืนมาอีกครั้ง
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT