พังตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
แม้ความเป็นจริง ลิเวอร์พูล อาจเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเกาะอังกฤษ
แต่อย่าลืม!!!
พวกเขาไม่ได้แชมป์ลีกสูงสุดมาเป็นเวลา 27 ปีแล้ว
แน่นอนมนต์ขลังแชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2005 ยังคงตราตรึงใจใครหลายคนอยู่ ทว่ากับอารมณ์ในลีก มันแตกต่างกันชัดเจน
หากพูดถึงการลุ้นแชมป์ ชื่อของหงส์แดงจะถูกโยงเข้าไปเกี่ยวด้วยทุกครั้ง และก็ต้องพุ่งชนความว่างเปล่าอยู่ทุกหน
อันดับสองคือสิ่งดีที่สุดที่เคยทำได้ มันเกิดขึ้นหลายครั้ง และล่าสุดก็ปี 2013-14
แล้วแนวโน้มหลังจากการได้รองแชมป์ก็คือปีถัดมาคุณจะถูกคาดหวังแบบสุดลิ่มทิ่มประตูโดยไม่รู้ตัว
ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่คือภาระอันหนักอึ้งที่นักเตะต้องแบกรับความคาดหวังของแฟนๆ แต่ต้องเข้าใจว่าที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่ไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนทางการเงินสักเท่าไหร่ หรือหากมีก็ไม่เท่ากับยักษ์ใหญ่รายอื่นๆ อย่างแน่นอน
หลายคนบอกที เลสเตอร์ ไม่เห็นจะต้องใช้งงใช้เงินอะไรเลย พวกเขามีปีมหัศจรรย์ในการคว้าแชมป์ลีกฤดูกาล 2015-16 แล้วถ้าทีมจิ้งจอกสามารถทำได้ ทำไมมันถึงไม่เกิดขึ้นบ้างกับหงส์แดงล่ะ
???
ความอยากได้อยากมี ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ด้วยความกระหายที่ไม่รู้จักพอมันได้สร้างฐานกองเชียร์ที่เต็มไปด้วยกลุ่มคนที่ไม่สามารถพบเจอความล้มเหลวได้
มันไม่ใช่ความผิดของผู้จัดการทีม หรือนักเตะของ ลิเวอร์พูล เลยที่พวกเขาไม่เคยได้แชมป์ลีกสูงสุดมาตั้งแต่ปี 1992
พวกเขาอาจทำผลงานได้ดี และอาจกลายเป็นตำนานของทีมถ้าหากจัดการกับปัญหาที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าบางอย่างได้
แล้วมันคืออะไร???
โอกาสยังไงล่ะ
หลายคนงง อะไรคือการจำกัดความของคำว่าโอกาส
ลองนึกดูง่ายๆ กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ที่เหล่านักเตะถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ตลอดเวลาถึงการพาทีมประสบความสำเร็จ ตรงนี้มันทำให้บรรดาแข้งหน้าใหม่ในทีมหาความก้าวหน้าได้ยาก
ลองมองไปยัง ลอริส คาริอุส สิ
นายทวารหนุ่มจากเมืองเบียร์ถูกหงส์แดงคว้าตัวมาเมื่อหน้าร้อน 2016 เขาถูกนำเข้ามาเพื่อเป็นตัวเลือกแรกในทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์
แต่ดูเหมือนว่าอะไรจะไม่เป็นใจสักเท่าไหร่ การออกสตาร์ทเส้นทางค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์ของเขาถูกขัดขวางด้วยอาการบาดเจ็บ ซึ่งหลังจากคัมแบ็กกลับมาได้ก็เหมือนว่าจะได้รับตำแหน่งมือหนึ่งทันที
น่าเสียดาย ความผิดพลาดที่เขาแสดงออกมาในเกมกับ บอร์นมัธ และ เวสต์แฮม กลายเป็นสิ่งติดตาตรึงใจแฟนบอลไปแล้ว ทุกคนได้เห็นถึงจุดบกพร่อง และทำให้ชื่อของเขาตกสำรวจไปในที่สุด
จากนั้น คล็อปป์ ก็ดร็อป คาริอุส จากทีม และเขาก็แทบไม่ได้โอกาสสักเท่าไหร่เลย
ไม่มีใครอ่านใจของนายใหญ่เยอรมันได้ มันอาจมาจากความกดดันของแฟนบอลก็ส่วนหนึ่ง แต่ที่แน่ๆ นักเตะไม่ได้รับการหนุนหลังจากกองเชียร์ตัวเองเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
ตรงนี้มันเป็นเรื่องยากที่จะทำให้พวกเขาเหล่านั้นเติบโต และพัฒนาในทีมที่พวกคุณพยายามอยากให้กลับไปเถลิงแชมป์ลีกได้อีกครั้งนึง
ตัวอย่างเปรียบเทียบไม่ต้องไปมองไกล มองใครที่ไหน ซัมเมอร์ปี 2011 แมนฯ ยูไนเต็ด กระชากมือกาวหนุ่มอย่าง ดาบิด เด เคอา เข้ามาร่วมทีม และเหมือนทีแรกเขาดูไร้ซึ่งความมั่นใจจนก่อความผิดพลาดเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
ไม่ใช่ว่าผีแดงไม่ต้องการคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาลแรกของเด เคอา ความเป็นจริงพวกเขาแพ้ในส่วนประตูได้เสียให้กับคู่แข่งร่วมเมืองอย่าง แมนฯ ซิตี้ เท่านั้นเอง
แต่ไม่ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะแชมป์หรือไม่แชมป์ พวกเขาก็ยอมให้ เด เคอา ได้มีเวลาพัฒนาตัวเองเป็นนักเตะที่เก่งขึ้น
หากพวกเขามีฤดูกาลที่ไม่ดีสักหนึ่งปี มันก็คงไม่ถึงจุดสิ้นสุดของโลกแต่อย่างใด
ทันทีที่สิ่งคล้ายคลึงกันนี้เกิดขึ้นกับนักเตะ ลิเวอร์พูล โลกมันเหมือนหยุดหมุนไปเลย
แม้ว่า คาริอุส จะยังไม่ดีพอที่จะเป็นมือหนึ่งได้ แต่ฟอร์มของเขาที่เยอรมันก็บ่งบอกได้ว่าฝีมือไม่ธรรมดา และมีโอกาสไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่
ทว่าโอกาสของเขาที่อังกฤษไม่ได้เยอะเท่าที่ เด เคอา ได้รับ และเราก็แทบไม่เคยรู้เลยว่าระดับความสามารถที่แท้จริงของเขามันอยู่ตรงไหนกันแน่
ไม่ใช่ว่าการเปิดตัวในสีเสื้อหงส์แดงจะไม่สามารถดังเปรี้ยงปร้างได้ทันที ดูอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในตอนนี้สิ หรือไม่ก็ ซาดิโอ มาเน่ เมื่อ 12 เดือนก่อน
แต่การจ่ายเงินครั้งล่าสุดของ ลิเวอร์พูล กับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ดูเหมือนถูกเขียนบทจากแฟนๆ ให้ต้องพุ่งชนความล้มเหลวตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว หลังจากมีโอกาสลงเล่นให้ทีม เสียงก่นด่าต่างๆ นาๆ ถาโถมเข้าหานักเตะ พร้อมกับคำว่าโอกาสที่วิ่งหนีไกลออกไป
ความเป็นจริงก็คือการซื้อนักเตะใหม่เข้ามาร่วมทีมแต่ละครั้งของ ลิเวอร์พูล เต็มไปด้วยความคาดหวัง และภาระอันหนักอึ้งในการพาทีมกลับไปแตะต้องประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ให้ได้โดยเร็ว
นั่นแหละ เป็นเรื่องยากสำหรับนักเตะใหม่ของ ลิเวอร์พูล
เพราะพวกเขาถูกตัดสินโดยความคิดของแฟนบอลไปตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT