แพงที่สุดในโลก
จะบอกว่าเป็นเรื่องดีก็คงไม่ใช่ เพราะนั่นมันทำให้ค่าตัวนักเตะในปัจจุบันสูงเกินจริงไปแล้วด้วย
ล่าสุดเห็นมีข่าวว่า เอฟเวอร์ตัน เลือดขึ้นหน้าจะลงทุน 50 ล้านปอนด์ในการซื้อ ริชาร์ลิสัน มาจาก วัตฟอร์ด เห็นแล้วลมแทบจับ
ไหนๆ ก็พูดเรื่องค่าตัวนักเตะที่แพงแสนแพงแล้ว
วันนี้ขอมาจัดทีม 11 นักเตะในระบบ 4-3-3 ที่คัดเอาคนที่แพงที่สุดในโลกของตำแหน่งๆ นั้นๆ มารวมกันสักหน่อยดีกว่า
หมายเหตุ : ค่าเงินในรูปคือหน่วยดอลลาร์สหรัฐฯ
อาลิสซอน เบ็คเกอร์
(โรม่าไปลิเวอร์พูล 67 ล้านปอนด์)
นายทวารมือหนึ่งทีมชาติบราซิลกลายเป็นผู้รักษาประตูค่าตัวแพงที่สุดในโลกสดๆ ร้อนๆ หลัง ลิเวอร์พูล ทุ่มเงิน 66.8 ล้านปอนด์ หรือ 72.5 ล้านยูโรคว้าตัวเขามาจาก โรม่า
ถือเป็นก้าวกระโดด และกำไรสุดคุ้มสำหรับทัพรอสโซเนรี่เลยทีเดียว เพราะย้อนกลับไป 2 ปีก่อน เขาย้ายมาจาก อินเตอร์นาซิอองนาล มาด้วยค่าตัวเพียง 7.5 ล้านยูโรเท่านั้นเอง
ไคล์ วอล์คเกอร์
(สเปอร์สไปแมนฯ ซิตี้ 50 ล้านปอนด์)
หลัง สเปอร์ส ไปฉุด วอล์คเกอร์ มาจาก เชฟฯ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2010 เขาก็ใช้เวลาบ่มเพาะฝีเท้ากับทีมเยาวชนของไก่เดือยทองอยู่ 2 ปีจนก้าวมายึดตำแหน่งตัวจริงในทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ
จากนั้น เขาก็ใช้เวลาค้าแข้งกับ สเปอร์ส จนกระทั่งซัมเมอร์ปี 2017 แมนฯ ซิตี้ ก็บ้าเลือดทุ่มเงินถึง 50 ล้านปอนด์ คว้าตัวเขามา และก็กลายเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีมเรือใบคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในซีซั่นที่แล้ว
เฟอร์จิล ฟาน ไดค์
(เซาธ์แฮมป์ตันไปลิเวอร์พูล 75 ล้านปอนด์)
ปราการหลังทีมชาติฮอลแลนด์เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมากับ เซลติก จนกระทั่งต้นเดือนกันยายน ปี 2015 เขาก็โดน เซาธ์แฮมป์ตัน ซื้อตัวมาในราคา 13 ล้านปอนด์ ซึ่งแน่นอนที่นี่เองทำให้เขาแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว
แค่เพียง 2 ปีครึ่งในถิ่นเซนต์ แมรี่ส์ ฟาน ไดค์ ประกาศศักดากลายเป็นกองหลังแพงที่สุดในโลก เมื่อย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เมื่อต้นปี 2018 นี้เองด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ และช่วยพาหงส์แดงทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกได้
เอมเมอริก ลาปอร์กต์
(แอธ. บิลเบาไปแมนฯ ซิตี้ 57 ล้านปอนด์)
ดาวเตะเฟร้นช์แมนมีเชื้อสายบาสก์ตามครอบครัวนั่นจึงทำให้เขาสามารถเข้าสู่ทีมเยาวชนของ แอธ. บิลเบา ได้เมื่อปี 2016 และเพียง 2 ปีให้หลังเขาก็ได้โอกาสลงเล่นในทีมชุดใหญ่จนเป็นกำลังสำคัญมานับแต่นั้น
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ลาปอร์กต์ กลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดของ แมนฯ ซิตี้ เมื่อเรือใบจ่ายค่าฉีกสัญญา 57 ล้านปอนด์ให้กับ บิลเบา ก่อนที่สถิติดังกล่าวจะถูกลบลงจาก ริยาด มาห์เรซ ในราคา 60 ล้านปอนด์
แบ็งฌาแม็ง เมนดี้
(โมนาโกไปแมนฯ ซิตี้ 52 ล้านปอนด์)
แบ็กซ้ายวัย 24 ปีแจ้งเกิดในเวทีลีก เอิง หลังจากโดน มาร์กเซย ดึงตัวมาจาก เลอ อาฟ เมื่อซัมเมอร์ 2013 ก่อนจะโดน โมนาโก ทุ่มเงิน 13 ล้านยูโรคว้าตัวมาในซัมเมอร์ปี 2016
ที่ โมนาโก เขาพาทีมสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ลีกอย่างพลิกความคาดหมาย ก่อนที่ซัมเมอร์ถัดมาจะโดน แมนฯ ซิตี้ รวบเข้าทีมที่ราคา 52 ล้านปอนด์ แต่ด้วยอาการบาดเจ็บหนักที่เข่าก็ทำให้เขาลงเล่นให้ทีมเรือใบในซีซั่นก่อนเพียง 7 เกมเท่านั้นเอง
ฮาเมส โรดริเกซ
(โมนาโกไปเรอัล มาดริด 63 ล้านปอนด์)
ปอร์โต้ เป็นทีมแจ้งเกิดของเขาอย่างแท้จริง เขาเล่นที่นั่นได้ 3 ปี ก่อนที่ โมนาโก ยุคมีเงินจะเทงบ 45 ล้านยูโรคว้าตัวมาร่วมทีมในซัมเมอร์ปี 2013
แต่แค่เพียงซัมมอร์ถัดมา เขาก็ตกลงปลงใจกับ เรอัล มาดริด ที่จ่ายค่าเสียหายไป 63 ล้านปอนด์ แต่ปัจจุบันก็อยู่ในช่วงสัญญาปล่อยยืมให้กับ บาเยิร์น เป็นซีซั่นที่ 2
ปอล ป็อกบา
(ยูเวนตุสไปแมนฯ ยูไนเต็ด 89 ล้านปอนด์)
มิดฟิลด์ที่เพิ่งพาทีมชาติคว้าแชมป์โลกมาหมาดๆ เริ่มเป็นที่จับตามองตั้งแต่สมัยอยู่อะคาเดมี่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้ว แต่ด้วยความที่แจ้งเกิดไม่ได้ เมื่อหมดสัญญาเขาเลยเลือกหนีไปอยู่กับ ยูเวนตุส แบบไร้ค่าตัวในซัมเมอร์ปี 2012
ที่นั่นเขากลายเป็นตัวหลัก และสร้างผลงานสุดกระฉูดตลอด 4 ฤดูกาลในรังม้าลาย กระทั่งซัมเมอร์ 2016 ทีมผีแดงก็ซื้อตัวเขาคืนในราคาสูงถึง 89 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติโลกเวลานั้น
ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
(ลิเวอร์พูลไปบาร์เซโลน่า 106 ล้านปอนด์)
เพลย์เมกเกอร์บราซิเลี่ยนมีชื่อเสียงมาตั้งแต่เด็ก แต่จุดเปลี่ยนที่แจ้งเกิดอย่างแท้จริงก็คือการย้ายมาร่วมทีม ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวเพียง 8.5 ล้านปอนด์ เมื่อต้นปี 2013
5 ปีในถิ่นแอนฟิลด์ทำให้ชื่อเสียงของเขาดังแบบฉุดไม่อยู่ สุดท้ายหงส์แดงก็ไม่อาจต้านทานฝันของนักเตะจำต้องปล่อยไปให้กับ บาร์เซโลน่า เมื่อต้นปีนี้เองในราคา 106 ล้านปอนด์ และแม้จะมีเวลาเพียงครึ่งซีซั่น แต่เขาก็ยิงให้ทีมใหม่ได้ถึง 10 ประตูจากการลงเล่น 22 นัดแรก
คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้
(โมนาโกไปเปแอสเช 120 ล้านปอนด์)
ดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำศึกฟุตบอลโลกที่ผ่านมาเติบโตมากับทีมเยาวชนของ โมนาโก ซีซั่นแจ้งเกิดจริงๆ ของเขาก็คือปี 2016-17 ที่ซัดถึง 26 ประตูจาก 44 นัดที่ลงสนาม
ตลาดวันสุดท้ายของซัมเมอร์ก่อน เปแอสเช ประกาศยืมตัวเขามาร่วมทีมแบบสุดเซอร์ไพรส์ ซึ่งอันที่จริงก็น่าจะตกลงรายละเอียดไว้หมดแล้ว แต่ที่ต้องยืมก็เพราะหลีกเลี่ยงกฎควบคุมการเงินของยูฟ่า สุดท้ายแล้วในซัมเมอร์นี้เขาก็ย้ายอย่างถาวรด้วยค่าตัวรวม 120 ล้านปอนด์
คริสเตียโน่ โรนัลโด้
(เรอัล มาดริดไปยูเวนตุส 99 ล้านปอนด์)
โรนัลโด้ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ทุ่มเงิน 12.24 ล้านปอนด์คว้าตัวมาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ด้วยวัยเพียง 18 ปี เขากลายเป็นดาวดังของผีแดงตลอด 6 ปีที่นั่นด้วยการทำได้ถึง 118 ลูก จาก 292 นัด
เรอัล มาดริด ทุ่มเงิน 80 ล้านปอนด์เป็นสถิติโลกตอนนั้นคว้าตัวเขามาร่วมทีมในซัมเมอร์ 2009 และมันทำให้เขากลายเป็นแข้งเบอร์หนึ่งของโลกในเวลาต่อมา ล่าสุดกับการย้ายไป ยูเวนตุส ในวัย 33 ปี ค่าตัวของเขายังสูงถึง 99 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
เนย์มาร์
(บาร์เซโลน่าไปเปแอสเช 198 ล้านปอนด์)
นี่เป็นสตาร์ค่าตัวแพงที่สุดของโลกในปัจจุบัน เขาโด่งดังมาจากทีมบ้านเกิดอย่าง ซานโตส ก่อนจะย้ายมายัง บาร์เซโลน่า ในซัมเมอร์ 2013 ด้วยค่าตัว 48.6 ล้านปอนด์ แม้จะเป็นดาวดังของทีม แต่ที่นั่นยังไงเขาก็เป็นรอง ลีโอเนล เมสซี่ อยู่ดี
ซัมเมอร์ 2017 เขาย้ายทีมแบบช็อกโลก เมื่อตัดสินใจให้ เปแอสเช จ่ายค่าฉีกสัญญา 198 ล้านปอนด์เพื่อไปเล่นในลีก เอิง และก็ยิงได้ 28 ประตูจาก 30 นัดในซีซั่นแรก
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT