ทำไมต้อง'แม็คไกวร์'
นั่นอาจเป็นคำถามที่เด็กผีไม่ต้องการคำตอบสักเท่าไรนัก เนื่องจากซัมเมอร์นี้ทีมเพิ่งจะได้แข้งมาเสริมทัพเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นคือ เฟร็ด
อารมณ์ชั่วโมงนี้ก็ประมาณว่าอะไรก็ได้เอาๆ มาเหอะ
จะว่าไปในฤดูกาลก่อน ผีแดงเป็นทีมที่มีเกมรับดีที่สุดเป็นอันดับสองของพรีเมียร์ลีกเสียไปเพียง 28 ประตูเท่านั้น เป็นรองเพียง แมนฯ ซิตี้ ที่โดนเจาะตาข่ายไป 27 เม็ด
กระนั้น ทุกสายตาต่างยกความดีความชอบให้กับ ดาบิด เด เคอา ที่เหนียวขนาดตังเมเรียกพ่อ
เหล่าเซนเตอร์ฮาล์ฟทั้งห้าพากันสลับสับเปลี่ยนกันไปเรื่อย โดยมี คริส สมอลลิ่ง เป็นตัวยืน ที่เหลือก็จะเป็น เอริก ไบยี่, ฟิล โจนส์, วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ และ มาร์กอส โรโฮ
เอาง่ายๆ เลยมีใครไว้ใจได้บ้าง
???
นั่นจึงเป็นเหตุให้ โชเซ่ มูรินโญ่ พยายามมองหาใครสักคนที่จะเข้ามายกระดับเกมรับของเขาให้ดูดีมีชาติตระกูลขึ้น โดยที่ไม่ต้องไปหวังเพิ่งความมหัศจรรย์จากนายด่านทีมชาติสเปน
ก่อนหน้านี้เป้าหมายแรก และหนึ่งเดียวนั้นโดนชี้ชัดไปที่ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์
แน่นอน ปราการหลังจาก สเปอร์ส นั้นผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ แต่ด้วยค่าตัวที่ไก่เดือยทองตั้งไว้แพงแสนแพงแบบไม่สนสัญญาที่เหลือเพียงปีเดียวพร้อมกับอายุที่มากถึง 29 ปีทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด อาจคิดว่าไม่น่าคุ้มต่อการลงทุน
ความสนใจทั้งหมดเลยเปลี่ยนจากดาวเตะเบลเยียมไปเป็น แฮร์รี่ แม็คไกวร์ แทน
โอเค ประสบการณ์ของกองหลัง เลสเตอร์ อาจจะไม่เทียบเท่า โทบี้ แต่หากจะต้องทุ่มเงินก้อนยักษ์แล้ว อายุการใช้งานของเขานั้นเหลือบานเบอะด้วยวัยเพียง 25 ปีเท่านั้น
แน่นอน กับฟอร์มที่เล่นให้ต้นสังกัดฤดูกาลที่ผ่านมาอาจไม่ได้หวือหวามาก แต่นั่นก็เพราะสภาพแวดล้อมของทัพจิ้งจอกไม่ได้อำนวยให้เขาสักเท่าไหร่
แม็คไกวร์ แจ้งเกิดแบบทะลุปรอทขึ้นมาในช่วงฟุตบอลโลกกับทีมชาติอังกฤษ มันเข้ามาเตะตา มูรินโญ่ ในแบบชนิดที่กุนซือชาวโปรตุกีสต้องสะกิด เอ็ด วู้ดเวิร์ด ให้รีบเอานักเตะรายนี้มาเสริมทีมให้ได้
แล้วอะไรที่เป็นจุดเด่นของไอ้หมอนี่!!!
ที่เด่นสุดในการแจ้งเกิดกับเวิลด์ คัพ ฉบับรัสเซียเลยก็คือลูกโหม่ง เขามีสถิติชนะในการดวลลูกกลางอากาศมากถึง 33 ครั้ง ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในบรรดากองหลังทั้งหมดที่เล่นฟุตบอลโลกหนนี้
ภาพชินตาก็คือไม่ว่าจะเป็น คีแรน ทริปเปียร์ หรือ แอชลี่ย์ ยัง รับบทเล่นลูกเซ็ตพีซหรือเตะมุม บอลมักจะมาเข้าหัว แม็คไกวร์ อยู่เสมอ และมันก็ได้ลุ้นเป็นประตูอยู่เรื่อยๆ
ขณะที่ในเวทีพรีเมียร์ลีกซีซั่นที่ผ่านมา กองหลังร่างโตคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเลยเมื่อเทียบกับเซนเตอร์แบ็กทุกคน โดยเข้าสกัดชนะถึง 60 ครั้ง และสกัดสำเร็จถึง 51 ครั้งก็มากที่สุดอีกนั่นแหละ
ไม่เพียงแค่เกมรับเท่านั้นที่เป็นจุดเด่น ดาวเตะเจ้าของส่วนสูง 194 ซม. ยังเติมสูงมาทำได้ 2 ประตูกับอีก 4 แอสซิสต์ จากการลงเล่นครบทั้ง 38 นัดรวมทั้งสิ้น 3,420 นาที
และจากจำนวนนั้นเขาก็โดนใบเหลืองไปแค่ 7 ใบ โดยไม่มีสีแดงให้เห็นเลยแม้แต่เกมเดียว
เราจะคุ้นชินมากกับการที่เขาสามารถลากบอลจากแดนตัวเองฝ่าขึ้นมาในแดนของคู่แข่ง พร้อมกับมีสถิติผ่านบอลสำเร็จ 78.4% ต่อเกมเลยทีเดียว ขณะที่จ่ายบอลทั้งหมดก็นับได้ 1,740 ครั้ง หรือคิดเป็น 45.79 หนต่อนัด
นอกจากนี้ยังตัดบอลได้ถึง 49 ครั้ง เคลียร์ลูกอันตราย 175 ครั้ง และบล็อคลูกยิงไป 27 ครั้ง แถมชนะในการดวลลูกกลางอากาศ 3.1 ครั้งต่อเกม
เห็นตัวเลขโดยรวมแล้วเรียกได้ว่า แม็คไกวร์ เป็นกองหลังที่กำลังรุ่งพุ่งแรงที่ครบเครื่องคนหนึ่งเลย ไม่เพียงแค่ลูกกลางอากาศและเกมรับที่โดดเด่นเท่านั้น เขายังสามารถเล่นลูกโด่งในการช่วยทีมเล่นเกมรุกได้ด้วย
การพาบอลขึ้นหน้าก็ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นสไตล์ที่หาไม่ได้จากแนวรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดปัจจุบันนี้เลยด้วย
แม้ตอนนี้ เลสเตอร์ จะกันท่าสุดฤทธิ์ แต่เชื่อได้เลยว่าหากทัพจิ้งจอกหาตัวแทนที่เหมาะสมได้
พร้อมกับการที่ผีแดงทุ่มเงินสัก 60 ถึง 65 ล้านปอนด์เข้าไป
เชื่อว่าทัพจิ้งจอกก็คงรีบเอา แม็คไกวร์ ห่อใส่กล่องไปถวายถึงถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แน่
ที่สำคัญเลย โอกาสก้าวกระโดดในอาชีพค้าแข้งแบบนี้
มีหรือ แม็คไกวร์ จะไม่อยากคว้าเอาไว้
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT