พิสูจน์ตัวเอง
แน่นอนปีนี้ถือว่ามีอะไรใหม่ให้กองเชียร์ได้ติดตามกันเยอะ ทั้งการเสริมทัพของ ลิเวอร์พูล หรือจะการเปลี่ยนแปลงของ อาร์เซน่อล กับ เชลซี กระทั่ง แมนฯ ซิตี้ ว่าจะสามารถป้องกันแชมป์ได้รึเปล่า
แต่อีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจก็คือเหล่าดาวดังหน้าเก่าที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นของจริงสำหรับต้นสังกัดของพวกเขา
นี่จึงเป็นช่วงฤดูกาลที่สำคัญซึ่งอาจเป็นตัวตัดสินของใครหลายคนว่าจะดีพอถึงขนาดได้อยู่ต่อไปหรือไม่เลยทีเดียว
หลักๆ แล้วจะมีใครกันบ้างไปติดตามดูกัน
แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ (แมนฯ ซิตี้)
อันที่จริงจะโทษแบ็กซ้ายทีมชาติฝรั่งเศสรายนี้ฝ่ายเดียวก็คงไม่ได้ เพราะเจ้าตัวนั้นดันโชคร้ายได้รับบาดเจ็บหนักที่เข่ามา แต่ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 52 ล้านปอนด์ แน่นอนย่อมเกิดความคาดหวังสำหรับแฟนๆ
ตอนแรกเขาก็ทำท่าว่าจะมีความทรงจำที่ดี หลังจากออกสตาร์ตได้อย่างยอดเยี่ยมจนกลายเป็นขวัญใจของสาวกเรือใบ แถมยังชอบทำอะไรตลกๆ ให้ดูบนโลกออนไลน์ด้วย
แต่จากการที่เขายยังไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้เลย นี่จึงเป็นซีซั่นที่ เมนดี้ ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาจะเป็นผู้เล่นกำลังหลักของทีมแบบต่อเนื่องได้ ไม่ใช่แค่ตัวสร้างสีสันบนโลกอินเตอร์เน็ตเท่านั้น
รอสส์ บาร์คลี่ย์ (เชลซี)
ตอนนี้ กองเชียร์สิงห์บลูส์ส่วนใหญ่ยังคงเสียดายเงิน 15 ล้านปอนด์ ที่ทีมลงทุนดึง บาร์คลี่ย์ มาจาก เอฟเวอร์ตัน เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
เด็กปั้นทอฟฟี่โดนอาการบาดเจ็บตามเล่นงานมานานแล้ว และมันก็ยังเป็นเหมือนวิญญาณอาฆาตที่ตามหลอกหลอนเขาอย่างต่อเนื่องในตอนที่เขาย้ายมาอยู่กับ เชลซี เพราะแทบไม่ได้ลงเล่นเลยในช่วง 3 เดือนแรกที่มาอยู่กับทีม และสัมผัสฟลอร์หญ้าไป 4 นัดเท่านั้นในซีซั่นก่อน
ซีซั่นนี้จึงถือว่าเป็นอะไรที่ท้าทายมากๆ สำหรับ บาร์คลี่ย์ เขาจำเป็นต้องกลับไปโชว์ฟอร์มเก่งเหมือนตอนเป็นดาวรุ่งให้ได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็อาจจะเป็นเพียงอีก 1 แข้งชาวอังกฤษที่เป็นเหมือนพลุ ก่อนจะดับไปอย่างรวดเร็ว
เมซุต โอซิล (อาร์เซน่อล)
แม้เพลย์เมกเกอร์เมืองเบียร์จะเพิ่งจะต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปกับทีม แต่จนถึงขณะนี้เขาก็ยังไม่สามารถเข้าไปอยู่ในใจสาวกเดอร์ กูนเนอร์ส ได้อย่าง 100% เต็ม เนื่องจากปืนใหญ่ไม่ได้ไปโม่แชมเปี้ยนส์ลีกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
ที่จริงแค่ความไม่พอใจจากกลุ่มกองเชียร์ อาร์เซน่อล มันก็หนักอึ้งมากพอแล้ว แต่ตอนนี้ โอซิล ยังต้องเจอกับแรงกดันที่รุนแรงขึ้นไปอีก หลังจากล้มเหลวกับทีมชาติเยอรมนีในศึกฟุตบอลโลก 2018
ขณะเดียวกันยังโดนแฟนบอลเมืองเบียร์บางส่วนด่าอย่างหนักจากการที่ไปถ่ายรูปกับประธานาธิบดีของตุรกี และบอกลาการรับใช้ทัพอินทรีเหล็ก ดังนั้นถ้าจะมีครั้งไหนที่เขาต้องโชว์ฟอร์มเก่งออกมาให้ได้แล้วล่ะก็ มันก็ต้องเป็นตอนนี้เท่านั้น
แดเนียล สเตอร์ริดจ์ (ลิเวอร์พูล)
ย้อนกลับไปซีซั่นก่อน หัวหอกทีมชาติอังกฤษไม่ได้รับโอกาสลงเล่นกับหงส์แดงเท่าไหร่นักจนถูกปล่อยไปให้ เวสต์บรอมวิช ยืมตัวในครึ่งฤดูกาลหลัง และกับที่นั่นก็ไม่มีวี่แววว่าเขาจะโชว์ฟอร์มเก่งได้เลย
เดิมทีใครต่อใครก็ต่างพากันคิดว่า สเตอร์ริดจ์ นั้นหมดอนาคตกับลิเวอร์พูลไปแล้ว แต่การกลับมาครั้งนี้ของเขาดูแตกต่างออกไป เขาดูสดชื่นมีชีวิตชีวา และกลับมาเปรี้ยงปร้างในช่วงปรีซีซั่นจนชนะใจกุนซืออย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้สำเร็จ
หัวหอกวัย 28 ปีเหลือสัญญาในถิ่นแอนฟิลด์เป็นปีสุดท้ายแล้ว ดังนั้นหากเจ้าตัวหวังจะอยู่ค้าแข้งกับหงส์แดงต่อก็ต้องพยายามกลับมาเป็นคนสำคัญของทีมให้ได้ ไม่งั้นซีซั่นหน้าเราอาจไม่ได้เห็น สเตอร์ริดจ์ ในสีเสื้อหงส์แดงอีกต่อไป
ปอล ป็อกบา (แมนฯ ยูไนเต็ด)
'รถไฟเหาะ' น่าจะเป็นคำนิยามกับฟอร์มของ ป็อกบา ในฤดูกาลที่แล้ว เพราะมันขึ้นๆ ลงๆ ไร้ความคงเส้นคงวาไม่ต่างจากสิ่งนั้นเลย
แต่กับเวทีฟุตบอลโลก มิดฟิลด์วัย 25 ปีดันเจิดจรัสกับการงัดผลงานพาทีมคว้าแชมป์เวิลด์ คัพ ฉบับรัสเซีย และหากเขาหวังจะเข้าไปอยู่ในใจของแฟนผีแดงได้อย่าง 100% เขาก็ต้องทำให้ได้เหมือนกับที่เล่นในทัพตราไก่
ถ้าหากยังคงสามวันดีสี่วันไข้เหมือนที่ผ่านมา ต่อให้เป็นนักเตะค่าตัว 89 ล้านปอนด์ก็เถอะ บางทีอาจจะโดนเขี่ยทิ้งพร้อมกับคำว่าล้มเหลวเลยก็ได้
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT