หลังบ้านหงส์...เปลี่ยนไป
ยุคนั้น เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เป็นกุนซือ แน่นอนคู่หู 'เอสเอเอส' อย่าง หลุยส์ ซัวเรซ กับ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ พร้อมพังตาข่ายคู่แข่งเป็นว่าเล่น
อย่างไรก็ตาม เกมรับของพวกเขากลับเสียไปกว่า 50 ประตู โดยแผงเกมรับในวันนั้นได้แก่ ซิมง มิโญเลต์, เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดเนียล แอ็กเกอร์, มามาดู ซาโก้, จอน ฟลานาแกน และ โคโล ตูเร่
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ พยายามปรับแต่งจนหลายคนหล่นความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าสุขงอมที่สุดแล้วในฤดูกาลนี้
เราจะมาดูกันว่าหลังบ้านหงส์แดงที่เคยเป็นฝันร้ายในอดีตนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรกันบ้างในยุคของกุนซือชาวเยอรมัน
ผู้รักษาประตู
คล็อปป์ ได้ตัดสินใจแล้วว่า ซิมง มิโญเลต์ ไม่ใช่ผู้รักษาประตูสำหรับทีมลุ้นแชมป์ แต่มันก็เป็นการตัดสินใจที่แย่มากสำหรับการมอบหมายมือ 1 ให้กับ ลอริส คาริอุส ซึ่งซื้่อมาจาก ไมนซ์ ในราคา 5 ล้านปอนด์ โดยเขาก่อความผิดพลาดหลายครั้งในพรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ 2 ช็อตเข้าตาอย่างจังในแชมเปี้ยนส์ลีกรอบชิงกับ เรอัล มาดริด
กุนซือเมืองเบียร์เริ่มเล็งเห็นถึงความสำคัญกับการทุ่มเงินในตำแหน่งนี้ให้เหมือนกับที่เขาทำในดีลของ ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โดยเลือกที่จะจ่ายเงินมหาศาลถึง 66 ล้านปอนด์ในการคว้าตัว อาลิสซอน เบ็คเกอร์ มาจาก โรม่า
ตัวเลขนั้นคือสถิติสูงที่สุดในโลกในตำแหน่งนายทวาร จนกระทั่งโดน เกปา อาร์รีซาบาลาก้า กับ เชลซี ทำลายซ้ำก่อนตลาดปิด
การมาถึงของ อาลิสซอน ทำให้หน้าปากประตูของหงส์แดงดูมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น มันก็เหมือนกับตอนที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ลองผิดลองถูกกับ เคลาดิโอ บราโว่ ก่อนที่หวยจะมาออกที่ เอแดร์ซอน ในที่สุด
นอกจากจะมีฝีไม้ลายมือความเหนียวที่ไม่ธรรมดาแล้ว มือกาวหมายเลขหนึ่งทีมชาติบราซิลยังมีการใช้เท้าเล่นกับบอลที่ดีอีกด้วย
โอเค เกมกับ เวสต์แฮม นั้นอาจไม่ได้มีงานให้ทำอะไรมากมาย แต่ในนัดกับ คริสตัล พาเลซ นั้น เขาโชว์เซฟสุดสวยลูกปั่นฟรีคิกของ ลูก้า มิลิโวเยวิช และยังจัดการลูกเซ็ตพีซได้อย่างอยู่หมัด แถมยังมีการวางบอลแม่นยำราวกับจับวางอีกด้วย ส่วนนัดล่าสุดก็บอกปัดลูกโหม่งเต็มแรงของ ปาสกาล โกรสส์ อย่างเหลือเชื่อ แถมมีลูกชิพข้ามหลอกนักเตะของไบรท์ตันให้แฟนๆ ได้เฮอีกด้วย
แบ็กขวา
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ซื้อ เนธาเนียล ไคลน์ เข้ามาเพื่อแทนที่ เกล็น จอห์นสัน ในช่วงซัมเมอร์ก่อนจะโดนปลดในช่วงกลางซีซั่นนั้น
ไคลน์ มีการป้องกันที่มั่นคง แต่ คล็อปป์ ค่อนข้างโชคร้ายที่ต้องเสียเขาไปตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมาจากโรคเดี้ยงที่แผ่นหลัง ปัญหานั้นยังลุกลามไปถึงการบาดเจ็บข้อเท้าของ โจ โกเมซ ในช่วงเวลาเดียวกัน
โอกาสอันไม่คาดคิดจึงตกมาอยู่ที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เด็กปั้นที่ก้าวเข้ามาจากเมลวู้ด และกลายเป็นเพชรเม็ดงามจนทุกวันนี้
เด็กหนุ่มจากแถบเวสต์ดาร์บี้ในเมืองลิเวอร์พูลได้พิสูจน์ตัวเองว่าเหมาะสมกับฟูลแบ็กยุคโมเดิร์น เขาทั้งรวดเร็ว, แข็งแรง และไปกับบอลได้ดี เขาโดดเด่นมากจากการเปิดบอลจากริมเส้นทั้งสองฝั่ง และยังมีลูกตั้งเตะเป็นทีเด็ดไม่ต่างจาก คีแรน ทริปเปียร์ ของ สเปอร์ส
แม้จะมีวัยเพียง 19 ปี แต่ เทรนท์ ก็เปิดซิงประตูแรกกับหงส์แดงได้ตั้งแต่เกมแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นก่อน เมื่อซัดลูกฟรีคิกสุดสวยใส่ ฮอฟเฟ่นไฮม์ รวมถึงยังทำผลงานได้ดีตลอดปีจนฟอร์มไปเตะตา แกเร็ธ เซาธ์เกต ทำให้เป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมชาติอังกฤษชุดลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่รัสเซียมาแล้วด้วย
เซนเตอร์แบ็ก
ตำแหน่งนี้คือการปรับเปลี่ยนที่เด่นชุดที่สุดในยุคของ คล็อปป์
เขาเริ่มต้นด้วยการจับ มามาดู ซาโก้ แช่แข็งก่อนเลหลังไปให้ คริสตัล พาเลซ ขณะที่อีกหนึ่งคู่ขาของเขาอย่าง มาร์ติน สเคอร์เทล ก็โดนปล่อยไปยังตุรกี
ปัญหาก็คือนายใหญ่ชาวเยอรมันดูจะยังหาความลงตัวจากการจับคู่ของ เดยัน ลอฟเรน กับ โฌแอล มาติป ได้เลย ส่วน รักนาร์ คลาวาน นั้นเป็นเพียงตัวสแตนด์บายยามฉุกเฉินเท่านั้น
คล็อปป์ รู้ว่า เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จะสามารถตอบโจทย์ทุกอย่างของเขาได้ทั้งความเป็นผู้นำ การจัดการลูกกลางอากาศ และทักษะการเล่นภายใต้สถานการณ์ที่กดดัน
ความพยายามครั้งแรกในการคว้าตัวปราการหลังชาวดัตช์คือความผิดพลาด และหงส์แดงก็ถูกบังคับให้ถอนตัวออกมา พร้อมกล่าวคำขอโทษไปยัง เซาธ์แฮมป์ตัน
''เราต้องขอโทษเจ้าของสโมสร, ผู้บริหาร และแฟนบอลเซาธ์แฮมป์ตัน สำหรับความเข้าใจผิดใดๆ เกี่ยวกับเฟอร์จิล ฟาน ไดค์" นั่นคือคำแถลงอย่างเป็นทางการของลิเวอร์พูล
แต่กลายเป็นว่าในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกของปีนั้น หงส์แดงโดนยิง 3 ประตูหรือมากกว่านั้นถึง 6 นัดด้วยกัน และ คล็อปป์ ก็รู้แล้วว่าอยู่เฉยไม่ได้
ในที่สุด ฟาน ไดค์ ก็กลายมาเป็นสมาชิกของลิเวอร์พูลสมใจ และก็สร้างอิมแพ็คท์ได้ในทันที
หงส์แดงผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก โดยเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ได้ทั้ง 2 นัด และกองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ก็ได้รับเครดิตมากจากหลังบ้านอันแข็งแกร่งของทีมในช่วงออกสตาร์ทซีซั่นนี้
และโบนัสที่เพิ่มเข้ามาก็คือฟอร์มอันยอดเยี่ยมของดาวเตะวัย 21 ปีอย่าง โกเมซ ที่เข้าคู่กับ ฟาน ไดค์ ได้ดีเหลือเกิน และถ้ายังดีต่อไปเรื่อยๆ ในทุกสัปดาห์ มันก็คงจะเป็นงานเหนื่อยสำหรับกองหลังรองแชมป์โลกอย่าง ลอฟเรน ที่จะแย่งตัวจริงคืนกลับมาได้ง่ายๆ
แบ็กซ้าย
เหล่าเดอะ ค็อป มีความหวังขึ้นมาทันทีกับการฉายแสงของ จอน ฟลานาแกน แต่อาการบาดเจ็บเรื้อรังที่เอ็นร้อยหวายทำให้เราไม่เคยได้เห็นฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขาอีกเลย
ปัจจุบันเขากลายไปเป็นลูกทีมของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ เรนเจอน์ส หลังจากล้มเหลวในช่วงที่ถูกทั้ง เบิร์นลี่ย์ และ โบลตัน ยืมตัวไปช่วยทีม
สมัยนั้น ร็อดเจอร์ส เซ็นสัญญาคว้าตัว อัลเบร์โต้ โมเรโน่ เข้ามา แต่มันดันกลายเป็นปัญหาขึ้นมาอีกเมื่อดาวเตะเลือดกระทิงดุไม่ได้ตอบโจทย์ เขาอาจมีเกมรุกที่วูบวาบ ทว่าเมื่อถึงเวลาต้องตั้งรับก็ทำเอาแฟนๆ ถึงส่ายหัว
คล็อปป์ หันหาตัวเลือกซึ่งไม่ได้เป็นที่ถูกใจกองเชียร์เท่าไหร่กับการดึงดาวเตะทีมชาติสกอตแลนด์อย่าง แอนดี้ โรเบิร์ตสัน มาจากทีมตกชั้นอย่าง ฮัลล์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว
ทีแรกเขาไม่สามารถเบียดตำแหน่งตัวจริงจาก โมเรโน่ ได้เลย แต่หลังจากได้รับโอกาส โรเบิร์ตสัน ก็แสดงให้เห็นว่าตัวเองมีดีในเกมรุกไม่เป็นรองใครเลย และยังเล่นเกมรับได้ตามมาตรฐานของกองหลังเสียด้วย
โรเบิร์ตสันเอาชนะใจ คล็อปป์ อย่างอยู่หมัด เขาโชว์ฟอร์มได้ดีเยี่ยมในสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า โดยเฉพาะนัดชนะ แมนฯ ซิตี้ ในลีกซีซั่นก่อน เขามีสถิติชนะแท็คเกิ้ลถึง 14 ครั้ง และที่เรียกเสียงฮือฮาจากเหล่าเดอะ ค็อป ก็คือการตัดบอลจาก ราฮีม สเตอร์ลิง อดีตคนรักเก่าที่ปัจจุบันกลายเป็นคนแปลกหน้าของสาวกหงส์แดง
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT