บทเรียนชิ้นสำคัญ

    มันเป็นผลงานการออกสตาร์ทลีกยอดเยี่ยมที่สุดของพวกเขาตั้งแต่ปี 1990 เลยทีเดียว ซึ่งตอนนั้นมันเป็นก่อนยุคพรีเมียร์ลีกจะเริ่มต้นอีก

    แต่จะให้คุยโม้โอ้อวดถึงการฝันแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกก็คงใช่เรื่อง เนื่องจาก เชลซี ที่แข่งในวันเดียวกันก็ผลงานไม่เบากวาดชัยได้ 4 เกมรวดเหมือนกัน

    โอเค มันต้องเป็นความประทับใจแน่ เนื่องจากการมาเยือน เลสเตอร์ นั่้นไม่เคยง่าย

    หากไม่มีความผิดพลาดครั้งใหญ่ของ อลีสซง เบ็คเกอร์ เกิดขึ้น...

    อันที่จริงจะบอกว่าหงส์แดงเล่นได้ดีกว่า หรือรูปเกมเหนือกว่าทัพจิ้งจอกก็ไม่ใช่ นัดนี้ตลอดทั้ง 90 นาทีทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ดูจะเป็นรองด้วยซ้ำ ทว่ากับสกอร์ที่นำห่างถึง 2-0 ในช่วงหมดครึ่งแรก พวกเขาน่าจะเล่นได้ง่ายกว่านี้ในครึ่งหลัง

    แน่นอน มนุษย์ทุกคนเกิดมาย่อมผิดพลาดกันได้ แต่นี่มันเป็นความผิดพลาด เพราะความประมาท และตั้งใจจนเกินไป

    เราต่างรู้ว่ามือกาวทีมชาติบราซิลไม่ได้มีดีแค่การใช้มือ แต่เรื่องของเท้าก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ติดตัวมาพร้อมค่าตัว 67 ล้านปอนด์

    ไม่มีใครปฏิเสธถึงความยอดเยี่ยมในการออกบอลจากหน้าปากประตูของเขา

    ช่วง 3 นัดแรกของซีซั่น อลีสซง ก็ได้พิสูจน์ตัวเองมาแล้ว

    เกมแรกกับ เวสต์แฮม ไม่ต้องทำอะไรมาก จะบอกว่าแทบไม่โดนบอลเลยก็ว่าได้ ส่วนต่อมาก็โชว์ออกบอลสวยๆ จนได้รับคำชื่นชมในเกมกับ คริสตัล พาเลซ ถัดมาก็เรียกเสียงฮือฮาจากกองเชียร์ด้วยการชิพบอลหลบ อ็องโตนี่ น็อคการ์ต ของ ไบรท์ตัน

    แต่การเล่นแบบประมาทเกินไปนำมาซึ่งความเสี่ยงแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ และมันก็เกิดขึ้นในนัดล่าสุดนี้เอง

    พูดถึงจังหวะนั้น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ คืนบอลมาก็ใช่จะดีสักเท่าไหร่ แต่เมื่อมุมมันบีบขนาดนั้น และ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ก็พุ่งเข้ามาบีบในระยะอันตราย ความเป็นจริง อลีสซง ก็ควรจะตัดสินใจหวดบอลทิ้งไปซะก็สิ้นเรื่อง

    แน่นอน ถ้าลูกนั้นเขาหลอกหัวหอกไนจีเรียสำเร็จ ก็คงจะได้รับคำชื่นชมอีกตามเคย แต่คราวนี้โชคไม่เข้าข้าง และมันก็เสียหายถึงการขว้างคลีนชีตนัดที่ 4 ติดต่อกันในลีกทิ้งไป

    สิ่งนี้ทำให้เดอะ ค็อป ทั่วโลกต้องหัวเสียไม่น้อย และคนที่เสียหายสุดก็คือกุนซืออย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์

     "ผมคิดว่ามันจะเกิดขึ้นแน่ แต่ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นในเกมต่อมา" นายใหญ่ชาวเยอรมันกล่าว

    "เขารู้ดีว่าพลาด เราจำเป็นต้องคุ้นเคยกับมัน เราผ่านบอลให้นายทวารบ่อย และนักเตะสมควรเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่น"

     "โจ โกเมซน่าจะเคลียร์บอล (ก่อนจ่ายไปให้ฟาน ไดค์) อลีสซงก็เช่นกัน เขาเป็นผู้รักษาประตูที่วิเศษ และเซฟลูกมหัศจรรย์ได้"

    ในส่วนของ อลีสซง เอง เขาก็รู้ตัวดีว่าก่อความผิดพลาดขึ้น และทำให้ทีมต้องตกอยู่ในความกดดันแบบไม่สมควร

    "ผมโกรธตัวเองมากที่พลาดแบบนั้น และทำให้ทีมตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก" มือกาวบราซิเลี่ยนเอ่ย

     "ผมไม่โง่พอที่จะก่อความผิดพลาดเหมือนเดิมอีกแล้ว"

    "การคอนโทรลบอลเป็นส่วนหนึ่งในเกมของผม แต่ผมไม่อวดดีที่จะบอกว่าผมจะทำแบบนั้นต่อไป เราทุกคนต้องเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาด และนำมาเป็นบทเรียน"

    จากบทสัมภาษณ์หลังจบเกมของ อลีสซง บ่งชี้ให้เห็นว่าเขาเองก็ได้รับรู้ถึงบทเรียนครั้งนี้ ซึ่งนั่นคือทัศนคติที่ดี

    มันไม่ใช่ว่าเขาห่วยแตก หรือไม่ดีเลย นี่คือนายทวารที่ทำให้แฟนหงส์รู้สึกปลอดภัยมากที่สุดในรอบทศวรรษ

    หลายคนร้องอ้าว... ที ลอริส คาริอุส หรือ ซิมง มิโญเลต์ พลาดทำไมมีแต่คนไม่เชื่อน้ำยา

    แต่กับ อลีสซง นั้นแตกต่างออกไป ถึงเขาจะทำพลาดแบบน่าอับอายขายหน้า ทว่าแฟนหงส์ทั้งหลายก็ยังเชื่อมั่นในระดับของเขาอยู่ไม่ใช่หรือ

    การป้องกันลูกฟรีคิกของ ลูก้า มิลิโวเยวิช จังหวะโหม่งของ ปาสกาล โกรสส์ หรือลูกยิงของ เดมาไร เกรย์ และ เจมส์ แมดดิสัน นั้นบ่งบอกอยู่แล้วว่านี่คือคนที่เหนียวระดับโลกมากแค่ไหน

    มันดีแล้วที่เขามาพลาดเอาไว้ขนาดนี้ และพลาดในเกมที่ทีมชนะ

    เพราะมันจะเป็นบทเรียนชิ้นสำคัญที่จะทำให้เขาไม่ก่อข้อผิดพลาดง่ายๆ แบบนี้อีก

    เราทุกคนเชื่อว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้น...