Still a Hell Razor (Part1)
เจ้าของฉายา "Hell เรเซอร์" แทบไม่ต้องอธิบายถึงความห่ามของเขา
วันนี้เราจะพาทุกท่านย้อนกลับไปทำความรู้จักกับอดีตกองหลังพันธุ์หมาบ้ารายนี้
เผื่อเดอะ ค็อป คนไหนที่กำลังเคร่งเครียดกับผลงานของทีมจะพอยิ้มออกมาได้บ้าง
และข้างล่างนี้คือ Part1 ของเรื่องราวน่าสนใจของ
นีล เรเซอร์ รัดด็อก
รัดด็อกไปอยู่กับมิลล์วอลล์ตั้งแต่อายุเพียงแค่ 12 มันดูน่าสนใจไม่น้อยเลยนะในช่วงก่อนที่ขาจะมายังลิเวอร์พูล
เรเซอร์ : สมัยเรียน ผมเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายกับกองหน้า มันไม่ใช่เรื่องน่าขำนะเฟ้ย! แล้วผมก็ไปอยู่กับ มิลล์วอลล์ ตอนอายุ 16 ซึ่งที่นั่น จอร์จ เกรแฮม ดันจับผมมาเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟและมันก็เป็นแบบนั้นเรื่อยมา เขาเป็นคนที่ระเบียบวินัยสูงเลยทีเดียว เขาซี้กับ เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ โดย เทอร์รี่ เป็นกุนซือที่แมนสุดๆ พวกเขาสนิทกันมาตั้งแต่สมัยอยู่ พาเลซ แล้ว
รัดด็อกในสีเสื้อสเปอร์ส
สเปอร์สคว้าตัวรัดด็อกมาร่วมทีมเมื่อตอนอายุ 17 พอเขาอยู่ที่นั่นได้ปีเดียว เดวิด พลีท ก็โดนเด้งจากเก้าอี้กุนซือ จากนั้น เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ เข้ามาสานต่อ และบังเอิญมากที่เกมแรกของเขาคือการพบลิเวอร์พูลที่ไวท์ ฮาร์ท เลน เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 1987 ซึ่งรัดด็อกแทบกระโดดตัวลอยเมื่อมีชื่อเป็น 11 ตัวจริงในทีมของ เอล เทล แต่นั่นแหละคือหายนะของเขา
เรเซอร์ : แกรี่ จิลเลสพี ย่ำลงมาที่ขาของผม ให้ตายสิ! ผมออกจากสนามโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองขาหักเป็นสัปดาห์ ดังนั้นผมเลยเดินเขย่งไปมาทั้งที่ตัวเองยังขาหักอยู่ราวอาทิตย์ จริงๆ ก่อนหน้านั้น สตีฟ ฮ็อดจ์ ก็ถูกไล่ออกหลังไปศอกใส่ เรย์ เฮาจ์ตัน ด้วย
เวนาเบิ้ลส์คือบอสสุดรักของรัดด็อก
รัดด็อกใช้ชีวิตกับอู่ข้าวอู่น้ำเก่าเพียงหกเดือน และก็ย้ายไปอยู่โยงกับเซาธ์แฮมป์ตันถึงสี่ปี ทว่ารัดด็อกก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของ เวนาเบิ้ลส์ อยู่เหมือนเคย โดยอีกสี่ปีถัดมาทั้งสองได้ร่วมงานกันอีกครั้งในทีมไก่เดือยทอง และคราวนี้เองที่เกิดเป็นเรื่องราวอันน่าขบขันของนายใหญ่ผู้มากความสามารถ เมื่อรัดด็อกโดนไล่ออกในนัดพบคริสตัล พาเลซ แต่เวนาเบิ้ลส์กลับเห็นแย้งกับการตัดสินของฟิลิป ดอน
เรเซอร์ : เวรเอ๊ย! เขาไล่ผมออก และในตอนจบเกม เทอร์รี่ ได้เข้าไปคุยกับ ดอน ในอุโมงค์และถามว่า "เฮ้! ดอน ถ้าผมจะเรียกคุณว่าไอ้หน้า @^%#$ (อวัยวะเพศหญิง) ผมจะเจอปัญหาป่ะ?" เขาตอบกลับมาว่า "เออดิ เอ็งเจอปัญหาแน่ เวนาเบิ้ลส์" จากนั้น เทอร์รี่ ก็ย้อนไปอีกครั้งว่า "ถ้าผมแค่คิดเฉยๆ ล่ะว่าคุณเป็น @^%#$" เขาตอบมาทันที "ไม่!" เทอร์รี่ เลยจบบทสนทนาสั้นๆ ว่า "งั้นผมก็คิดว่าคุณเป็น @^%#$ แหละ" ผมว่ามันยอดมากเลย ฮา ฮา...
ลิเวอร์พูลทุ่มเงิน 2.5 ล้านปอนด์ซึ่งเป็นสถิติกองหลังค่าตัวแพงสุดสมัยนั้นเพื่อคว้าตัวนีล รัดด็อกในวันที่ 22 กรกฎาคม 1993
เรเซอร์ : ผมกำลังใช้วันหยุดอยู่ที่สเปน ตอนนั้น แซมมี่ ลี ติดต่อเข้ามา ผมจำได้ว่าตัวเองกำลังทานข้าวเที่ยงอยู่ และเด็กเสิร์ฟก็พูดขึ้นว่า "คุณ รัดด็อก มีสายถึงคุณน่ะ" จริงๆ แล้วผมรู้จัก แซมมี่ เป็นอย่างดีนะ เพราะผมเคยเล่นกับเขาตั้งแต่สมัยอยู่ เซาธ์แฮมป์ตัน ตอนที่เด็กเสิร์ฟบอกว่าจาก แซมมี่ ลี ผมคิดในหัวทันทีว่านรกละ เนื่องจากเขาเป็นโค้ชทีมสำรองของลิเวอร์พูลในตอนนั้น เขาบอกว่า "เฮ้ย! ซูเนสส์ ต้องการเอ็งว่ะ" พอผมกลับมาถึงบ้านผมก็พบว่ามีทั้ง ซูเนสส์, เกล็น ฮ็อดเดิ้ล ของ เชลซี, ไบรอัน คลัฟ จาก ฟอเรสต์, เควิน คีแกน ของ นิวคาสเซิ่ล, วอลเตอร์ สมิธ จาก เรนเจอร์ส และ เคนนี่ ดัลกลิช ของ แบล็คเบิร์น ที่มารอพบผม ผมรับปากไปว่าจะคุยกับทุกทีม ผมไปแบล็คเบิร์นเพื่อพบเคนนี่ในวันจันทร์ ส่วนวันอังคารก็เป็นลิเวอร์พูล จากนั้นก็ไปนิวคาสเซิ่ลในวันพุธ แต่พอเจอซูเนสส์ ผมคิดในหัวทันทีว่า "ห่านเอ๊ย! ที่นี่แหละใช่เลยว่ะ" เพราะตอนที่ผมเติบโตขึ้นมา หงส์แดงนั้นคือยอดทีม อัฒจันทร์ฝั่งเดอะ ค็อปอันเก่าแก่ก็ยังคงอยู่ มันไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้แล้ว ตอนที่ผมวิ่งร่าไปเหยียบหญ้าในแอนฟิลด์ สเก๊าเซอร์สกว่า 25,000 คนต่างร้องเพลงกันสุดเสียง ครึ่งชั่วโมงก่อนเกมจะเริ่มอัฒจันทร์ฝั่งเดอะ ค็อปนั้นเต็มไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตอนกำลังลงไปสู่สนามคุณจะได้ยินเหล่าเดอะ ค็อปร้องเพลงกันระงม นั่นคือสิ่งที่ผมจำได้ไม่มีวันลืมเลย
เคยทำกระดูกแก้มเบียร์ดสลี่ย์ถึงขั้นแตกมาแล้ว
ในตอนหลังเบียร์ดสลี่ย์ได้เขียนลงในหนังสืออัตชีวประวัติตัวเองว่ารัดด็อกจงใจทำร้ายเขาเพื่อที่สาวกเดอะ ค็อปจะได้เห็นว่าตัวเขาเองคือฮาร์ดแมน ทว่ารัดด็อกก็ตอกกลับในอัตชีวประวัติตัวเองว่า "ถ้ามีสิ่งใดที่ต้องปรับปรุงบนใบหน้าของปีเตอร์ก็เป็นเรื่องที่ดีแล้วนะ"
มันอาจไม่ใช่การเริ่มต้นกับลิเวอร์พูลในแบบที่รัดด็อกต้องการเท่าไรนัก
เรเซอร์ : ลูกนั้นมันไม่ได้เป็นแม้กระทั่งฟรีคิกเลยนะ กรรมการเองก็ปล่อยให้เล่นกันต่อไป ปีเตอร์ เบียร์ดสลี่ย์ บอกว่าจะฟ้องเรียกเงินจากผม แต่หมอก็บอกเขาว่า "รอให้มันหายบวมก่อนเถอะน่า" ถึงตอนนี้ผมก็ยังรออยู่ว่าเมื่อไหร่เขาจะมาฟ้องผมเสียที
ซูเนสส์ (ชุดดำ) โดนไล่ออกจากกุนซือหงส์แดงหลังการย้ายมาของร็อดด็อก
แกรม ซูเนสส์ คุมทัพหงส์แดงมาแล้วสองซีซั่น โดยก่อนซื้อรัดด็อก ลิเวอร์พูลได้อันดับ 6 ทั้งสองปี มันช่างดูห่างไกลจากวันที่พวกเขาเคยรุ่งเรือง
ลิเวอร์พูลคว้าชัยสี่จากห้านัดแรกของฤดูกาล 1993-94 โดยมีมาร์ค ไรท์และนีล รัดด็อกเป็นหัวใจในแนวรับ ซึ่งอีกนัดก็คือการพ่ายให้กับทีมเก่าของเขาอย่างสเปอร์ส
จากนั้นลิเวอร์พูลก็แพ้อีกสามเกมรวด และความย่ำแย่ยังไม่หยุดแค่นั้นเมื่อพวกเขาต้องมาตกรอบเอฟเอ คัพ จากน้ำมือทีมในศึกดิวิชั่น 1 อย่างบริสตอล ซิตี้คาถิ่นแอนฟิลด์อีก นั่นทำให้ซูเนสส์โดนเด้งจากตำแหน่งหลังการมาของรัดด็อกเพียงแค่หกเดือนเท่านั้น
เรเซอร์ : ผมคิดว่าเขาควรจะได้โอกาสมากกว่านี้นะ เขาค่อนข้างจริงใจกับผม ตอนที่เราเล่นบอลห้าคน เขายังเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยอดเยี่ยมอยู่เลย ซูอี้กลับมาและเขาคุมทีมที่มีเพื่อนๆ ของเขาอย่าง วีแลน และ กร็อบเบลาร์ อยู่ เขามาถึงและบอกกับเพื่อนๆ ของเขาว่าอย่าทำในสิ่งที่เคยทำด้วยกันมา จริงๆ แล้วเขาต้องการจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง เขาต้องการมันเดี๋ยวนั้นและเขาก็ไม่สามารถรีรอได้ แต่เขาก็ไม่เห็นภาพทั้งหมดหรอก เหล่านักเตะต่างพูดคุยลับหลังเขา นั่นคือสิ่งที่ผมเห็นทั้งหมดล่ะ
(ติดตามต่อ Part2)
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT