ยังไงดีล่ะ'ค้อน'

    พวกเขามีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่เพื่อจะพัฒนาทีมไปสู่ระดับท็อปในการสู้กับบรรดาตัวเต็งอย่างกลุ่ม 'บิ๊กซิกซ์'

    เงินกว่า 100 ล้านปอนด์ถูกทุ่มทุนแลกกับ 10 นักเตะใหม่ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซึ่งก็ทำให้ขุนค้อนกลายเป็นทีมอันดับสองในพรีเมียร์ลีกที่ใช้เงินมากที่สุดรองเพียง ลิเวอร์พูล เท่านั้นเอง

    และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ พวกเขาได้รับการจับตามองเนื่องจากหล่นไปรั้งบ๊วยพร้อมผลงานสุดห่วยแพ้รวดทั้ง 4 นัดในช่วงออกสตาร์ท

    นี่เป็นเพียงครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่พวกเขาแพ้ในลีกตลอด 4 เกมแรก โดยก่อนหน้านี้ก็คือปี 2010-11 ซึ่งปีนั้นพวกเขาตกชั้น

    ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ตอนนี้คนกดดันที่สุดก็คือ มานูเอล เปเยกรินี่ กุนซือใหม่ของทีมซึ่งโผล่พรวดขึ้นมารั้งเต็ง 2 สำหรับผู้จัดการทีมคนแรกที่จะโดนไล่ออกในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้

    มันเกิดอะไรขึ้นกับทีม

    ???

    โอเค หลายคนบอกว่าการเสริมนักเตะใหม่เข้ามาเยอะย่อมต้องมีปัญหาอยู่แล้วในช่วงแรกๆ แต่มันก็ไม่น่าจะเละเทะอะไรขนาดนี้รึเปล่า

    การแพ้ทั้ง ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่ที่หนักก็คือมาพังคารังให้กับทีมที่ชื่อชั้นไม่ได้เหนือกว่าอย่าง บอร์นมัธ และ วูล์ฟส์ นั้นเป็นสิ่งที่ไม่สมควร

    นายใหญ่ชาวชิลีเองก็ถึงกับอึ้งแดรกส์...อยู่เหมือนกันว่าทำไมทีมของเขาถึงผลงานเละเป็นโจ๊กได้เพียงนี้

    "ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นการเริ่มต้นที่เลวร้าย แต่มันเป็นการเริ่มต้นที่เลวร้าย เราไม่ควรเสียหกแต้มในบ้าน เราบุกไปเยือนลิเวอร์พูลกับอาร์เซน่อล และมันยอมรับได้เมื่อคุณเล่นได้ไม่ดี แต่การแพ้ในบ้านเราต้องกังวล"

    "เราต้องวิเคราะห์เกมทั้งหมด คุณสามารถมองหาข้อแก้ตัวได้มากมาย แต่มันไม่ปกติที่เราแพ้สี่เกม"

    "ในการซ้อมเราทำได้ดี และไม่มีความเหยาะแหยะ มันผ่านไปแค่สี่เกม เราจะไม่หยุดต่อสู้แต่เพียงเท่านี้ เราจะเริ่มแก้ปัญหาให้ได้"

    ปัญหาใหญ่ที่สุดของ เปเยกรินี่ น่าจะอยู่ที่แนวรับ

    จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่สามารถหาแผงแบ็กโฟร์ที่ลงตัวได้เลย

    เริ่มต้นใช้งาน ฟาเบียน บัลบูเอน่า กับ อันเจโล่ อ็อกบอนน่า แต่เดี๋ยวก็เปลี่ยนเป็น อิสซ่า ดิย็อป กับ บัลบูเอน่า บ้างก็ใช้ ดิย็อป กับ อ็อกบอนน่า สุดท้ายไม่ว่าจะใครคู่ใครก็ยังไม่เวิร์คอยู่ดี

    แบ็กขวาอย่าง ไรอัน เฟรเดริกส์ ที่เซ็นฟรีมาจาก ฟูแล่ม ก็ดูจะยังคลาสไม่ถึง พอมองไปยังอีกอีกตัวเลือกคือ ปาโบล ซาบาเลต้า ก็แก่เกินแกงแล้ว

    ฝั่งซ้ายแรกๆ เป็น อาร์กตูร์ มาซูอากู พอไม่ดีดังหวังก็เปลี่ยนใช้ อารอน เครสส์เวลล์ ในเกมล่าสุดก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมเลย

    ตัวความหวังใหม่ในแนวรุกอย่าง เฟลิเป้ อันแดร์ซอน ที่ทุ่มเงินมา 36 ล้านปอนด์ กับ อังเดร ยาร์โมเลนโก้ ในราคา 17.5 ล้านปอนด์ ก็ไม่ได้ทำให้เดอะ แฮมเมอร์ส ดูน่าเกรงขามต่อแนวรับคู่แข่งเลย

    ความหนักอึ้งเลยตกมาอยู่ที่ มาร์โค อาร์เนาโตวิช เพียงคนเดียว ซึ่งมันไม่พอที่จะแบกรับไหว

    นั่นคือสิ่งที่ทำให้ เปเยกรินี่ ปวดหัว และยังไม่รู้จะแก้ไขได้เมื่อไหร่

    แต่ที่ปวดหัวกว่าก็น่าจะเป็นบอร์ดบริหารของขุนค้อนเอง พวกเขาก็ยังไม่รู้จะทำยังไงต่อไปเหมือนกันหากสถานการณ์ยังคงแย่ต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้

    ตามที่เข้าใจ เปเยกรินี่ มีสัญญา 4 ปี และเขาก็รับค่าเหนื่อย 5 ล้านปอนด์ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงในระดับเดียวกับ อูไน เอเมรี่ (6 ล้านปอนด์), เมาริซิโอ ซาร์รี่ (6.5 ล้านปอนด์) และ เจอร์เก้น คล็อปป์ (7 ล้านปอนด์) เลยทีเดียว

    หากคนใหญ่คนโตของ เวสต์แฮม จะอัปเปหิเขาออกจากตำแหน่งนายใหญ่ก็ต้องยอมเฉือนเนื้อตัวเองจ่ายค่าชดเชยถึง 15 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

    ก็คงต้องบอกว่าตอนนี้ไม่เพียงแค่กุนซือชาวชิลีที่มึนคนเดียว

    สองเจ้าของร่วมทั้ง เดวิด ซัลลิแวน และ เดวิด โกลด์ เองก็คงมึนไม่แพ้กัน

    พาสต้า