ใครว่าลีกเลี่ยนไม่น่าดู

    ส่วนเยอรมันก็คงจะน่าติดตามน้อยหน่อยสำหรับคนทั่วโลก เนื่องจากมีเพียง บาเยิร์น ที่น่าสนใจอยู่ทีมเดียว

    แต่เราคงลืมเวทีกัลโช่ เซเรีย อา กันไปแล้ว ในปีนี้ลีกอิตาลีนั้นเรียกได้ว่าคึกคักเป็นอย่างมาก ขนาดนักเตะที่ได้ชื่อว่าเป็นคนหนึ่งที่ดีที่สุดในโลกอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังย้ายไปยังประเทศนี้

    เราจะมาจัดให้ดูถึงทีมยอดเยี่ยมของเซเรีย อา ว่ามันจะเจ๋ง และสามารถสู้กันทีมยอดเยี่ยมของทั้งอังกฤษ และสเปนตามใจคุณได้หรือไม่

    ผู้รักษาประตู : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า (เอซี มิลาน)

    ย้อนกลับไปในช่วงครึ่งซีซั่นหลังของฤดูกาลที่แล้ว บรรดาแฟนบอลต่างตั้งคำถามถึงความจงรักภักดีของมือกาวหนุ่มรายนี้ภายใต้การผลักดันให้ย้ายไปเล่นกับทีมที่ใหญ่กว่าของ มิโน่ ไรโอล่า

    แต่เมื่อ จานลุยจิ บุฟฟ่อน และ อาลีสซง เบ็คเกอร์ ตบเท้าออกจากเวทีเซเรีย อา ไปแล้ว ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ามือกาววัย 19 ปีคือนายทวารเหนียวที่สุดในลีก

    เซนเตอร์แบ็ก : กาลิดู กูลิบาลี่ (นาโปลี)

    ในชั่วโมงนี้คงไม่มีกองหลังหน้าไหนเนื้อหอมไปกว่าดาวเตะทีมชาติเซเนกัลอีกแล้ว จุดแข็งที่สุดของเขาก็คือลูกกลางอากาศซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมแฟนๆ ถึงเรียกเขาว่า 'K2' (สื่อถึงยอดเขาเคทูที่สูงเป็นอันดับสองของโลกรองจากเอเวอเรสต์)

    ดาวเตะหมายเลข 26 ปีพัฒนาขึ้นมากจนลบจุดบกพร่องต่างๆ ออกไป มันจึงง่ายดายว่าทำไมเขาจึงเป็นเป้าหมายของเหล่ายักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีก

    เซนเตอร์แบ็ก : มิลาน สคิเนียร์ (อินเตอร์)

    จริงๆ แล้วช่วงที่ อินเตอร์ เซ็นสัญญาเขามาจาก ซามพ์โดเรีย เมื่อปี 2016 ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะก้าวมาเป็นกำลังสำคัญได้ถึงขนาดนี้ แต่แนวรับสโลวักก็กลายเป็นฮีโร่ในถิ่นจูเซ็ปเป้ เมอัซซ่าไปเรียบร้อยแล้ว

    จุดแข็งของเขาคือการอ่านเกม และยืนตำแหน่งที่ยอดเยี่ยม สังเกตุว่าเขาได้รับใบเหลืองไปเพียง 2 ครั้งจาก 38 นัดในลีก นั่นแสดงให้เห็นถึงความแม่นยำ และการตัดสินใจที่ดี

    จากแต่ก่อนที่ทุกคนมักถามว่า 'ไอ้นี่คือใคร?' แต่ทุกวันนี้คนพวกนั้นต่างก็ต้องร้อง 'ว้าว!' กันในเวลาเพียงไม่กี่เดือน

    เซนเตอร์แบ็ก : คอสตาส มาโนลาส (โรม่า)

    ใครหลายคนอาจเคยได้ยินสำนวนว่า 'Beware of Greeks bearing gifts' หรือหมายถึงให้ระวังชาวกรีก เวลาที่พวกเขาเอาของขวัญมาให้ มันมักจะมีสิ่งอื่นแอบแฝงเสมอ แต่นั่นไม่ใช่กับที่สตาดิโอ โอลิมปิโก

    นี่คือผู้นำคนสำคัญของแนวรับ โรม่า ความกล้าหาญ และมุ่งมั่นของเขาช่วยให้ทัพจัลโลรอสซี่ไปถึงรอบตัดเชือกแชมเปี้ยนส์ลีกซีในซั่นที่แล้ว

    หลังจากดาวดังอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, รัดย่า นาอิงโกลัน และ อาลีสซง โดนขายออกไป มาโนลาส ที่แหละที่ยังทำให้แฟนๆ พออุ่นใจได้

    วิงแบ็กขวา : ซิเม่ เวอร์ซัลโก้ (อินเตอร์)

    หากนึกภาพของฟูลแบ็กที่ไม่เคยเหน็ดเหนื่อยในฟุตบอลโลกที่ผ่านมา ดาวเตะโครแอตคือคนนั้น

    เวอร์ซัลโก้ ถูกยืมมาจาก แอต. มาดริด และเขาก็กลายเป็นแบ็กขวาขวัญใจกองเชียร์ได้อย่างรวดเร็วนับตั้งแต่หมดยุคของ ไมค่อน

    เขาไม่มีปัญหาเลยในการปรับตัวให้เข้ากับลีกอิตาเลี่ยนหลังจากเคยมีประสบการณ์ในเวทีกัลโช่มาแล้วกับทั้ง เจนัว (2013) และ ซาสซูโอโล่ (2016)

    วิงแบ็กซ้าย : เลโอนาร์โด้ สปินัซโซล่า (ยูเวนตุส)

    ดาวเตะที่เพิ่งประเดิมทีมชาติอิตาลีชุดใหญ่เมื่อไม่นานนี้กลับมายัง ยูเวนตุส อีกครั้งหลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงในการยืมตัวกับ อตาลันต้า

    แม้จะถนัดเท้าขวา แต่นั่นก็เป็นการเล่นในวิธีแบบวิงแบ็กยุคโมเดิร์น แม้ซีซั่นนี้เราจะยังไม่ได้เห็นเขาวาดลวดลายให้กับ ยูเว่ เลย ซึ่งเป็นเพราะอาการบาดเจ็บที่ติดตัวมา แต่ก็ไม่อีกนานเกินรอหรอก เพราะล่าสุดเจ้าตัวกลับมาซ้อมได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    มิดฟิลด์ตัวกลาง : รัดย่า นาอิงโกลัน (อินเตอร์)

    แม้ซีซั่นก่อนเราจะไม่ได้เห็นฟอร์มที่ดีที่สุดของเขากับ โรม่า แต่มันก็ยังเพียงพอที่จะทำให้งูใหญ่เซ็นสัญญาคว้าตัวเขามาร่วมทีม

    เจ้าของฉายา 'นินจา' ดูจะสดมากขึ้น และฟิตมากขึ้นหลังจากไม่ได้มีส่วนร่วมในบอลโลก และเมื่อเขาเข้าฝักแล้ว คงหากองกลางได้น้อยคนนักที่จะมีพลังงาน, ความมุ่งมั่น และทักษะเท่าเขา

    ในตำแหน่งนี้เขาถือว่าเบียดกันมากับ อัลลัน ของ นาโปลี แบบสูสีเลย

    มิดฟิลด์ตัวกลาง : มิราเล็ม เปียนิช (ยูเวนตุส)

    จะเรียกได้ว่านี่คือมันสมองของ ยูเว่ เลยก็ว่าได้ ถึงทีมจะเต็มไปด้วยนักเตะพรสวรรค์จำนวนมาก แต่ เปียนิช คือคนสำคัญที่สุดในแดนกลาง

    ย้อนกลับไปในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกรอบตัดเชือกนัดแรกของปีก่อน มิดฟิลด์บอสเนียฯ ติดทีมแบน และสโมสรจากตูรินก็แพ้ เรอัล มาดริด ถึง 0-3 ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

    หมายเลข 10 : เปาโล ดีบาล่า (ยูเวนตุส)

    ถ้าบอลโลกที่ผ่านมาคือครั้งสุดท้ายของ ลีโอเนล เมสซี่ อาร์เจนตินาก็ไม่ต้องไปกังวลอะไรมาก เพราะพวกเขามี ดีบาล่า อยู่แล้ว

    พรสวรรค์ของเขาเรียกได้ว่าครบรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นทักษะ, การหาตำแหน่งเมื่อไม่มีบอล และการไปกับบอลด้วยความเร็วสูง

    ส่วนอีกคนที่มีดีไม่แพ้กันในตำแหน่งนี้ก็คือ หลุยส์ อัลเบร์โต้ ของ ลาซิโอ

    กองหน้า : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ยูเวนตุส)

    ไม่ต้องหาคำอธิบายอะไรมากมายสำหรับนักเตะรายนี้ ทุกคนต่างก็รู้ถึงความยอดเยี่ยมของเขาอยู่แล้ว

    เขาพา แมนฯ ยูไนเต็ด กลับไปผงาดในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้ง และสร้างสถิติไว้มากมายที่สเปนกับ เรอัล มาดริด

    จากปีกอาชีพที่ขยับมาเล่นกองหน้าใช้เวลาไม่นานในการงัดฟอร์มเก่งออกมาโชว์ในอิตาลี เขาช่วยให้แต่ละสนามที่ไปเยือนเต็มไปด้วยผู้ชม

    กองหน้า : เมาโร อีการ์ดี้ (อินเตอร์)

    นี่คือนักเตะอีกคนที่คงจะเป็นการหลุดบอลโลกอย่างสุดช็อกเมื่อเทียบจากผลงานส่วนตัว

    หัวหอกชาวอาร์เตนไตน์คือนักเตะที่หาโอกาส และเฉียบคมมากที่สุดในเวทีเซเรีย อา

    กัปตันทีมงูใหญ่ยิงไปถึง 100 ประตู จาก 159 นัดที่ลงเล่นในลีก ซึ่งนั่นทำให้เขาใส่ชื่อตัวเองเป็นหนึ่งในตำนานของทัพเนรัซซูรี่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ม้านั่งสำรอง

วอยเช็ก เชสนี่ (ยูเวนตุส)

จอร์โจ้ คิเอลลินี่ (ยูเวนตุส)

ดั๊กลาส คอสต้า (ยูเวนตุส)

ดรีส เมอร์เท่นส์ (นาโปลี)

กอนซาโล่ อิกวาอิน (เอซี มิลาน)