Still a Hell Razor (Part2)
รอย อีแวนส์ซึ่งอยู่กับทีมมากว่า 28 ปีได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดการทีมคนที่ 14 ของลิเวอร์พูล
ในซีซั่นแรกของการคุมทัพแบบเต็มตัวของรอย ฟิล บ๊าบบ์และจอห์น สเกลส์ ย้ายมาจากโคเวนทรีกับวิมเบิลดันตามลำดับในเวลาเพียงแค่ 48 ชั่วโมง
อีแวนส์ตัดสินใจที่จะเล่นแบบสามเซนเตอร์แบ็กโดยมีรัดด็อก, สเกลส์ และบ๊าบบ์ พร้อมให้เหตุผลว่า "มันจะเป็นประโยชน์กับเรเซอร์ เพราะทั้งสองคนนี้จะคอยปกป้องเขา" คุณชอบระบบ 3-5-2 รึเปล่าล่ะ?
เรเซอร์ : ผมชอบเล่นกับ มาร์ค ไรท์ แล้วก็ สตีฟ นิโคล มากกว่านะ พวกเขาดูเหมือนจะไม่เคยมีเกมที่เลวร้ายเลยสักครั้ง ส่วน สเกลส์ กับ บ๊าบซี่ น่ะหรอ... ผมไม่รู้ว่าพวกนั้นกำลังทำบ้าอะไรอยู่ แต่ว่าส่วนใหญ่ บ๊าบบ์ เองก็ยังไม่รู้เลยมั้งว่าตัวเขากำลังทำอะไรอยู่เหมือนกัน
รอย อีแวนส์กลายเป็นกุนซือคนที่ 14 ของหงส์แดง
รัดด็อกได้เพียงแค่ถ้วยลีก คัพ ในช่วงเวลาที่ลิเวอร์พูล แต่ความฝันในการล้มแมนฯ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ที่เวมบลีย์ต้องแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ตั้งแต่ช่วงฝึกซ้อมตามที่เขาได้บอกไว้ในหนังสือ Hell Razor "ผมกำลังวิ่งผ่านรอย และเขาก็พูดกับผมว่า 'ผมไม่รู้จะพูดกับคุณยังไงดี แต่...' จากนั้นผมก็อดลงในนัดชิงฯ ผมหงุดหงิดมากพร้อมสบถใส่เขาและก็เดินหนีไป ผมอาจตัวใหญ่และมีชื่อเสียงเรื่องความป่าเถื่อน ทว่าตอนนั้นผมร้องไห้เหมือนเด็กน้อยเลยตอนที่เขาโยนระเบิดมาใส่ผมแบบนั้น
เรเซอร์ : ผมกำลังเล่นได้ดี รอยเองก็ยอมรับหลังจากนั้นว่าเขาทำพลาดไป ตอนนั้นผมมักทำได้ดีเสมอเวลาดวลกับ คันโตน่า และเขาก็เล่นได้ไม่ดีนักเวลาเจอพวกเรา มันเป็นวันเกิดของผมด้วย วันของผมมันเจ๋งเป้งเป็นบ้าเลยว่ะ ของขวัญอะไรวะเนี่ย สุขสันต์วันเกิด ขอบคุณมากเจ้านาย ฮา ฮา... แต่จากนั้นเราก็ไปอยู่ด้วยกันที่ สวินดอน ซึ่งเขาเป็นนายใหญ่ ส่วนผมเป็นมือขวา บางคนอาจบอกกันปากต่อปากว่าเขาเป็นคนที่อ่อนข้อเกินไป แต่เขาไม่เห็นจะอ่อนกับผมตรงไหนเลย พับผ่าสิ! เขาเองก็มีวิธีของเขา ผมคิดว่านักเตะบางคนก็เลือกเดินในเส้นทางที่ง่ายเกินไปและทำสิ่งที่พวกเขาคิดว่าตัวเองทำได้ บางที คอลลีมอร์ อาจกลายเป็นยอดแข้งถ้าเขามีคนคอยตะบันก้นสักทีสองที ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเขาเป็นได้นะ
ใครที่คุณชื่นชอบมากในทีมลิเวอร์พูล?
เรเซอร์ : จอห์นนี่ บาร์นส์ กับ แยน โมลบี้ พวกเขาเก่งชิบเป๋งเลย, รัชชี่, สตีฟ แม็คมานามาน, ร็อบบี้ แล้วก็ตัวผมเอง...
ชื่นชมโมลบี้และบาร์นส์โคตรเก่ง
ฟาวเลอร์กับรัดด็อกเคยมีปัญหากันตามที่รัดด็อกได้อธิบายไว้ในหนังสือ Hell Razor
"พวกเราค่อนข้างอารมณ์ดีหลังจากเพิ่งคว้าชัยมาได้แล้วก็กำลังสนุกกับการดื่มฉลองบนเครื่องที่กำลังบินสู่บ้าน จู่ๆ สตีฟ ฮาร์คเนสส์ ก็เกิดไอเดียที่จะฉี่ใส่รองเท้าของ ร็อบบี้ ซึ่งกำลังหลับอยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย เมื่อ ร็อบบี้ ตื่นขึ้นมา ตอนนั้นผมกำลังหลับอยู่ เขาหยิบรองเท้ามาใส่และก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น"
"จริงๆ ก็เข้าใจได้นะที่เขาจะรู้สึกไม่พอใจอ่ะ และเมื่อเขาถามว่าเป็นใคร ไอ้พวกเวรนั่นก็ชี้มาที่ผม ให้ตายสิ! เขาไปที่กระเป๋าของผมแล้วดึงรองเท้ากุชชี่คู่ใหม่ราคา 300 ปอนด์ออกมา จากนั้นก็ลงมือกรีดอย่างเมามันเพื่อที่จะแก้แค้นคนที่ฉี่ใส่รองเท้าของเขา ผมตื่นขึ้นมาตอนเครื่องกำลังจะลง พวกเด็กๆ ยังคงขำกันขี้แตกขี้แตนอยู่เลย มันยังไม่หยุดกันเลยจนกระทั่งผมไปเจอกับร็อบบี้ในสนามบิน ผมบอกเขาว่าผมไม่ได้เป็นคนทำ และบอกให้เขาซื้อรองเท้าคู่ใหม่มาใช้ผมแทนคู่ที่เพิ่งพังไป แต่เรากลับโต้เถียงกันพักใหญ่จนมีการออกไม้ออกมือผลักกัน จากนั้นผมก็หมดความอดทนกับการแอ็คท่าของเขา ผมจึงให้บทเรียนชิ้นงามด้วยการต่อยเข้าไปที่จมูกของเขานั่นแหละ"
เรเซอร์ : ในตอนนั้นร็อบบี้โวยวายเสียงดังมากและการวางท่าของเขาก็น่าหมั่นไส้ ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่มองว่าสิ่งที่ผมทำลงไปมันสมควรแล้ว และเขาก็ดูสงบลงด้วย มันเป็นการสั่งสอนที่ดีที่สุดสำหรับเขา จริงๆ แล้วเรารักกันนะ เรายังพูดคุยกันถึงเรื่องนั้นอยู่เลย ผมคิดว่าเขาเป็นนักเตะที่จบสกอร์ได้ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา
ฟาวเลอร์เคยโดนรัดด็อกสาวหมัดใส่มาแล้ว
ใครเป็นคู่ต่อกรที่น่าจดจำที่สุดของคุณล่ะ?
เรเซอร์ : ใจผมมีอยู่สามคนนะ ก็น่าจะเป็น คันโตน่า, โซล่า และ เดนนิส เบิร์กแคมป์ นั่นแหละ แต่ เอียน ไรท์ เป็นคนที่ผมอยากกระโดดถีบตรีนคู่มากที่สุดแล้วล่ะ เพราะตอนที่เขาอยู่ อาร์เซน่อล เขาเดินมาหาผมแล้วก็พร่ามออกมาว่า "เฮ้! ไอ้ยักษ์" แล้วก็เอามือมาข่วนผม เมื่อคุณเหงื่อออกมันจะแสบชิบเป๋งเลยแหละ "เออ! ไอ้ยักษ์ เมียเอ็งทำข้าวเช้าอร่อยดีว่ะ" เขาพยายามที่จะป่วนคุณอยู่ตลอดเวลา ทว่าเราก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันในตอนหลังนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ผมเล่นให้ สเปอร์ส และเขาก็อยู่กับ อาร์เซน่อล แต่สุดท้ายแล้วเราก็มาเล่นที่ เวสต์แฮม ด้วยกัน
คันโตน่ากลายเป็นคู่ปรับสุดฮาของเรเซอร์
รัดด็อกปะทะกับคันโตน่าในแมตช์ที่ดาวเตะเฟร้นช์แมนกลับมาลงเล่นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 1995 หลังจากโดนแบนยาวเก้าเดือน
"เอริก ชอบเอาปกคอเสื้อของเขาตั้งขึ้น มีเพื่อนชาวสเก๊าส์ของผมคนนึงบอกว่าทำไมคุณไม่ลองเอาปกคอเสื้อของเขาลงดูล่ะ ดูซิว่าเขาจะทำยังไง? ผมก็คิดว่ามันเป็นไอเดียที่ดีเลยนะ และตอนที่เราแข่งกัน ผมก็เอามันลงมาทีนึงแล้วเขาก็หันมายิ้มให้ผม จากนั้นผมก็เอามันลงครั้งที่สอง เขาก็ยังยิ้มให้ผมอยู่ คราวนี้ผมเอาลงครั้งที่สาม เขาพยายามจะตีผม แต่ผมดันหลบทัน ผมเลยทำมันต่อครั้งที่สี่ ทีนี้แหละเขาวิ่งไล่เตะตูดผมเลยทีเดียว" (จากหนังสือ Hell Razor)
เรเซอร์ : ฮา ฮา... ผมก็แค่ทำให้เขาเสียสมาธิไปจากเกมเท่านั้นแหละ แล้วเขาก็หลุดจริงๆ นะ เอริกนั้นสูงพอๆ กับผมนี่แหละ แต่คนส่วนมากไม่ค่อยรู้แค่นั้นเอง
รัดด็อกบอกอีกว่าเอริกมาหาเขาหลังเกมนั้นในบาร์นักเตะพร้อมเอามือแตะไหล่ก่อนยื่นเบียร์ให้กระป๋องนึง รัดด็อกจึงตอบกลับด้วยการพยายามที่จะดึงกางเกงของคันโตน่าลง
(ติดตามต่อ Part3)
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT