ทางเลือกของมาร์กซิยาล
ตอนนี้ เขากลายเป็นตัวหลักในทีม แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมยิง 4 ประตูจาก 3 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
ด้วยสัญญาที่เหลือจนถึงจบซีซั่นนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผีแดงจะต้องรีบเสนอสัญญาใหม่เพื่อรั้งเขาไว้กับทีมต่อไป
ค่าแรง 160,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ที่สโมสรจัดการประเคนให้ถือว่าไม่ใช่น้อย
นั่นจึงเป็นคำถามที่ตามมาว่าทำไม ดาวเตะวัย 22 ปีถึงได้ใจกล้าบอกปัดโอกาสครั้งนี้
และทั้งหมดนี้ก็น่าจะเป็นเหตุผลหลักๆ ของเรื่องดังกล่าว
ก็อย่างที่รู้นั่นแหละนะ แมนฯ ยูไนเต็ด เคยเป็นสโมสรโดดเด่นที่สุดในเกาะอังกฤษ และยังเป็นหนึ่งในทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกด้วย
แต่!!!
นั่นก็เกิดขึ้นในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ได้สร้างทีมผีแดงให้ครองความยิ่งใหญ่ตลอด 28 ปีในยุคของเขา
เอาเข้าจริงตอนที่ เฟอร์กี้ เลือกลงจากตำแหน่งเมื่อปี 2013 แม้แต่แฟนบอลที่โมงโลกในแง่ร้ายที่สุดก็คงไม่คาดหวังว่าสโมสรจะตกต่ำมากถึงขนาดนี้
ทันทีที่นายใหญ่ชาวสกอตแลนด์เดินจากไป เดวิด มอยส์ ก็เริ่มต้นในการทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เข้าสู่ยุคมืดในทันที
จากนั้นแฟนผีก็ได้ซึมซับกับหลากหลายอารมณ์กับ หลุยส์ ฟาน กัล และเมื่อ มูรินโญ่ เข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ตอนปี 2016 หลายคนก็ใฝ่ฝันว่านี่จะเป็นการนำพาทีมให้กลับไปสู่เส้นทางที่ถูกต้องอีกครั้ง หลังจากกุนซือวัย 55 ปีประสบความสำเร็จมาแล้วกับทุกที่ๆ เคยไป
แต่ถึงตอนนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่แฟนบอลทั่วโลกคาดไว้ไม่ได้เป็นดังที่หวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับปีนี้
พวกเขาอาจจะเริ่มต้นซีซั่นด้วยชัยชนะเหนือ เลสเตอร์ ทว่าจากนั้นก็พบเจอแต่ความยากลำบาก มันจึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะพุ่งชนสถิติเริ่มต้นฤดูกาลห่วยแตกที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
ใครหลายคนต่างพากันพูดไปในทางเดียวกัน ยุครุ่งเรืองของ แมนฯ ยูไนเต็ด มันหมดลงแล้ว
มาร์กซิยาล ย้ายมายังถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อปี 2015 ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 58 ล้านปอนด์ เชื่อได้เลยว่าเขากำลังมองหาความท้าทายที่ใหญ่กว่า โมนาโก
กับตอนแรกก็เหมือนว่าจะดีอยู่ แต่ตอนนี้ต้องบอกว่ามันไม่น่าจะใช่เส้นทางที่ถูกต้องที่สุดสำหรับเขาไปอีกต่อไป
ที่หนักกว่านั้นก็คือจนถึงตอนนี้ เรายังไม่ได้เห็นฟอร์มที่ดีที่สุดจาก มาร์กซิยาล เลย
หรือนี่อาจไม่ใช่ที่ๆ เหมาะสมสำหรับเขากันแน่
???
ย้อนกลับไปในช่วง 3 ปีก่อนหน้านี้ ดาวเตะจอมเลี้ยงเก่งจนถึงขั้นคว้ารางวัลโกลเด้นบอยเลยทีเดียว
นั่นก็หมายความว่าเขาได้รับการยกย่องให้เป็นนักเตะที่เก่งอันดับหนึ่งของโลกในช่วงอายุต่ำกว่า 21 ปี
เขาช่วยให้ โมนาโก คว้าอันดับ 3 ของลีก เอิง ในเวลานั้น และลงเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกด้วย
เขามีส่วนร่วมกับจำนวนประตูในลีก (17) มากกว่านักเตะคนอื่นๆ ในวัยที่อายุต่ำกว่า 21 ปี ด้วยการยิง 11 ประตู และแอสซิสต์อีก 6 ครั้งในปี 2015
เมื่อดูถึงเส้นทางในตอนนี้ ใครจะเชื่อว่าเวลานั้นเขาจะเอาชนะนักเตะอย่าง เดเล่ อัลลี่ และ มาร์โก อาเซนซิโอ กับรางวัลดังกล่าวได้
แต่ขณะที่ อัลลี่ กับ อาเซนซิโอ กำลังเพลิดเพลินกับการเป็นตัวหลักให้กับสโมสร มาร์กซิยาล กลับต้องดิ้นรนเพื่อหาตัวตนของเขาเองในรังผีแดงอยู่เลย
แม้จะถูกคนทั่วโลกคาดหวังไว้สูงจากการคว้ารางวัลโกลเด้นบอยในปี 2015 แต่เขาก็ล้มเหลวแบบไม่เป็นท่าในทุกวันนี้
คำถามคือ???
มันจะดีจริงหรือหากเขายังทู่ซี้อยู่อยู่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดต่อไป
ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาก็คงไม่พ้นเดินตามรอยพวกที่เคยคว้ารางวัลนี้มาแล้วอย่าง มาริโอ บาโลเตลลี่, อเล็กซานเดร ปาโต้ และ อันแดร์สัน
อีกข้อที่ มาร์กซิยาล น่าจะคิดมาแล้วก็คืออนาคตในนามทีมชาติ
ทั้งที่เขาเปิดตัวกับทัพตราไก่เมื่อปี 2015 ในช่วงที่ฟอร์มขาขึ้นกับ โมนาโก ตั้งแต่นั้น เขาก็ติดธงไป 18 นัด พร้อมยิงได้หนึ่งประตู
จริงๆ ในช่วงแรกนั้นเส้นทางในการเล่นทีมชาติของเขาเหมือนจะสดใส และไปได้ไกล เขาลงเล่นทีมชาติไป 6 นัดในปี 2015 และก็อีก 9 เกมในปี 2016 พร้อมทั้งเป็นหนึ่งใน 23 ขุนพลของตราไก่ในยูโร 2016 ด้วย
แต่หลังจากที่นายใหญ่ดัตช์โดนตะเพิดพร้อมเปลี่ยนมือมาเป็นกุนซือชาวโปรตุกีส เขาก็ได้สัมผัสเกมในนามทีมชาติอีกเพียง 2 นัดเท่านั้น โดยเกิดในปี 2017 และ 2018 อย่างละเกม ก่อนจะหลุดโผทีมชุดแชมป์โลก 2018 ของ ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องส์
แถมชั่วโมงนี้การมีทั้ง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ และ อุสมาน เดมเบเล่ ยิ่งทำให้ไม่มีพื้นที่ว่างให้กับ มาร์ซิยาล ในทัพตราไก่
เทียบกัน มาร์กซิยาล ลงเล่นให้ทีมชาติไป 16 นัดในตอนที่ เอ็มบั๊ปเป้ เปิดตัวนัดแรกกับตราไก่เดือนมีนาคม 2017
จากนั้น ดาวเตะวัย 19 ปีของ เปแอสเช ก็กลายเป็นกำลังหลักพร้อมลงเล่นให้ฝรั่งเศสไป 26 นัดแล้ว ขณะที่ มาร์กซิยาล ถูกส่งลงเล่นไปเพียง 2 เกมเท่านั้นในช่วงเวลาเดียวกัน
อาจเป็นได้ว่ากราฟชีวิตของเขากับทีมชาติจะต้องดิ่งลงเหวไปเรื่อยๆ หากยังเลือกอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อ และทางเดียวที่เขาจะมีลุ้นกลับมาแย่งชิงโอกาสในทีมของ เดส์ช็องส์ อีกครั้งก็คงเป็นการบอกลาถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นั่นแหละ
แต่จะว่าไปการพูดว่าทีมผีแดงกับ มาร์กซิยาล เหมือนเส้นขนานกันก็คงไม่ถูก ที่จริงต้องบอกว่ากับชายที่้ชื่อ โชเซ่ มูรินโญ่ มากกว่า
ย้อนกลับไปตอนที่้กุนซือโปรตุกีสมายัง แมนฯ ยูไนเต็ด ตอนซัมเมอร์ปี 2016 มาร์กซิยาล ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่คนในทีมที่พร้อมจะเปล่งประกายแสงออกมา และเขาก็ถูกมองว่าคือคนที่นำสโมสรไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร
???
มันคือการที่ มูรินโญ่ ไม่เคยไว้ใจในความสามารถของดาวเตะเลือดน้ำหอมเลยตลอด 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา
ความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในเส้นทางนักเตะอาชีพนั้นควรได้รับการแก้ไขโดยผู้จัดการทีมที่พร้อมจะสนับสนุนผู้เล่นของตัวเอง
การที่นักเตะหนุ่มถูกมองเชิงลบ และไม่ได้รับการจัดการที่ถูกต้องนั้นอาจทำให้เขาไม่สามารถกอบกู้แนวทางของตัวเองให้พ้นจากความล้มเหลวได้อีกเลย
และสิ่งที่ มาร์กซิยาล ได้พบในการร่วมงานกับ มูรินโญ่ ก็คือการถูกวิจารณ์ถึงข้อบกพร่องต่างๆ ต่อหน้าสาธารณะชน ยิ่งในช่วงที่เจ้าตัวขอเวลาไปใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวหลังภรรยาให้กำเนิดลูกคนที่สองตอนปรีซีซั่นนั้นตอกย้ำให้สถานการณ์ในทีมผีแดงเลวร้ายลงไปใหญ่
เห็นได้ชัดว่าฟอร์มการเล่นรวมถึงความมั่นใจของ มาร์กซิยาล นั้นลดหายลงไปมาก ซึ่งสาเหตุหลักมาจาก มูรินโญ่
ถึงช่วงหลังนี้จะกำลังกลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้ง
แต่ในระยะยาว ตราบที่กุนซือโปรตุกีสยังเป็นนายใหญ่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อยู่ ใครจะกล้าการันตีว่าทั้งสองจะไม่เกาเหลากันอีก
ตอนนี้ทางเลือกของ มาร์กซิยาล อยู่ในกำมือของเขาเอง
และมันคงไม่ใช่เรื่องแปลกหาก มาร์กซิยาล จะไม่อยากฝากอนาคตไว้กับชายที่ชื่อ โชเซ่ มูรินโญ่ อีกต่อไป
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT