หงส์แดงงานดี
คำนี้ถือว่าใช้ได้เลยหลังจบเกมที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านถล่ม อาร์เซน่อล 4-0
แม้ตามหน้าเสื่อแล้ว ปืนใหญ่ในชั่วโมงนี้ยังเล่นกันแบบไม่เป็นทรงเลยนับจากเปิดซีซั่น
ชนะ เลสเตอร์ แบบน่าแพ้ในเกมจั่วหัว ถัดมาก็เลยแพ้ให้กับ สโต๊ค มันซะเลย
ทว่านัดนี้มันมีอะไรยิ่งกว่าฟอร์มการเล่น มันยิ่งกว่าสภาพทีม มันเป็นการพบกันระหว่างสองทีมใหญ่ ซึ่งแน่นอน แรงกระตุ้น ความกระหาย มักจะทำให้พวกทีมเหล่านี้สู้กันได้แบบสูสี
แต่ตลอด 90 นาทีสำหรับแมตช์ที่แอนฟิลด์มันไม่ใช่เลย มันคล้ายเกมระหว่างทีมใหญ่เจอทีมเล็ก
คุณนึกออกบ้างไหมว่า ลอริส คาริอุส มือกาวหงส์แดงได้ออกแรงอะไรบ้าง
???
แทบบอกว่าไม่เลยก็ว่าได้ จะบอกว่าความห่วยระดับ 10 ริกเตอร์ของลูกทีม อาร์แซน เวนเกอร์ ต่อให้เอาโกลเด็กน้อยจากทีมเยาวชนลงยังไม่เสียประตูเลยมั้ง
เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนทีมอะไรมาก เว้นแต่เซอร์ไพรส์หน้าปากประตูที่ดร็อป ซิมง มิโญเลต์ แบบไร้เหตุผล ก่อนจะเผยภายหลังว่าให้พัก
ให้พักเนี่ยนะ!!!
เป็นโกลมันจะเหนื่อยอะไรฟะ ถามจริง...
แต่ก็นั่นแหละ เมื่อกุนซือเมืองเบียร์เลือกแล้ว นายด่านเบลเจี้ยนก็ได้แค่ก้มหน้ารับชะตามกรรม หากไม่ใจร้อนวู่วามไปเคาะประตูห้อง เจเค ก่อน เกมลีกนัดถัดไปที่จะดวลกับ แมนฯ ซิตี้ ก็คงกลับมาประจำการเหมือนเดิม
ส่วนแบ็กขวามีการปรับเปลี่ยนไปใช้ โจ โกเมซ ลงเล่น นั่นก็เพราะ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เพิ่งจะเดี้ยงเล็กๆ มาจากเกมชน ฮอฟเฟ่นไฮม์
อย่างที่ทราบ ลิเวอร์พูล ครองบอลบุกเข้าใส่ อาร์เซน่อล ฝ่ายเดียว ยิ่งครึ่งแรกนี่เป็นการเล่นแบบวันเวย์เลย สองประตูจาก โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ คือการเข้าทำแบบเบสิก ที่มักลงล็อกพอดี
ส่วนครึ่งหลัง ปืนใหญ่อาจเดินหน้าได้มากขึ้น แต่ก็มาเสียเพิ่มอยู่ดีจากความห่วยในเกมรับ
ลูกสาม เอ็คตอร์ เบเยริน ต้องรับผิดเต็มๆ ส่วนจังหวะปิดกล่องนี่ก็เหมือนจะอยากกลับบ้านอาบน้ำนอนกันแล้ว
พูดถึงความห่วยแตกของปืนใหญ่คือนัดนี้พวกเขาไม่มีโอกาสยิงตรงกรอบเลยสักครั้ง ซึ่งมันเป็นครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ในพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ 5 ตุลาคม 2014 ที่พวกเขาเจอ เชลซี
อีกทั้งปีนี้ เวสต์แฮม เป็นทีมที่โดนเจาะตาข่ายมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก อันดับสองคือเดอะ กันเนอร์ส นี่เอง (8)
สำหรับผู้ชนะอย่าง ลิเวอร์พูล แน่นอน ความกระชุ่มกระชวยมันเติมเต็มหัวใจจนล้มปริ่มกันหมด
มองไปทางไหนก็มีแต่เรื่องดี โดยเฉพาะในเกมนี้ เหล่าตัวละครเอกที่โดนโฟกัสจากกองเชียร์ทั้ง เอ็มเร่ ชาน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ต่างโชว์ฟอร์มเป็นพระเอกกันหมด เรียกได้ว่ากองด่าไม่ได้ทำงานกันเลยทีเดียว
สำหรับ มิดฟิลด์เยอรมันที่เพิ่งคว้าแชมป์คอนเฟดฯ กับชาติบ้านเกิดมาเมื่อซัมเมอร์ นัดนี้เขาเล่นแบบน่าครางชื่อเหลือเกิน
ทั้งลูกล่อลูกชน ทักษะต่างๆ รวมถึงจังหวะเติมเกมรุก มันดูลงตัวไปหมด
แต่ก็นั่นแหละ ชาน มักจะเป็นทรงนี้มาตั้งแต่ปีก่อนแล้ว หากสังเกตุดีๆ เวลาเขาโดนส่งลงเล่นเกมใหญ่ที่มีพื้นที่ว่างรอบตัวเยอะ ก็มักจะทำได้ดีแบบนี้ แต่หากเป็นการเจอทีมเล็ก ที่หงส์แดงต้องเดินหน้าฆ่ามัน ชาน จะกลายเป็นเป้าโจมตีทันที เพราะความเชื่องช้าของเขา มันทำให้เกมที่ควรจะเข้าทำเร็วกลายเป็นส่งให้แนวรับคู่แข่งลงไปกองอยู่หน้าปากประตูกันหมดแล้ว
อีกคนที่เล่นดีที่สุดนับตั้งแต่เปิดซีซั่นมาก็คือ ไวนัลดุม หากไม่มี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ คงไม่พ้นเขานี่แหละ
แต่เอาเข้าจริง ส่วนหนึ่งที่ทำให้แดนกลางหงส์แดงบินผงาดฟ้าแบบนี้ก็มาจากความย่ำแย่ของทั้ง กรานิต ชาคา และ อารอน แรมซี่ย์ ที่เหมือนไม่มีตัวตน
ต้องรอดูต่อไปว่ากับนัดอื่นๆ บรรดาสามมิดฟิลด์หลักจะยังทำได้ดีเหมือนเกมนี้รึเปล่า
เมื่อเกมใหญ่ผ่านพ้นไปด้วยรอยยิ้ม ที่ยังเหลือต้องลุ้นตอนนี้สำหรับเดอะ ค็อป ก็คือกว่าจะถึงวันที่ 1 กันยายน จะมีใครตบเท้าเข้ามาร่วมทีมเพิ่มไหม หรือจะมีใครเดินจากไปหรือไม่
ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ยังมองอนาคตข้างหน้าไม่เห็น แต่ฝั่งผู้บริหารได้ลงมติกับ คล็อปป์ แล้วว่าจะไม่มีการพูดคุยหรือเจรจาผ่านโทรศัพท์ใดๆ ทั้งสิ้นกับฝั่ง บาร์เซโลน่า แน่นอน
ไม่อยากเล่นก็ไม่ต้องเล่น ดองเป็นดอง แต่ที่รู้ๆ คือบรรดาคนใหญ่คนโตในแอนฟิลด์โมโหยักษ์กาตาลันเอามากๆ
ส่วนตัวที่เคยเป็นข่าวด้วยอย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ก็เพิ่งจะแยกทางกับเอเยนต์คนเก่า และเจ้าตัวกำลังหาลู่ทางย้ายออกจากถิ่นเซนต์ แมรี่ส์ อยู่ ซึ่งปลายทางก็มี เชลซี และ ลิเวอร์พูล นี่แหละ ทว่าอุปสรรคใหญ่คือค่าตัว 70 ล้านปอนด์ใครจะจ่าย
ขณะที่ "ดิ อ็อกซ์" อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ก็ประกาศชัดไม่ต่อสัญญาใหม่กับปืนใหญ่แน่นอน (ไอ้ทีมบ้านี่ทำไมมีแต่คนอยากย้ายออกฟะ!) มันก็เหลือแค่สิงห์บลูส์กับหงส์แดงที่ต้องแย่งกัน แต่ภาษีเหมือนจะเอนไปยังสีน้ำเงินแห่งสแตมฟอร์ด บริดจ์ เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์
เอาเป็นว่าหากตัดลูกตีเสมอในช่วงทดเจ็บของ มิเกล บริโตส ในเกมเปิดสนาม นี่คือการประเดิมซีซั่นใหม่อันไฉไลของหงส์แดงเลย
เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
ฉะนั้นอย่างทำให้ตัวให้กลายเป็น "ประติมากรรมน้ำแข็ง"
ที่ยิ่งเริ่มต้นดีเท่าไหร่ ยิ่งจบด้วยร้ายเท่านั้นก็แล้วกัน
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT