:::     :::

Still a Hell Razor (Part3 End)

วันจันทร์ที่ 09 ตุลาคม 2560 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
2,374
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
จาก Part2 ที่เป็นเรื่องราวสนุกสนาน เฮฮา บ้าๆ บอๆ ของกองหลังจอมห่ามในถิ่นแอนฟิลด์

    วันนี้มาต่อกันที่ Part3 ซึ่งเป็นเรื่องราวสุดท้าย ที่จะรวบรวมทุกอย่างที่เป็นที่สุด รวมถึงเหตุผลที่เขาต้องบอกลาทีมหงส์แดง และชีวิตหลังจากนั้นว่ามีเรื่องอะไรน่าตื่นเต้นกันบ้าง



    มีคำพูดของคุณที่น่าจดจำมากมาย มันเหลือเชื่อจริงๆ ที่คุณทำ แอนดี้ โคล ขาหักสองข้างในเกมสำรองเมื่อปี 1996 โดยคุณบอกว่า "ผมเดาว่ามันเป็นเพราะท่าที่เขาล้มลงไม่ดีมากกว่า"

    Razor : ฮา ฮา... ผมเดาว่าเขาล้มเองนะ... ฮา ฮา ฮา ฮา

    โคลไม่พอใจกับปฎิกิริยาของ รัดด็อก เป็นอย่างมาก และเอ่ยในตอนนั้นว่า "เขาบอกว่าเขาเล่นบอล แต่ถ้าผมอยู่ด้านหน้าเขาไปสองสามหลา เขาจะเล่นบอลได้ยังไง? ผมวิ่งไล่ตามลูกบอลที่ถูกเปิดมาอย่างยอดเยี่ยมของ พอล สโคลส์ แต่จู่ๆ เขาก็ทำให้ผมลอยเคว้งไปบนอากาศ ถ้ามีการสกัดแบบนี้ในทุกๆ เกม นักเตะจำนวนมากคงถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสได้เลยทีเดียว ผมรู้สึกแตกเป็นเสี่ยงๆ กับการบาดเจ็บครั้งนี้ และผิดหวังกับสิ่งที่ รัดด็อก พูดออกมา"

แอนดี้ โคลเคยตกเป็นเหยื่อของรัดด็อกมาแล้ว

    เมื่อกันยายน 1996 คุณมีปัญหาเล็กๆ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรื่องรถพอร์ชของคุณเอง (ยื่นข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นให้รัดด็อกดู)

    นีล ร็อดด็อก ถูกปรับ 300 กับ 200 ปอนด์ ในข้อหาไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรื่องการชนของรถพอร์ชของเขา โดยเจ้าหน้าที่คนหนึ่งได้บอกกับผู้พิพากษาว่าเขานั้นโกหกอย่างชัดเจน

    เซนเตอร์ฮาล์ฟวัย 28 ซึ่งมีชื่ออยู่ในทีมชุดเปิดรังแอนฟิลด์พบ ไมปา 47 จากฟินแลนด์เมื่อคืนก่อนกำลังอยู่ในช่วงอุทรณ์โทษ โดยคำแถลงของทนาย รัดด็อก ที่ศาลเซาธ์พอร์ตระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทำให้เขา, ครอบครัว และสโมสรลิเวอร์พูลรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก

    ศาลได้เอ่ยว่าในเดือนมกราคม รัดด็อก ได้ใช้เวลาทั้งช่วงบ่ายอยู่ในผับเดอะ เกรปส์ ที่ฟอร์มบี้ เพื่อฉลองวันเกิดกับเพื่อนของเขา โดย แอนโธนี่ คล้าร์ก จากไอนส์เดล ได้เอากุญแจรถพอร์ช คาร์เรร่า 911 เก็บไว้กับตัวเองเพื่อความปลอดภัย เขาขับรถออกไปด้วยความเร็วและสูญเสียการควบคุมบนถนนสาย A565 ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่ารถพุ่งข้ามเกาะกลางถนนพร้อมกับพุ่งเข้าชนต้นไม้

    เอียน บาร์โลว์ ตำรวจในเมอร์ซี่ย์ไซด์เล่าว่า รัดด็อก บอกตำรวจทั้งสองหนว่ารถของตนถูกขโมยไป นักเตะผู้นี้ถูกจับกุมข้อหามีแอลกอฮอล์เกินกำหนดจากการตรวจวัดลมหายใจ ขณะที่ เดโบราห์ เบอร์เรลล์ ทนายส่วนตัวของเขาเอ่ยว่า "ตำรวจเชื่อว่าเขาขับรถไปชนซึ่งมันไม่ถูกต้อง"

    วันที่ 1 กุมภาพันธ์ รัดด็อก ได้ยอมรับกับตำรวจว่าเขาได้ให้กุญแจรถกับ คล้าร์ก แต่ไม่ได้บอกตำรวจในตอนแรก "ผมไม่ต้องการให้เขาเจอเรื่องยุ่งยาก" เขากล่าว

    "ผมไม่ต้องการเป็นคนขี้ฟ้อง ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องผิด แต่ผมก็กินเบียร์ไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น"

    เจ้าหน้าที่ บาร์โลว์ บอกกับ รัดด็อก ว่าคำให้การตอนแรกของเขาเป็นเรื่องโกหกอย่างชัดเจน แต่เขาก็แย้งว่า "นั่นไม่ใช่การโกหก ผมแค่ไม่ได้บอกทุกสิ่งที่ผมรู้"

    สุดท้าย คล้าร์ก ก็ยอมรับข้อกล่าวหาขัดขวางการทำงานของตำรวจ, ขับรถด้วยความประมาท และไม่มีประกัน

   


    แอนโธนี่ คล้าร์ก เอเยนต์ส่วนตัวของรัดด็อก ซึ่งเป็นคนเดียวกับในข่าวที่ถูกเอ่ยถึงก็นั่งอยู่ในห้องตอนที่เรากำลังสัมภาษณ์รัดด็อกด้วย

    Razor : (รัดด็อก ชี้ไปที่ คล้าร์ก) โทนี่ คล้าร์ก ขับมันไปชน เขาเป็นคนทำ




    กับประโยคนี้ล่ะ "เจ้าหน้าที่ บาร์โลว์ บอกกับ รัดด็อก ว่าคำให้การตอนแรกของเขาเป็นเรื่องโกหกอย่างชัดเจน แต่เขาก็แย้งว่านั่นไม่ใช่การโกหก ผมแค่ไม่ได้บอกทุกสิ่งที่ผมรู้"

    Razor : ผมชอบมันว่ะ คลาร์กี้! (พร้อมยื่นคำกล่าวนั้นให้ โทนี่ ซึ่งเขาก็อ่านมันอย่างสนุกหลังเหตุการณ์ผ่านมาหลายปี)

    โทนี่ : ผมอยู่ในข่าวตอน 10 โมงเช้าพอดีเป๊ะ!




    รัดด็อกบาดเจ็บหัวเข่าอย่างรุนแรงในเกมเปิดซีซั่น 1997-98 และเขาก็ต้องพักยาวถึงหกเดือนและรัดด็อกได้บอกว่าช่วงเวลานั้นชีวิตเขาทำให้ แกสซ่า ดูกลายเป็นคนดีไปเลยที่เดียว

    Razor : ผมเคร่งในเรื่องระเบียบวินัยมาตั้งแต่อายุ 16 คุณห้ามออกไปไหนทั้งที่เพื่อนของคุณได้ไปนั่งจิบเบียร์และเจอหญิงแจ่มๆ ผมแต่งงานตอนที่อายุยังน้อยมาก มันเป็นช่วงเวลาที่บ้าสุดๆ เลยว่ะ...หญิง, ดื่ม, หญิง และก็ดื่ม ผมได้รับบาดเจ็บและการแต่งงานมันก็เป็นแบบนี้แหละ (พร้อมคว่ำนิ้วโป้งลง) พอมองย้อนกลับไปผมดูโง่มาก แต่มันก็เป็นช่วง 6 เดือนที่ดีนะ...

    ผมชอบไลฟ์สไตล์แบบนี้ บางครั้งผมก็ไปกับเพื่อนได้ง่ายๆ ก็พวกนั้นคือเพื่อนของผมนิ ดูสิผมรอดตัวเลย ฮา ฮา... พวกเพื่อนทำให้ผมหลงผิด...อย่างมีความสุขนะ!




   เดอะ แฮมเมอร์สยื่นข้อเสนอดึงตัวรัดด็อกออกจากลิเวอร์พูล โดยแฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ต้องการนำเขามายังถิ่นอัพตัน พาร์ค และเรเซอร์ก็ต้องพิสูจน์ความฟิตให้แฮร์รี่เห็นด้วยการไปเล่นกับควีนส์ปาร์คในลีกแชมเปี้ยนชิพ

    Razor : ลูกๆ ต่างก็เริ่มโตแล้ว มันจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการย้ายทีม ผมยังเหลือสัญญาอยู่อีกสองปี และก็กำลังเรียกความฟิตอยู่ในทีมสำรองของลิเวอร์พูล ผมไป ควีนส์ปาร์ค ซึ่งมี เรย์ ฮาร์ฟอร์ด เป็นผู้จัดการทีม แต่ให้ตายเหอะ! ผมไม่อยากไป คิวพีอาร์ เลยพับผ่า

    เรย์ โทรหา แฮร์รี่ และ แฮร์รี่ ก็โทรหาผมพร้อมบอกว่า "เล่นที่นี่ซะ (คิวพีอาร์) เพื่อพิสูจน์ความฟิตของเอ็ง แล้วสัญญาจะไปหาเอ็งเองแหละ" วินนี่ โจนส์ อยู่ที่นั่นรวมถึง เอียน ดาร์วี่ ก็ด้วย

    ผมลงเล่นไป 7 เกมสุดท้ายของซีซั่น พวกเราต้องดิ้นรนหนีตกชั้นและเก็บผลเสมอไปได้ 6 นัดพร้อมอยู่รอดด้วยการมีแต้มเหนือ แมนฯ ซิตี้ คะแนนเดียว พวกเราบุกไปเสมอ ซิตี้ 2-2 เมื่อ เจมี่ พอลล็อค ยิงประตูตัวเองในแบบที่สวยที่สุดในโลก เขากระดกบอลข้ามหัวใครบางคนนี่แหละ ก่อนจะโหม่งกลับหลังคืนนายทวารของเขา เคยมีการทำโพลว่า "ใครเป็นผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก?" ให้ตายเหอะ! เจมี่ พอลล็อค ได้อันดับหนึ่ง เบียดพระเยซูหล่นมาเป็นที่สอง นั่นคงเพราะแฟน คิวพีอาร์ ทุกคนต่างก็ลงคะแนนโหวตให้ เจมี่ ล่ะมั้ง

    ผมพิสูจน์ความฟิตของตัวเองและพวกเราก็อยู่รอด จากนั้นผมก็ย้ายไป เวสต์แฮม และมันก็เป็น 2 ปีที่ยอดเยี่ยมสุดๆ ไปเลย

    จากนั้นก็ที่ คริสตัล พาเลซ กับยุคของ ไซม่อน จอร์แดน น่าบัดซบที่ผมมีปัญหากับเข่าในช่วงนั้น และจุดสิ้นสุดอาชีพนักเตะกำลังมาถึง แฮร์รี่ บอกว่า "เขามาเพื่อถามเรื่องคุณ มีคนรวยไปเทคโอเวอร์ พาเลซ เรารู้ว่าเข่าและอาชีพของคุณใกล้สุดทางแล้ว ไปและทำเงินให้ตัวเองอีกสักหน่อยนะ" จากใจจริงผมไม่รู้ว่าไอ้เวร ไซม่อน เป็นใคร ผมไปที่นั่นแล้วทะเลาะกับเขาอีกหนึ่งปีหลังจากนั้น

ออกจากหงส์แดงไปซบตักเวสต์แฮม 

    รัดด็อกมีโอกาสร่วมงานกับรอย อีแวนส์อีกครั้งเมื่อสิงหาคม 2001 โดยอีแวนส์สวมบทผู้จัดการทีม ส่วนรัดด็อกทำหน้าที่นักเตะและโค้ชจากการเซ็นสัญญาสามปี

    Razor : แดนนี่ ดันแกน เพื่อนของผมเป็นประธาน สวินดอน เขาบอกว่า "ไปเอา รอย อีแวนส์ มาเป็นกุนซือ..." พวกเราอยู่ด้วยกันปีครึ่งและมันก็เป็นเวลาที่ดี จากนั้นเงินและสัญญาก็เริ่มหมดลง

    ผมเข้าไปทำหน้าที่โค้ชในทันที จริงๆ ผมอยากหยุดพักสักสองปีแล้วค่อยเดินหน้าสู่ตำแหน่งโค้ช มันน่าหงุดหงิดเวลาบอกให้นักเตะ สวินดอน ทำอะไรแล้วเขาไม่ยอมทำตาม รอยพูดว่า "ฟังนะ! ลูก นั่นแหละคือเหตุผลที่พวกเขาเล่นให้สวินดอนล่ะ" ถ้าพวกนั้นทำทุกอย่างได้ก็คงไม่มาเล่นให้ทีมโง่ๆ อย่างสวินดอนหรอก ฮา ฮา ฮา...

รับบทนักเตะควบโค้ชช่วงท้ายอาชีพที่สวินดอน

    ช่วงนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ?

    Razor : งานหลักของผมคือการพูดหลังจากมื้อค่ำ และแม่ก็บอกว่าผมเจ๋งสุดๆ ไปเลย ผมทำรายการทีวีอยู่หลายแบบ อย่างเช่น "I Am a Celebrity, Get Me Out Of Here!" พวกเขาจะเอาเหล่าเซเลบมา 10 คนเพื่อจับไปปล่อยในป่า จอร์แดน และ ปีเตอร์ อังเดร ก็ออกโชว์ในตอนเดียวกับผม น้ำหนักผมหายไป 18 ปอนด์จาก 11 วันนั้น จริงๆ ผมน่าจะไปฝึกซ้อมช่วงปรีซีซั่นที่นั่นนะ! มันเป็นรายการใหญ่ที่เข้ากันกับโปรไฟล์ของผม ตอนนี้สาวๆ ในอังกฤษต่างรู้จักผมดี มีหญิงคนนึงมาทักผมว่า "เฮ้! ฉันรู้จักคุณนะ คุณไปอยู่ในป่ามานี่" ให้ตายเหอะ! มันไม่ใช่ 400 เกมที่ผมเฝ้าทำงานหนักมาตลอด 20 ปี




    เชราร์ด อุลลิเย่ร์มายังสโมสรเมื่อกรกฎาคม 1998 พร้อมกลายเป็นผู้จัดการทีมร่วมกับอีแวนส์ เขาแนะนำตัวเองให้กับเหล่านักเตะได้รู้จัก แต่มันไม่ได้ประทับใจรัดด็อกมากนัก

    Razor : อุลลิเย่ร์ เข้ามาในห้องแต่งตัวและเขาก็เดินตรงไปหา ฟาวเลอร์ "อ๋อ... ร็อบบี้ ฟาวเลอร์" จากนั้นก็เป็น เดวิด เจมส์ "หวัดดี เดวิด" เขาเข้ามาหาผมแล้วดันทะลึ่งบอกว่า "ขอโทษนะ คุณชื่ออะไร?" ผมเลยสวนกลับไปทันที "ให้ตาย! คุณไปอยู่ในไอซียูมา 15 ปีรึยังไงกัน?" ทุกคนหัวเราะหมด แต่เขาดันไม่เก็ตกับมุขของผม ผมคิดว่าหลังจากนั้นประมาณสัปดาห์ ผมก็ถูกเตะโด่งจากทีมไป

อุลลิเย่ร์เป็นคนเขี่ยรัดด็อกออกจากหงส์แดง

    บอกพวกเราเกี่ยวกับ แจ็คโก้ หน่อยสิ?

    Razor : ทุกคนที่บ้านจะเรียกผมว่า "แจ็คโก้" ผมเคยมีตุ๊กตาลิงน้อยอยู่ตัวนึง และผมจะไม่ยอมไปไหนโดยที่ไม่มีเจ้าแจ็คโก้จนผมอายุเกือบ 20 นั่นแหละ ขอบคุณที่ทำให้ผมได้อายนะ ขอบคุณที่หยุดการสัมภาษณ์เองซวยนี่เสียที ไอ้เวรเอ๊ย...ฮา ฮา ฮา...


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด