เมื่อ'ดาวดัง'เลือกหันหลังให้'เรือใบ'
ที่ผ่านมาเขาตกเป็นข่าวพัวพันกับบรรดายอดทีมในยุโรปไม่ว่าจะเป็น บาร์เซโลน่า, แมนฯ ซิตี้ และ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง
นั่นคือเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุมของ อาแจ็กซ์ และทีมดังจากฮอลแลนด์ก็คงยากที่จะรั้งเขาไว้กับทีมต่อไปหากมีเงินก้อนใหญ่ยื่นเข้ามาเพื่อแลกตัว
หลายสื่อเริ่มเล่นประเด็นแรงขึ้นเรื่อยๆ ว่าม้าสองตัวในการแย่งชิงลายเซ็นของมิดฟิลด์วัย 21 ปีคนนี้ก็คือทีมของเรือใบ กับ เปแอสเช
ว่ากันว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ชื่นชอบไอ้หนูรายนี้เอาการ และอยากดึงเพื่อมาเป็นอนาคตของทีม หลังแผงกองกลางอย่าง แฟร์นันดินโญ่ และ ดาบิด ซิลบา ใกล้ถึงเวลาปลดระวาง
กระนั้นสื่ออย่าง เดอ เทเลกราฟ ของแดนกังหันกลับเปิดเผยว่า เดอ ยองก์ ได้เลือกแล้วที่จะบอกปัด แมนฯ ซิตี้ เพื่อไปโลดแล่นกับแชมป์ลีก เอิง ด้วยค่าตัว 75 ล้านยูโร
มันอาจเป็นอีกครั้งที่เรือใบของ เป๊ป ต้องซดแห้วกับนักเตะในเป้าหมาย
แต่!!!
พวกเขาต้องแคร์ด้วยเหรอ???
มันอาจเป็นเรื่องหงุดหวิดสำหรับทีมที่ต้องอกหักอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ใช่ว่า กวาร์ดิโอล่า จะอยากได้ขุมกำลังเพิ่มมากมายอะไรขนาดนั้น
ย้อนกลับไปในช่วงเวลาใกล้ๆ นี้เอง เรือใบเคยพลาดการได้ตัว อเล็กซิส ซานเชซ มาแล้วในเดือนมกราคม ทั้งที่ถูกยกให้เป็นตัวเต็งแบบนอนมา
สุดท้าย อเล็กซิส ก็เลือกไปรับเงินก้อนโตจากคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และก็ยังไม่เคยอยู่ในฟอร์มที่ดีอีกเลย
จากนั้น ผีแดงก็ทำแสบซ้ำสองอีกด้วยการไปเซ็นสัญญากับ เฟร็ด ในช่วงซัมเมอร์
สังเกตุได้ว่าดาวเตะชาวบราซิเลี่ยนมีข่าวเชื่อมโยงกับ แมนฯ ซิตี้ อย่างหนักหน่วงมาโดยตลอด หลังจากสร้างความประทับใจให้พวกเขาเห็นในแชมเปี้ยนส์ลีก แต่ความต้องการเม็ดเงินของ ชัคตาร์ โดเนตส์ค นั้นมากมายเกินกว่างบที่เรือใบประเมินนักเตะเอาไว้
เฟร็ด ย้ายมายังทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ด้วยค่าตัวสูงถึง 52 ล้านปอนด์ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังหาจุดเด่นอะไรในตัวเขาไม่ได้เลย แถมกุนซือชาวโปรตุกีสยังดูจะชอบ อันเดร์ เอร์เรร่า, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ มารูยาน เฟลไลนี่ ที่มีอยู่แล้วมากกว่าด้วย
นอกจากนี้ เป๊ป ก็ต้องพุ่งชนความผิดหวังในการเซ็นสัญญากับ จอร์จินโญ่ เนื่องจากเพลย์เมกเกอร์เชิงลึกตรงกลางสนามเลือกเดินตามเจ้านายเก่าอย่าง เมาริซิโอ ซาร์รี่ ไปที่ เชลซี
สำหรับ เดอ ยองก์ นั้นถูกคาดหมายว่าจะเป็นเป้าหมายระดับท็อปที่จะย้ายมาเรือใบในเดือนมกราคมนี้
สำหรับหลายทีม การโดนนักเตะในเป้าหมายบอกปัดอาจส่งผลเสียอย่างร้ายแรงกับแผนงานที่วางเอาไว้
แต่ แมนฯ ซิตี้ ไม่ใช่หลายทีมเหล่านั้น
ขณะที่เขาพลาดได้ตัวอเล็กซิส ปัจจุบันนี้ดาวเตะชิลีกำลังวิ่งชนช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดของตัวเองในอาชีพค้าแข้ง ขณะที่ ริยาด มาห์เรซ ซึ่งย้ายจาก เลสเตอร์ มาเข้ารังเอติฮัดในช่วงซัมเมอร์กำลังเฉิดฉายในฐานะลูกทีมของ เป๊ป
ส่วนการชวดได้ตัว จอร์จินโญ่ ก็ไม่ได้ส่งผลเสียอะไรกับทีมแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีกเลย เพราะตอนนี้ แฟร์นันดินโญ่ บนวัย 33 ปี กำลังแสดงให้เห็นถึงคุณค่าในตัวเองหลังไม่ได้รับเครดิตจากคนส่วนใหญ่มากเท่าที่ควร
ดังนั้น หาก เดอ ยองก์ จะเป็นอีกคยที่หักอก แมนฯ ซิตี้ เหมือนกับ เฟร็ด และ จอร์จินโญ่ ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลอะไร
เหตุผลหลักที่เรือใบไม่ต้องเสียเส้นจากความล้มเหลวในการแสวงหานักเตะในเป้าหมายก็คือความมั่นใจที่พวกเขามีต่อ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในการพัฒนานักเตะที่เขามีอยู่ในกำมือ
ถ้าตอนนั้น เรือใบได้ทั้ง อเล็กซิส และ เฟร็ด มาไว้ในครอบครอง พวกเขาจะหาฟอร์มเก่งไม่เจอเหมือนที่อยู่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รึเปล่าน่ะเหรอ
???
นั่นเป็นคำถามที่ไม่มีใครรู้หรอก แต่อาจจะไม่ก็ได้...
เห็นได้ชัดว่า เดอ ยองก์ เป็นเด็กที่มีพรสวรรค์สูง และด้วยสไตล์การเล่นของเขานั้นน่าจะเข้ากับปรัชญาของ เป๊ป ได้เป็นอย่างดีเลย
แต่หากสุดท้ายแล้ว เขาจะเลือกทางเดินของเขาที่เป็นเส้นขนานกับ กวาร์ดิโอล่า จริงๆ
แมนฯ ซิตี้ ก็คงจะเดินไปตามทางเลือกของพวกเขาเองเช่นกัน
มันอาจจะเป็น รูเบน เนเวส ของ วูล์ฟส์ หรือ ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ จาก ลียง ที่จะกลายมาเป็นตัวตายตัวแทนของ แฟร์นันดินโญ่ และประสบความสำเร็จในถิ่นเอติฮัดก็ได้ ใครจะไปรู้
ตราบใดก็ตามที่ แมนฯ ซิตี้ ยังคงมี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นกุนซือของทีม
ไม่ว่าจะพลาดสักอีกกี่เป้าหมาย มันก็คงไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับความสำเร็จของทีมอย่างแน่นอน
พาสต้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT