'แรชฟอร์ด' ฟอร์มดีใครว่าไม่มีปัญหา
แม้จะเพิ่งผ่านเกมลีกมาไม่กี่นัดไล่ตั้งแต่ คาร์ดิฟฟ์, ฮัดเดอร์สฟิลด์, บอร์นมัธ และ นิวคาสเซิ่ล ภายใต้ยุคใหม่ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ทว่าความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นอย่างชัดเจน
หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นคืนชีพของ ปอล ป็อกบา หรือการกลับมาอยู่ในฟอร์มอันยอดเยี่ยมอย่างรวดเร็วของ อันเดร์ เอร์เรร่า
แต่คนที่ยกระดับขึ้นมาอย่างชัดเจนก็คือ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งกลายเป็นแข้งตำแหน่งเบอร์ 9 ที่สำคัญมากที่สุด
ภายใต้การทำทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ทั้ง แรชฟอร์ด กับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ต่างสลับกันเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายที่มีอิสระในการโชว์ฟอร์มอยู่น้อยนิด
ทั้งสองแข้งดูเหมือนจะถูกหยุดศรีนครินทร์!!! เอ๊ย...พัฒนาการ และไม่น่าจะก้าวข้ามความเป็นดาวรุ่งของพวกเขาได้เลย
แต่ปัจจุบันนี้ สิ่งเหล่านั้นได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วนับตั้งแต่ที่กุนซือชาวโปรตุกีสถูกอัปเปหิออกจากตำแหน่ง
โซลชา ได้เปลี่ยน แรชฟอร์ด เป็นเครื่องจักรสังหาร เหมือนเช่น โรเมลู ลูกากู ที่ดูดีขึ้นมาเหมือนกัน
การเล่นตำแหน่งเบอร์ 9 ของ แรชฟอร์ด ไม่ใช่แค่มองเห็นด้วยตาเปล่า แต่สถิติของเขาก็บ่งชี้อย่างชัดเจนด้วย
ใน 850 นาทีภายใต้การทำทีมของ มูรินโญ่ แรชฟอร์ด ยิงได้เพียง 3 ประตู จากโอกาสสับไก 18 ครั้ง
แต่เมื่อกุนซือเปลี่ยนมือเป็น โซลชา จากเวลา 360 นาที หัวหอกเด็กปั้นรายนี้ทำประตูได้ในจำนวนเท่ากันจากโอกาสลุ้นน้อยกว่าถึงครึ่งหนึ่ง
พูดง่ายๆ ก็คือในยุคของนายใหญ่นอร์วีเจี้ยน ดาวเตะวัย 21 ปีเหมือนได้โอกาสเรียกความมั่นใจกลับคืนมาจากขุมนรกที่เผชิญหน้าอยู่ช่วงหนึ่งได้อีกครั้ง
ขนาด แกรี่ เนวิลล์ ที่มักจะออกมาสับแหลกแข้งรุ่นน้องในค่ายผีแดงในช่วงหลังยังเก็บความตื่นเต้นของตัวเองผ่านหน้ากล้องของช่องสกาย สปอร์ต ไม่ได้เลย
"เขาอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องในการกลายเป็นสิ่งสุดพิเศษที่แมนฯ ยูไนเต็ด" อดีตแบ็กขวาชุด 3 แชมป์ในปี 1998-99 ของ แมนฯ ยูไนเต็ด กล่าว
"เขาเล่นไปแล้วเกือบ 150 เกม ทั้งที่อายุของเขาเพิ่งจะ 21 ปีเท่านั้นเอง ศักยภาพของเขามันเป็นสิ่งยิ่งใหญ่จริงๆ"
"ตอนนี้คุณภาพของเขาได้ก้าวเดินหน้าเพื่อจะกลายเป็นนักเตะระดับท็อปคลาสแล้ว"
"ผู้คนต่างพากันถกเถียงว่าลูกากูจะกลับมาสู่ทีมได้อย่างไร แต่ไม่ต้องไปกังวลเรื่องนั้นหรอก ไปสนใจถึงเหล่าเด็กๆ ที่กำลังเล่นในทีมชุดนี้ดีกว่า"
เนวิลล์ อาจพูดถูก...
ลูกากู อาจกำลังจะได้ค้นพบถึงสิ่งที่ดีที่สุดของเขา แต่กับ แรชฟอร์ด ระดับการเล่นของเขานั้นสูงขึ้นมาก
โซลชา กำลังฝึกฝน แรชฟอร์ด ในตำแหน่งหัวหอกเบอร์ 9 ในแบบที่ไม่มีใครหยุดได้
แต่!!!
สำหรับ แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ เขามีหนึ่งคนที่จองพื้นที่ตรงนั้นแล้วก็คือ แฮร์รี่ เคน ของ สเปอร์ส
หากระดับของ แรชฟอร์ด สูงขึ้นไปเรื่อยๆ และ เคน ก็ยังคงเป็นกองหน้าลำดับต้นของโลกอยู่ เราอาจได้เห็นถึงการถกเถียงเรื่องความเป็นหนึ่งในตำแหน่งเดียวกันคล้ายกรณีของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด อีกครั้ง
เจอร์ราร์ด กับ แลมพาร์ด เรียกได้ว่าเป็นกองกลางที่ดีที่สุดของโลกด้วยกันในตอนนั้น แต่อย่างที่เรารู้กัน พวกเขาเล่นร่วมกันไม่เวิร์คเอาเสียเลย
ในเคสของ แรชฟอร์ด ก็เช่นกัน ในแผงแนวรุกสามคนที่ผ่านมาของ เซาธ์เกต จะมี ราฮีม สเตอร์ลิง, เคน และ แรชฟอร์ด แต่หากอยากดึงศักยภาพของดาวเตะผีแดงออกมาอย่างเต็มที่ เขาต้องไม่ถูกส่งลงเล่นทางริมเส้นเหมือนที่ผ่านมา
ดังนั้นจาก 3 แนวรุกตัวฉกาจ อาจมีใครคนใดคนหนึ่งที่ต้องถูกตัดออกไป
การก้าวไปเป็นกองหน้าระดับท็อปของ แรชฟอร์ด เป็นสถานการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด
ทว่ากับ เซาธ์เกต มันเป็นสถานการณ์ที่ท้าทายสำหรับเขาอยู่เหมือนกัน
มันเป็นเรื่องที่น่าจะทำให้ เซาธ์เกต ต้องปวดหัวในการจัดทัพแน่
แต่เชื่อเถอะ ว่า เซาธ์เกต เองก็เต็มใจเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปวดหัวกับเรื่องแบบนี้แน่
พาสต้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT