:::     :::

ดินแดนที่ไม่เคยขาดยอดดาวยิง

วันอาทิตย์ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2562 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
2,232
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เมื่อพูดถึงชื่อของ อัลวาโร่ เรโคบา, ดีเอโก้ ฟอร์ลัน, หลุยส์ ซัวเรซ, เอดินสัน คาวานี่ และ คริสเตียน สตูอานี่ คุณจะนึกถึงอะไร

    ???

    แน่นอนกลุ่มก้อนเหล่านี้คือบรรดากองหน้าชื่อก้องของวงการฟุตบอลที่ติดยี่ห้อ 'เมด อิน อุรุกวัย'

    ประเทศอย่างโอมาน, มอริเตเนีย, ปานามา, มอลโดวา และปวยร์โตรีโก ชาติเหล่านี้ต่างก็มีภูมิศาสตร์ที่ใหญ่กว่า และมีประชากรมากกว่าอุรุกวัยเสียอีก

    ที่อุรุกวัยในดินแดนอเมริกาใต้ พวกเขามีประชากรอาศัยอยู่ราว 3,500,000 คน เมื่อเทียบกับชาติอย่างอาร์เจนตินา 44 ล้านคน และบราซิล 209 ล้านคน นั่นเรียกได้ว่าไกลกันไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว

    ในทางทฤษฎีแล้วอุรุกวัยควรโดนทำลายล้างโดยกฎนโปเลียน คอมเพล็กซ์ ที่เป็นเรื่องของความเหลื่อมล้ำ และความเท่าเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ 'ฟุตบอล'

    แน่นอน ประวัติศาสตร์ฟุตบอลของอุรุกวัยนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหนใครก็รู้ แต่มันก็ผ่านมาเนิ่นนานแล้วเช่นกันจนเกือบเป็นพุดดิ้งที่แช่อยู่ในช่องเย็นจนแห้งแข็ง

    อุรุกวัยเป็นเจ้าภาพ และคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1930 จากการขับเคลื่อนของดาวดังอย่าง เปโดร เซีย และ เปเรกริโน่ อันเซลโม่

    20 ปีถัดมา ขุนพลจอมโหดก็ผงาดคว้าแชมป์เวิลด์ คัพ อีกครั้งด้วยการไปเอาชนะชาติเจ้าภาพอย่างบราซิลถึงถิ่นมาราคาน่า

    นอกจากนี้ พวกเขายังคว้าแชมป์โกปา อเมริกา อีก 15 ครั้ง มีเหรียญทองโอลิมปิกอีก 2 ครั้ง ซึ่งนั่นหมายความว่าประเทศที่มีประชากรทั้งหมดเพียงครึ่งหนึ่งของประเทศลาวสามารถใช้พื้นที่ของโลกลูกหนังสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองขึ้นมาได้

    แต่อะไรคือจุดเด่นของพวกเขา

    ???

    ในรอบ 25 ปีที่ผ่านมาอุรุกวัยได้ผลิตกองหน้าซึ่งสามารถดึงดูดสายตาจากคนทั่วโลกได้อย่างแท้จริง

    หากจะพูดถึงบุคคลต้นแบบคงไม่น่าเซอร์ไพรส์ถ้าเท้าซ้ายของ อัลวาโร่ เรโคบา คือสิ่งนั้น

    เขาเป็นนักล่าประตูที่ยิ่งใหญ่มากกว่าที่จะเป็นนักล่าประตูชั้นยอด และด้วยเทคนิกต่างๆ ก็ทำให้ เรโคบา คือพ่อค้าแข้งที่โด่งดังที่สุดของวงการลูกหนังอุรุกวัย

    เจ้าของฉายา 'เอล ชีโน่' ได้แสดงให้เห็นว่าเท้าซ้ายของเขามีเวทมนต์อย่างไรบ้าง เมื่อเขาเปิดตัวในสีเสื้อ อินเตอร์ มิลาน ด้วยการลุกจากม้านั่งสำรองในขณะที่ทีมมีสกอร์ตามหลัง และยิง 2 ประตูจากระยะทางรวมกันกว่า 70 หลา ซึ่งทำให้ยอดแข้งอย่าง โรนัลโด้ ต้องอ้าปากค้าง

    จริงๆ แล้ว พรสวรรค์ของ 'เอล ชีโน่' ถูกค้นพบในช่วงปลายยุค 2000 เมื่อทีมงูใหญ่ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่มีรายได้มากที่สุดในโลกลูกหนัง

    11 ประตูจาก 69 นัดที่รับใช้ทีมชาติมันเป็นตัวเลขที่ถือว่าน้อยมากหากเทียบกับชื่อเสียงของเขา แต่ก็นั่นแหละ ทุกความทรงจำ ทุกย่างก้าวที่เขาได้สร้างขึ้นคือแรงบัลดาลใจให้กับบรรดารุ่นน้องของทีมจอมโหด

    หนึ่งในคนที่ได้รับอิทธิพลชัดเจนเลยก็คือ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน

    ก็เหมือนกับเรโคบา อดีตกองหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างฟอร์ลันใช้เวลาในอะคาเดมี่ของ ดานูบิโอ ก่อนที่จะย้ายไปยัง อินเดเปนเดียนเต้

    ก็ทำนองเดียวกับ เด็กเก่า ลิเวอร์พูล อย่าง หลุยส์ ซัวเรซ อีกนั่นแหละ แต่เขาไม่ทันเล่นกับ เรโคบา ตลอด 5 ปีที่ นาซิอองนาล

    ทั้ง ฟอร์ลัน และ ซัวเรซ ต่างก็มีสตอรี่ในเวทียุโรปที่ให้พูดเป็นวันก็คงไม่หมด และก็เช่นเดียวกับ เอดินสัน คาวานี่ ซึ่งก็เป็นสมาชิกอีกคนที่เติบโตมาจาก ดานูบิโอ

    ในช่วงระยะเวลาของพวกเขา ทั้งหมดยิงรวมกันไป 137 ประตูให้กับอุรุกวัย และมันก็ยังจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ แน่ แม้ ฟอร์ลัน จะสิ้นสุดเส้นทางผจญภัยของเขาไปแล้ว และ คาวานี่ กับ ซัวเรซ ก็อยู่ในวัยที่ทะลุเลข 30 ซึ่งคุณอาจคิดว่ายุครุ่งเรืองของกองหน้าจากอุรุกวัยจะหมดสิ้นแล้ว

    มีการกล่าวถึงอีกหนึ่งกองหน้าอย่าง คริสเตียน สตูอานี่ ด้วย

    จะว่าไปก็มีเพียง ลีโอเนล เมสซี่ และ หลุยส์ ซัวเรซ เท่านั้นที่ทำประตูได้มากกว่ากองหน้าจาก คิโรน่า ในลา ลีกา ซีซั่นนี้

    เมื่อฤดูกาลที่แล้ว สตูอานี่ ยิงไป 21 ประตูในลีก ซึ่งก็มีเพียงแค่ เมสซี่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ซัวเรซ และ ยาโก้ อัสปาส ที่ทำได้เยอะกว่าเขา

    อย่างไรก็ตาม สตูอานี่ วัยล่วงเลยมาถึง 32 ปีแล้ว ดังนั้นช่วงเวลาในนามทีมชาติก็ใกล้จะหมดลงเต็มทีเช่นกัน

    มันจะเป็นยุคมืดของอุรุกวัยอีกแล้วใช่ไหม

    ???

    คำตอบคือ 'ไม่'

    นั่นเพราะทัพ 'ลา เซเลสเต้' นั้นยังคงเดินหน้าพัฒนาดาวยิงคนใหม่ให้ขึ้นชั้นมาประดับวงการได้อยู่

    เขาคนนั้นก็คือ มักซี่ โกเมซ จาก เซลต้า บีโก้

    โกเมซ เริ่มต้นอาชีพกับ เดเฟนซอร์ สปอร์ติ้ง ก่อนที่เขาจะย้ายมาเวทีลา ลีกา ในปี 2017

    ผลงาน 17 ประตู จาก 36 นัดในลีกเมื่อปีก่อนไม่ใช่เรื่องฟลุก และในฤดูกาลนี้เขาก็ยิงไปแล้วถึง 9 ลูกด้วยกัน

    โอเค เขาอาจมีข่าวพัวพันกับทีมที่ไม่ใช่ยักษ์ใหญ่มากอย่าง เวสต์แฮม ในช่วงที่ผ่านมา แต่เมื่อดีลไม่เกิดขึ้น ไม่แน่ว่าอีกไม่นานเราอาจได้เห็นหัวหอกวัย 22 ปีคนนี้ไปแทนที่รุ่นพี่อย่าง ซัวเรซ ที่ บาร์เซโลน่า ก็เป็นได้

    แม้ตอนนี้ โกเมซ จะเพิ่งติดทีมชาติไป 9 นัด และยังอยู่ภายใต้ร่มเงาจากทั้ง คาวานี่ และ ซัวเรซ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรนี่ถ้า โกเมซ จะได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างจากพวกเขา

    อยากรู้เหลือเกินว่าอุรุกวัยให้พวกนั้นกินอะไรเป็นอาหาร???

    พาสต้า


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})