การเกิดใหม่ของโมเรโน่
แต่ยังพอมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์จากบางเรื่องได้เหมือนกัน
อัลเบร์โต้ โมเรโน่ ดูจะทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
เกมล่าสุดที่เพิ่งแชร์แต้มกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แบบไร้สกอร์ ค่อนข้างน่าหงุดหงิดสำหรับสาวกเดอะ ค็อป เพราะตลอด 90 นาที มีแต่ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่พยายามเปิดฉากบุกแทบจะข้างเดียว โดยที่ฝั่งผีแดงเอาแต่ตั้งรับราวกับเอารถบัสสองชั้นมาจอดขวางหน้า
ที่เซอร์ไพรส์คือบรรดาเด็กผีกลับเห็นดีเห็นงามกับการเล่นแนวนี้เอาเสียด้วย
แม้หงส์แดงจะคุมเกมนั้นได้แบบอยู่หมัด แต่ต้องยอมรับว่าแนวรุกของฝ่ายตรงข้ามไม่ธรรมดาเหมือนกัน หากลิเวอร์พูลไม่ระวังดีๆ อาจต้องเสียทีให้กับ โรเมลู ลูกากู, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ แอชลี่ย ยัง ได้เหมือนกัน
อย่างที่ทราบ กองหลังหงส์แดงขึ้นชื่อลือชาขนาดไหนในฤดูกาลนี้ พวกเขาเพิ่งจะเก็บคลีนชีตได้เพียงนัดเดียวเท่านั้นก่อนจะเจอกับทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่
โมเรโน่ เองก็ได้รับมอบหมายให้หยุดการโจมตีจาก ยัง ที่ยืนอยู่ทางกราบขวาในระบบ 4-2-3-1
ผลที่ออกมาถือว่าทำได้ดีเกินเป้า เนื่องจากเกมดังกล่าวเราแทบจะได้ไม่ยินเสียงเรียกชื่อ อาจารย์ยัง เข้าหูเลย ไม่สังเกตุก็แทบไม่รู้ว่าอยู่ในสนามเสียด้วยมั้ง
แบ็กซ้ายเลือดกระทิงดุอาจมีรูปร่างค่อนข้างเล็กสูงเพียง 5 ฟุต 7 นิ้ว แต่เขากลับดวลลูกกลางอากาศชนะถึง 75% ในการป้องกัน
นอกจากนี้ ยังมีทีเด็ดในการเติมเกมรุกที่ดีอีกด้วย จุดเด่นคือการวิ่งหาช่องว่างได้ดี
หลายคนบอกทำไมไม่ใช้ เจมส์ มิลเนอร์ เหมือนปีก่อน
ฟูลแบ็กจำเป็นอาจดูสมดุลย์ในเกมรับ แต่เรื่องความเป็นธรรมชาติยังไงก็สู้ โมเรโน่ ไม่ได้
กับฤดูกาลนี้ โมเรโน่ สร้างสรรค์โอกาสทำประตูไปแล้วถึง 9 ครั้งจาก 6 นัดที่ลงเล่น ซึ่งเมื่อเทียบกับปีก่อนนั้นทำได้เพียง 5 ครั้งเท่านั้นจาก 12 เกมที่เป็นตัวสำรอง
มันอาจเป็นเพราะ ยัง ถูกสั่งให้เล่นเกมรับตั้งแต่ช่วงแรก แต่เมื่อมองถึงภาพลักษณ์ของ โมเรโน่ ที่มีมาแต่อดีตก็อดเป็นห่วงไม่ได้เลยว่าเขาจะก่อความผิดพลาดขึ้นมาเมื่อไหร่บ้าง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่สมควรแล้วกับการที่เขาได้รับเครดิตในการแสดงประสิทธิภาพในเกมใหญ่ๆ แบบนี้
ถึงการเล่นในเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่ได้การันตีว่าแบ็กซ้ายเลือดกระทิงดุคือสุดยอดแล้วสำหรับแบ็กซ้ายหงส์แดง แต่ โมเรโน่ กำลังมีฤดูกาลที่ดีนับจากนี้
ทำไม โมเรโน่ ถึงกลับมาได้แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
???
นั่นเป็นคำถามที่ยังไร้คนตอบ
แต่ด้วยระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สถานะของเขาในทีมหงส์แดงได้เปลี่ยนไปมาก
หลายคนไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ที่เขายังคงอยู่ในทีมหลังผ่านช่วงซัมเมอร์ ตามความเหมาะสมเขาควรต้องถูกเล่นเร่ แปรธาตุเป็นเงินหลาย 10 ล้านปอนด์ โดยมี นาโปลี กับ เซบีย่า เรียงคิวจีบ
ยิ่งตอกย้ำอนาคตที่หมดลงไปด้วยการที่ มิลเนอร์ ยังคงเป็นตัวเลือกเบอร์หนึ่ง แถม แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ก็ถูกดึงเข้ามาจาก ฮัลล์ ซิตี้ ด้วยราคา 10 ล้านปอนด์
ทว่าเมื่อสิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง คล็อปป์ เป็นคนออกปากถึงเรื่องนี้เองว่า "อัลเบร์โต้ โมเรโน่ได้กลับมาอย่าง 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว เขาดูดีมากหลังเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากเมื่อปีก่อน"
ดูเหมือนว่าดาวเตะสแปนิชจะชนะใจผู้จัดการทีมตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น และก็ต่อเนื่องมายังฤดูกาลปัจจุบันเลยทีเดียว
ตัวของ โมเรโน่ เองก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงความพอใจของเขากับอนาคตในทีมเมื่อเดือนก่อนผ่าน คริส แบสคอมบ์ เหยี่ยวข่าวจากเทเลกราฟ
"ทั้งชีวิตและเรื่องฟุตบอล ผมเป็นนักสู้อยู่แล้ว ผมไม่เคยยอมแพ้ และเมื่อคุณกำลังลำบาก คุณต้องเพิ่มแรงจูงใจที่จะทำงานให้หนักขึ้น"
แน่นอน แนวรับของลิเวอร์พูลถูกโจมตีอย่างมากว่าอ่อนปวกเปียก และเสียประตูค่อนข้างง่าย แต่เมื่อมองไปยังสถิติ โมเรโน่ น่าจะเป็นคนที่ได้รับการยกเว้น มันไม่น่าเชื่อเลยจริงสำหรับคนที่อนาคตดับมืดในฤดูกาลที่แล้ว
ในขณะที่ โฌแอล มาติป, เดยัน ลอฟเรน และ รักนาร์ คลาวาน ถูกมองเป็นตัวตลกจากคนทั่วไป ส่วน โจ โกเมซ กับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็ค่อนข้างไร้ประสบการณ์ แต่ โมเรโน่ กลับมีสถิติที่เล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในพรีเมียร์ลีก ทีมมีโอกาสได้รับชัยชนะถึง 62% เมื่อมีเขาอยู่ในสนาม ทั้งที่ซีซั่นก่อนตัวเลขอยู่ที่ 55% เท่านั้นเอง และย้อนกลับไปฤดูกาล 2014-15 ค่าเฉลี่ยเหลือ 46%
นั่นบ่งบอกว่าเขาต้องทำงานหนักอย่างมากเพื่อปรับปรุงการเล่นเกมรับของตัวเอง
พรสวรรค์ของ โมเรโน่ คือการเล่นเกมรุกอย่างเป็นธรรมชาติ ใครๆ ก็รู้ถึงเรื่องนั้นเป็นอย่างดี แต่ตอนนี้ เขาได้เพิ่มรายละเอียดการเล่นของเขาให้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
แม้จะมีการพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่ต้องยอมรับ โมเรโน่ ยังคงห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ และต้องเดินหน้าทำงานหนักให้มากกว่านี้เพื่อจะเป็นตัวเลือกแรกในทีมของ คล็อปป์ ระยะยาว
คู่แข่งโดยตรงอย่าง โรเบิร์ตสัน ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่ามีจุดเด่นตรงการเปิดบอลจากด้านข้าง แม้จะเพิ่งมีโอกาสลงเล่นเพียงแค่ 3 เกมเท่านั้น และเมื่อเทียบกับ โมเรโน่ แล้ว ดาวเตะเลือดสกอตติชอาจกลายมาเป็นช้อยส์แรกก็ได้หากเขาสามารถปรับตัวกับทีมได้สำเร็จ
แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าชั่วโมงนี้ อดีตแข้งเซบีย่านั้นก้าวกระโดดอย่างมากในปีนี้ และดูจะลงตัวกับลิเวอร์พูลมากที่สุดแล้ว
เส้นทางค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์ของ โมเรโน่ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังเกือบหมดลมหายใจไปก่อนหน้านี้
หวังว่าความแข็งแกร่งทั้งจิตใจ และฝีเท้าที่เขามีในวันนี้
จะยังคงเดินหน้าต่อไปไม่มีวันหยุด
ถึงตอนนั้น เราจะได้พูดอย่างเต็มปากเสียทีว่า
นี่แหละ... แบ็กซ้ายเบอร์หนึ่งของเรา
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT