ป้ากูก็ยิงเข้า!
เซร์คิโอ อเกวโร่ เกือบกลายเป็นกองหน้าหมูหกในเกมที่พบกับ เชลซี เมื่อเขาพลาดลูกยิงง่ายๆ ในระยะแค่ไม่กี่หลา แต่เขาก็ใช้เวลาเพียง 6 นาทีถัดมาเพื่อแก้ตัวด้วยประตูอันสุดสวย
การพลาดแบบนั้นของดาวยิงอาร์เจนไตน์ถือเป็นเรื่องผิดปกติไม่ใช่แค่กับตัวของ 'เอล กุน' ที่ซัดไปแล้ว 17 ประตูในลีกฤดูกาลนี้ แถมยังมีสถิติแฮตทริกมากที่สุดเทียบเท่าในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกอีก
แต่!!!
ความผิดปกตินั้นนับรวมไปถึงกับทั้งแนวรุกของ แมนฯ ซิตี้ ด้วย
ในซีซั่นนี้ ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถือเป็นเจ้าพ่อของการยิงประตูแรก มันฟังดูน่าจะเป็นเรื่องยากเมื่อคุณต้องพบเจอกับเหล่าแนวรับที่ดีที่สุดในลีกอังกฤษ
เป็นเรื่องจริงที่ป้าของคุณสามารถพังประตูชัยให้กับทีมเรือใบในฤดูกาลนี้ได้ ประมาณคำที่เราพากันพูดเล่นแบบว่า 'ป้ากูก็ยิงเข้า' แต่การที่จะทำให้ป้าของคุณอยู่ในตำแหน่งที่สามารถทำสกอร์ในพื้นที่แรกได้นั่นต่างหากคือเวทมนตร์ที่เกิดขึ้น
จาก 74 ประตูที่เรือใบทำได้ทั้งหมดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ มีถึง 21 ลูกที่เกิดขึ้นในกรอบเขตโทษจากการยิงด้วยระยะเพียง 6 หลา
นั่นถือว่ามากที่สุดเยอะกว่า ลิเวอร์พูล ที่มีสถิติดังกล่าวตามมาเป็นอันดับ 2 ถึง 5 ประตูด้วยกัน และค่าเฉลี่ยดังกล่าวของ แมนฯ ซิตี้ ก็สูงถึง 28.4% เลยทีเดียว
มีเพียง เบิร์นลี่ย์ (44.8%), คาร์ดิฟฟ์ (33.3%) และ ไบรท์ตัน (28.6%) ที่มีเปอร์เซ็นต์การทำสกอร์จากระยะ 6 หลามากกว่าทีมเรือใบ แต่นั่นก็อาจเป็นเหตุจากการเก่งในลูกกลางอากาศของทั้ง แอชลี่ย์ บาร์นส์, คัลลั่ม เพเทอร์สัน และ เกล็นน์ มาร์รี่ย์ รวมถึงคนอื่นๆ
ถ้าคุณของมองไปยังแผงแนวรุกของ แมนฯ ซิตี้ พวกเขาไม่ได้มีจุดเด่นในเรื่องลูกกลางอากาศเลย และหากจะต้องสู้กับทีมอื่นๆ ในเรื่องดังกล่าวคงทำได้แค่เฉพาะกับ ไรอัน เฟรเซอร์ ของ บอร์นมัธ เท่านั้นแหละมั้ง
จุดเด่นของพวกเขาเมื่อลูกบอลต่อสู้กันบนพื้นนั้นเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนวิธีผ่านบอลอย่างรวดเร็ว
ความยากในการต้องต่อกรกับทีมของ เป๊ป ก็คือคุณจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าควรจะต้องประกบใครดี
ในตำแหน่งมิดฟิลด์ เควิน เดอ บรอยน์ ดูจะเล่นได้อย่างหน้าชื่นตาบานกับการถูกดึงมายืนเป็นตัวต่ำในทั้งสองด้านของสนามเพื่อนที่จะทั้งผ่าน และเลี้ยงบอลไปยังพื้นที่สุดท้าย
รายของ ดาบิด ซิลบา ก็เคลื่อนที่ไปยังทุกมุมของสนามเหมือนนักฆ่าแบบเงียบๆ ขณะที่ อิลคาย กุนโดกัน ก็มีส่วนผสมของความลงตัวระหว่างตำแหน่งหมายเลข 6 หมายเลข 8 และหมายเลข 10 โดยไม่พลาดในจังหวะใดๆ เลย
แดนหน้าทั้ง ราฮีม สเตอร์ลิง, แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ ลีรอย ซาเน่ ก็มีความสามารถทะลุทะลวงขึ้นไปยังพื้นที่ริมเส้น และหุบเข้ามาเล่นตรงกลางได้อยู่ตลอด
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพวกฟูลแบ็กของฝ่ายตรงข้ามตามเข้ามาไล่ประกบพวกเขา คุณก็จะได้เห็น ไคล์ วอล์คเกอร์ วิ่งตะบึงขึ้นมาข้างหน้า และถ้าพวกกองหลังยังยืนประจำด้านข้าง บอลก็จะถูกถ่ายเข้าไปตรงกลาง
เป๊ป ได้ร้องขอให้พวกนักเตะปีกของเขาให้เล่นแบบโน้น แบบนี้ยามที่ไม่มีบอล การหาช่องยิงแถวจุดโทษในช่วงเวลาที่ถูกต้องคือสิ่งที่คุณต้องเล่นให้ได้ในทีมของกุนซือชาวสแปนิช ซึ่งนั่นเป็นอีกสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นโดยปกติสำหรับบรรดาพ่อค้าแข้งตัวริมเส้น
การยิง 13 ประตูในลีก และอีก 26 แอสซิสต์จากผลงานรวมกันของทั้ง สเตอร์ลิง, ซาเน่, แบร์นาร์โด้ และ ริยาด มาห์เรซ คือเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับ สเตอร์ลิง ที่แทบจะกลายเป็นกองหน้าไปแล้ว เมื่อดาวเตะวัย 24 ปีมีส่วนร่วมถึง 50 ประตูในพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาลที่แล้ว
คงไม่ตะขิดตะขวงใจนักหากจะยกให้เขากลายเป็นแข้งระดับเวิลด์คลาส
จริงๆ แล้วการทำประตูในพรีเมียร์ลีกมันไม่ใช่เรื่องง่ายอะไรหรอก และมันก็ไม่ควรเป็นแบบนั้นด้วย
แต่เพียงแค่วิธีการเล่นต่างๆ ของ แมนฯ ซิตี้ ภายใต้น้ำมือ เป๊ป ได้สร้างภาพลวงตาให้คุณเข้าใจว่ามันเป็นอะไรที่ง่ายดายมากประมาณว่า 'ป้ากูก็ยิงเข้า'
เพราะงั้น ตอนนี้คุณไปบอก 'ป้า' ของคุณให้แกะเชือกรองเท้าสตั๊ดออกก่อนได้เลย...
พาสต้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT