รวมยอดแข้งระดับ 'โรค'
แต่คนอื่นๆ อาทิ ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส, อันเดรียส อิเนียสต้า หรืออีกหลายคนมากมายในวงการลูกหนังก็ไม่ได้ห่างไกลจากคำนั้นเลย
แต่!!!
มันก็มีอีกหลายคน ที่หากว่ากันด้วยเรื่องฝีเท้าเพียวๆ แล้วไม่เป็นสองรองใคร และน่าจะก้าวขึ้นไปเป็นยอดแข้งระดับโลกได้
แต่เพราะด้วยปัญหาบาดเจ็บนั่นแหละที่ขัดขวางพวกเขาเหล่านี้ไม่ให้ไปถึงคำว่า 'เวิลด์คลาส'
อาบู ดิยาบี้
นี่คือร่างโคลนที่ อาร์แซน เวนเกอร์ หมายมั่นปั้นมือจะให้เป็น ปาทริค วิเอร่า คนต่อไป ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การเล่น, ทักษะ หรือรูปร่าง และที่สำคัญเป็นคนฝรั่งเศสเหมือนกันด้วย
ดิยาบี้ ย้ายมายังเดอะ กันเนอร์ส เมื่อปี 2006 หลังจาก 'เจ้าปั๊ต' ซึ่งเป็นกัปตันทีมในตอนนั้นย้ายไปยูเวนตุสในเวลาไม่กี่เดือนให้หลัง
แต่เราไม่เคยได้เห็นเขาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ วิเอร่า ที่รังปืนใหญ่เลย เนื่องจากเรามักจะเห็นเขาอยู่แต่โรงหมอเป็นส่วนมาก ทั้งที่เมื่อได้ลงสนามทีไรก็มักจะโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่เสมอ
ปัจจุบันในวัย 32 ปี หลังจากที่ถูก มาร์กเซย ปล่อยตัวออกมาเป็นแข้งฟรีเอเยนต์ เขาก็เพิ่งจะประกาศแขวนเกือกไปไม่กี่วันที่ผ่านมานี้
เล็ดลี่ย์ คิง
ในขณะที่ ดิยาบี้ เอาแต่อยู่ในโรงหมอที่ อาร์เซน่อล ส่วน คิง ก็อยู่ในห้องเดียวกันที่ สเปอร์ส
หากพูดถึงเรื่องอาการบาดเจ็บ กัปตันทีมไก่เดือยทองคือผู้นำแบบไม่ต้องสงสัย เนื่องจากมันก็เป็นแบบนั้นมาตลอดทั้งชีวิตค้าแข้งของเขา
ในชีวิตของ คิง มีเพียงฤดูกาล 2004-05 เท่านั้นที่เขาลงเล่นในพรีเมียร์ลีกครบทั้ง 38 นัด
อย่างไรก็ตาม อาการเจ็บหนักที่เข่าในปี 2006 ของเขาคือจุดเริ่มต้นของจุดจบในเส้นทางก้าวข้ามไปเป็นแข้งเวิลด์คลาส แม้จะพยายามพิสูจน์ตัวเองมาจนถึงปี 2012 ก็ตาม
โทมัส โรซิชกี้
นี่คือหนึ่งในสุดยอดเพลย์เมกเกอร์พรสวรรค์แห่งยุคของภายพื้นยุโรปไม่ว่าจะสมัยแจ้งเกิดกับ สปาร์ต้า ปราก หรือกระทั่ง ดอร์ทมุนด์
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าของฉายา 'ลิตเติ้ลโมซาร์ต' คือหนึ่งในแข้งยอดเยี่ยมในตำแหน่งของเขาเอง
แต่ตลอดเวลา 1 ทศวรรษที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เขาได้ลงเล่นเพียง 170 นัดในพรีเมียร์ลีก พร้อมด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บที่ตามรังควานมาโดยตลอด
เขารีเทิร์นกลับไปยังรังรักเก่าอย่าง สปาร์ต้า ปราก ในซัมเมอร์ ปี 2016 แต่ก็อยู่ได้ถึงเพียงเดือนธันวาคม ปี 2017 เท่านั้น หลังจากลงเล่นไป 13 นัดรวมทุกรายการ
หลุยส์ ซาฮา
เวลาส่วนใหญ่ของหัวหอกเฟร้นช์แมนเกิดขึ้นในลีกอังกฤษ ไล่ตั้งแต่ นิวคาสเซิ่ล, ฟูแล่ม, แมนฯ ยูไนเต็ด, เอฟเวอร์ตัน, สเปอร์ส และ ซันเดอร์แลนด์
กับเจ้าสัวน้อยที่เองที่เขาสร้างชื่อขึ้นมาอย่างโดดเด่นในพรีเมียร์ลีก และด้วยฟอร์มอันสวยหรูก็ทำให้เขาได้ย้ายไปอยู่ทีมใหญ่อย่างผีแดงในปี 2014
โอเค ที่นั่นเขาอาจจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย และลีก คัพ อีก 1 สมัย แต่ความสำเร็จเหล่านั้นแทบไม่มีเขาเป็นส่วนร่วมเลยเนื่องด้วยอาการบาดเจ็บของเจ้าตัวนั่นเอง
โจนาธาน วู้ดเกต
'วู้ดดี้' ไม่เชิงต่างจาก คิง เลยซะทีเดียว เขาได้รับการยกย่องว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นอนาคตของทีมชาติอังกฤษในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กหลังแจ้งเกิดกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้อย่างน่าชื่นชม แต่ก็อีกนั่นแหละ
ช่วงที่ทีมยูงทองถังแตก วู้ดเกต ถูกขายให้ นิวคาสเซิ่ล และแม้ว่าจะลงเล่นไปเพียง 28 นัดในพรีเมียร์ลีกให้เดอะ แม็กพายส์ ฟอร์มของเขาก็ยังไปเตะตาทีมยักษ์ใหญ่
เรอัล มาดริด จัดการคว้าตัวเขาไปในปี 2014 แต่ที่เบร์นาเบวนั่นคือหายนะของเขาเมื่อได้รับบาดเจ็บหนักมาตลอด และที่เหมือนกับ คิง ก็คือรางวัลสุดท้ายของเขากับต้นสังกัดก็คือถ้วยลีก คัพ ในปี 2008
แฮร์รี่ คีเวลล์
นี่คือเพื่อนร่วมทีมของ วู้ดเกต ที่ลีดส์ เวลานั้น คีเวลล์ ถือเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวรุกที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก หลายทีมยักษ์ตามติดเขามากตอนที่ชื่อของเขาเข้าตลาดซื้อขายในปี 2003
ไม่ว่าจะเป็น อาร์เซน่อล, แมนฯ ยูไนเต็ด, เอซี มิลาน และ บาร์เซโลน่า ต่างแวะเวียนมาขายขนมจีบดาวเตะออสเตรเลียไม่ขาดสาย แต่สุดท้ายเขาก็เลือกซบทีมเชียร์อย่าง ลิเวอร์พูล
ที่นั่น คีเวลล์ คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก และเอฟเอ คัพ แต่เขาก็แทบไม่ได้โชว์ศักยภาพอะไรมากมายเพราะอาการบาดเจ็บ
หนึ่งในความทรงจำสำหรับเด็กหงส์ก็คือการที่เขาโดนเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ครึ่งแรกในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2005 จากปัญหาที่เอ็นหลังหัวเข่า
เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา
ย้อนกลับไปปี 2007 ชื่อของ เอดูอาร์โด้ ได้รับการยกย่องค่อนข้างสูง หลังจากยิงกระจายให้ ดินาโม ซาเกร็บ ดาวเตะทีมชาติโครเอเชียที่เป็นเชื้อสายบราซิเลี่ยนก็ย้ายมา อาร์เซน่อล
เขาเริ่มต้นที่เอมิเรตส์ได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่จะขาหักในเกมพบ เบอร์มิงแฮม ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2008 และจากนั้นเราก็ไม่เคยเห็นเขากลับมาเป็นผู้เป็นคนได้อีกเลย
แม้เขาจะแสดงให้ผู้คนต้องนับถือหัวจิตหัวใจด้วยการคัมแบ็กในปีถัดมา แต่น่าเศร้าที่จากนั้นเขาก็ถูกปล่อยให้ ชัคตาร์ โดเนตส์ค ในปี 2010
อัลบาโร่ เรโคบา
หนึ่งในกองหน้าที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดของทีมชาติอุรุกวัย เรโคบา มีเท้าซ้ายที่น่าทึ่ง แต่มันก็แลกมาด้วยอาการบาดเจ็บเรื้อรัง
แม้ที่ผ่านมาจะแสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์อันมหาศาล แต่ความรู้สึกของเราก็คือเขาน่าจะไปได้ไกลกว่านี้ในอาชีพ
อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังวนเวียนเล่นอยู่ในลีกระดับสูงจนกระทั่งแขวนสตั๊ดไปในวัย 38 ปี
อิบราฮิม อเฟลลาย
ช่วงที่เป็นเด็กในคาถาของ กุส ฮิดดิ้งค์ ที่ พีเอสวี ตอนกลางยุค 2000 อเฟลลาย คือหนึ่งในนักเตะมากพรสวรรค์มากที่สุดของตำแหน่งมิดฟิลด์
ฟอร์มกับยักษ์ลีกดัตช์ทำให้เขาได้ย้ายไปยัง บาร์เซโลน่า ในปี 2011 และที่นั่น เขาอยู่ภายใต้การคุมทัพของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พร้อมคว้าแชมป์ลา ลีกา และแชมเปี้ยนส์ลีกมาได้
แต่อาการบาดเจ็บหนักเอ็นเข่าขาดในซีซั่นถัดมาคือหายนะของเขา และปัจจุบันก็กลายเป็นนักเตะไร้สังกัดหลังจากโดน สโต๊ค ปล่อยตัวออกมา
แจ็ค ร็อดเวลล์
หลังจากสร้างชื่อกับ เอฟเวอร์ตัน ร็อดเวลล์ส ก็กลายเป็นอนาคตของทีมชาติอังกฤษไปในทันที
แมนฯ ซิตี้ ชิงลงมือรีบคว้าตัวเขามาร่วมทีม แต่ด้วยอาการบาดเจ็บเรื้อรังทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จแม้แต่น้อย ก่อนจะถูกปล่อยตัวต่อให้ ซันเดอร์แลนด์
ปัจจุบัน ร็อดเวลล์ ที่กำลังจะอายุครบ 28 ปีในเดือนมีนาคมนี้ยังเล่นอยู่ในลีกแชมเปี้ยนชิพกับ แบล็คเบิร์น หลังจากที่แยกทางกับทีมแมวดำเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT