15 เกม...แห่งความหวัง
นั่นคือบทเพลงที่เป็นอมตะในเมืองไทยของคุณ สุรพล สมบัติเจริญ
แต่สำหรับทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในชั่วโมงนี้ คงต้องบอกว่า 15 เกม...แห่งความหวัง...
ใครล่ะจะไม่อยากเป็นหนึ่งในหล้า
???
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทำมันได้แล้วกับ แมนฯ ยูไนเต็ด
และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อาจจะทำมันได้ดีกว่ากับ แมนฯ ซิตี้
สำหรับแฟนฟุตบอลในช่วงทศวรรษ 1990 ไม่ว่าคุณจะเชียร์ทีมอะไร แต่ก็คงไม่มีใครลืมผลงานอันเกรียงไกรของทีมผีแดงที่สามารถกวาด 'ทริปเปิ้ลแชมป์' เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้วอย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้ เพื่อนบ้านน่ารำคาญของพวกเขากำลังจะสร้างปรากฎการณ์ที่เหนือกว่าด้วยการคว้า 4 แชมป์ใหญ่ในซีซั่นเดียว
ย้อนกลับไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่ทีมเรือใบยังคงมีสกอร์ตามหลัง สวอนซี 0-2 เวลาก็เหลืออีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ตอนนั้นหลายคนต่างคิดว่าเรื่องช็อกกำลังจะเกิดขึ้นในเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ และน่าจะเป็นหงส์ขาวที่ทะยานไปสู่เวทีตัดเชือกรายการนั้น
แต่พอสิ้นเสียงนกหวีดของ อังเดร มาร์ริเนอร์ กลายเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่เป็นฝ่ายเอาชนะ 3-2
ใช่!!! พวกเขาทำได้
ตอนนี้เท่ากับว่าพวกเขาเหลืออีกเพียง 15 เกมเท่านั้นที่จะเดินทางไปถึงการคว้า 4 แชมป์ใหญ่ พร้อมกลายเป็นอันดับหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์
คำถามก็คือ พวกเขาดีพอที่จะคว้าแชมป์ในอีก 3 รายการที่เหลือหรือไม่ หลังผงาดชูถ้วยลีก คัพ ไปก่อนแล้ว
???
หลายคนคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้
โอเค เรื่องขุมกำลังของทีมเรือใบในฤดูกาลนี้นั้นไม่มีใครเถียง เพราะพวกเขานั้นแกร่งทั่วแผ่นในแบบที่แทบไม่มีจุดอ่อนอะไรเลย แถมตัวเลือกทดแทนก็เล่นกันได้แบบไม่มีตกหล่นอีกด้วย
ทว่าเมื่อมองไปถึงรายละเอียดแล้ว ความยากก็คือพวกเขาจะต้องเล่นกับของแข็งอย่าง สเปอร์ส ถึง 3 นัดในรอบ 11 วัน ก่อนที่จะต้องทำศึกแมนเชสเตอร์ดารบี้ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ขณะที่อีก 2 ตัวเต็งอย่าง ยูเวนตุส และ บาร์เซโลน่า ก็ต่างค่อนข้างสะดวกสบายในลีกของตัวเอง ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเขาสามารถให้ความสำคัญกับแชมเปี้ยนส์ลีกได้อย่างเต็มที่
ที่สำคัญสุดก็คือ การประสบความสำเร็จขนาดถึงกับคว้า 4 แชมป์ใหญ่ภายในซีซั่นเดียวมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะการคว้าแชมป์แบบนั้นมันเหมือนเป็นการท้าทายธรรมชาติของฟุตบอลที่ดูจะวุ่นวายมหาศาล
พวกเขาจะให้ความสำคัญกับทั้ง 3 รายการที่้เหลือได้อย่างเท่าเทียมกันหรือ...
???
ในเอฟเอ คัพ วูล์ฟส์ คือผู้ท้าชิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา และการจับสลากประกบคู่ก็ทำให้เรือใบเจองานที่ง่ายกว่าอย่าง ไบรท์ตัน ในรอบรองชนะเลิศ
มันก็คล้ายกับที่เขาโชคดีในเกมยุโรปก่อนหน้านี้กับการพบ ชาลเก้ ที่กำลังเผชิญหน้ากับผลงานในลีกห่วยที่สุดตั้งแต่รีเทิร์นกลับมายังเวทีบุนเดสลีกาในปี 1992
ในรอบก่อนรองถ้วยบิ๊กเอียร์นั้น สเปอร์ส คือบททดสอบที่ไม่ง่ายสำหรับพวกเขา
แต่...
เรือใบก็ยังใจชื้นได้เมื่อสถิติของ เป๊ป ในการพบกับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ในช่วงหลังๆ นั้นเหนือกว่าอย่างชัดเจน
เวลานี้ แมนฯ ซิตี้ ถูกยกจากเหล่าบริษัทรับพนันให้เป็นเต็งหนึ่งของแชมเปี้ยนส์ลีก แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีประสบการณ์ในการเล่นเกมยุโรปรอบน็อคเอาต์สักเท่าไหร่
กับในพรีเมียร์ลีกขณะนี้ แม้เรือใบจะหล่นลงมาอยู่อันดับสองตามหลัง ลิเวอร์พูล ไปแล้ว แต่หากมองตามเนื้อผ้าพวกเขาก็ยังกุมความได้เปรียบเอาไว้ในมือตัวเองอยู่
จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ไม่เคยมีทีมไหนในพรีเมียร์ลีกที่ยังมีลุ้นถึง 4 แชมป์ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ของฤดูกาล
ย้อนกลับไปในยุคที่ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้า 'ทริปเปิ้ลแชมป์' พวกเขาตกรอบก่อนรองชนะเลิศ ลีก คัพ ด้วยน้ำมือไก่เดือยทองที่ไปถึงแชมป์ในปี 1999
ไม่ว่าคุณจะคิดอย่างไรกับวิธีการสร้างทีมของ แมนฯ ซิตี้ (อำนาจเงิน หรืออื่นๆ อีกมากมาย) ถ้วยรางวัลนั่นแหละที่จะทำให้เรือใบกลายเป็นมหาอำนาจหลักของวงการลูกหนังปัจจุบัน
แม้จะมีแฟนบอลมากหน้าหลายตาเยาะเย้ยถึงความสำเร็จเก่าๆ ที่ไม่อาจเท่าเทียมพวกบิ๊กทีมในอดีตได้ แต่พวกเขาก็มีความปรารถนาที่จะสร้างความยิ่งใหญ่แบบยั่งยืนนับจากนี้ไป
ทีมผีแดงชุด 3 แชมป์ในปี 1999 ยังคงเป็นจุดที่ใช้อ้างอิงถึงความยิ่งใหญ่กันอยู่ในทุกวันนี้
น่าสนใจเหลือเกินว่า แมนฯ ซิตี้ จะทำได้ดีกว่า 20 ปีก่อนที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กดประตูชัยให้ผีแดงผงาดเป็นเจ้าของโลกลูกหนังที่บาร์เซโลน่าได้หรือไม่
???
15 เกมต่อจากนี้นี่แหละคือคำตอบ...
พาสต้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT