ความทรงจำสีจาง

    ฟิลิปป์ ลาห์ม, ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เดิร์ค เค้าท์ หรือกระทั่ง ชาบี อลอนโซ่

    ล่าสุดที่ยังคงวาดลวดลายอยู่ แต่กำลังจะตามไปอีกคนหลังจบซีซั่นคือ อันเดรีย ปีร์โล่ ของ นิวยอร์ก ซิตี้

    อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งคนที่ยังไม่รู้ชะตากรรมว่าจะไปไหน เอาไงต่อ นั่นคือ กาก้า

    ดาวเตะบราซิเลี่ยนออกมาประกาศกร้าวจะไม่ต่อสัญญากับ ออร์ลันโด้ ซิตี้ สโมสรในเมเจอร์ลีก สหรัฐฯ ออกไป

    เหตุผลเป็นเรื่องส่วนตัวล้วนๆ โดยบอกว่าไม่รู้สึกแฮปปี้กับการแข่งขัน รวมถึงการต่อสู้กับอาการบาดเจ็บอีกต่อไปแล้ว ความรู้สึกนี้มันไม่ต่างจากคนหมดใจ ที่กำลังเลือกหันหลังเดินหนี

    มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกหาก กาก้า จะเป็นอีกหนึ่งแข้งที่ตัดสินใจหยุดเส้นทางลูกหนังไว้ที่วัย 35 ปี

    นี่คือนักเตะคนสุดท้ายที่ผงาดคว้ารางวัลบัลลงดอร์ ก่อนที่ยุคของ ลีโอเนล เมสซี่ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะกลืนกินวงการลูกหนังไป

    ย้อนกลับไปในสมัยที่เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเก็บข้าวของออกจากบ้านเกิดมาผจญภัยในเวทียุโรปกับ มิลาน เมื่อปี 2003

    นับแต่นั้น หากพูดถึงศึกกัลโช่ เซเรีย อา ชื่อของ กาก้า จะต้องเป็นอันดับหนึ่ง

    ผลงาน 95 ประตู จาก 270 เกมในสีเสื้อปีศาจแดง-ดำ ไม่ใช่เรื่องฟลุก มันทำให้ชื่อเสียงของเขาดูจะใหญ่คับถิ่นซาน ซิโร่ ในตอนนั้นไปเรียบร้อย

    เรอัล มาดริด คือสถานีต่อมา หลัง ฟลอเรนติโน่ เปเรซ เซ็นเช็กจ่ายเงิน 68.5 ล้านยูโรเป็นข้อแลกเปลี่ยน

    น่าเสียดายที่ กาก้า ดูจะไม่ใช่สำหรับราชันชุดขาว แม้ฝีเท้า และคุณภาพของเขาจะเหมาะสมกับบิ๊กทีมแบบนี้ แต่อาการบาดเจ็บอยู่นอกเหนือความควบคุม

    เขาแทบจะเสียเวลาไปกับการรักษาตัวจากโรคเดี้ยงมากกว่าสร้างชื่อเสียงในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว

    จากนั้นเขาก็กลับ มิลาน ในช่วงสั้นๆ ที่ร่างกายเริ่มรับการแข่งขันหนักๆ ไม่ไหวแล้ว

    ก่อนจะเดินตามรอยเท้าอดีตซูเปอร์สตาร์ลูกหนังหลายรายด้วยการโยกซบเมเจอร์ลีกกับ ออร์ลันโด้ ถึงทุกวันนี้

    บางคนอาจลืมในความยอดเยี่ยมของอดีตขุนพลทีมชาติบราซิลไปเกือบหมดแล้ว

    วันนี้เราจะมาย้อนรอยถึง 5 เรื่องราวที่น่าจดจำของ กาก้า กันหน่อย บางทีเราอาจไม่ได้เห็นเขาวาดลวดลายบนฟลอร์หญ้าอีกต่อไปแล้วหลังจบฤดูกาลนี้

    สั่นสะเทือนเซเรีย อา

    นักเตะหลายรายที่ย้ายจากอเมริกาใต้ มาเล่นในยุโรปต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ กาก้า ไม่ต้องทำแบบนั้นเลย หลังย้ายจาก เซา เปาโล มาอยู่กับ  มิลาน เมื่อปี 2003 ด้วยค่าตัว 8.5 ล้านยูโร

    กาก้า ในวัย 21 ปีเวลานั้น มารับบทบาทเพลย์เมกเกอร์แทน รุย คอสต้า และทำได้ 10 ประตูจากการลงเล่นใน เซเรีย อา ซีซั่นแรก 30 นัด

    กาก้า ช่วยให้ปีศาจแดง-ดำคว้าถ้วยสคูเด็ตโต้ และมีชื่อเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล โดยอยู่กับทีมถึงปี 2009 ก่อนไปเล่นให้ เรอัล มาดริด และหวนกลับถิ่น ซาน ซิโร่ อีกรอบระหว่างปี 2013-14

    เหนือกว่าเมสซี่และโรนัลโด้

    กาก้า ได้ บัลลง ดอร์ ในปี 2007 โดยได้คะแนนโหวต 444 เสียง เอาชนะ ลีโอเนล เมสซี่ 167 คะแนน และชนะ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 189 คะแนน

    ดาวเตะแซมบ้า เผยในตอนนั้นว่า "พวกเขาได้รางวัลกันทุกปี แต่ผมสามารถกลับมาเอาชนะพวกเขาได้ สำหรับผมแล้วนี่เป็นสิ่งสำคัญ เพราะผมมีคู่แข่งที่สุดยอด ผมภูมิใจมาก"

    ทวงแค้นหงส์แดงในแชมเปี้ยนส์ลีก

    กาก้า พา เอซี มิลาน เอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2007 หลังก่อนหน้านั้น 2 ปี เคยโดนหงส์แดงสร้างความเจ็บแสบ

    ในปี 2005 ลิเวอร์พูล สร้างปาฎิหาริย์เอาชนะ มิลาน ได้อย่างเหลือเชื่อที่อิสตันบูล หลังตกเป็นรองก่อนถึง 0-3

    ผีกาก้า

    มิลาน ต้องเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในรอบรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2007 โดยนัดแรกผีแดงเปิดบ้านชนะไปก่อน 3-2

    อย่างไรก็ตาม ในนัดสองที่ ซาน ซิโร่ นั้น กาก้า โชว์ฟอร์มสุดยอดพา มิลาน ถล่ม ยูไนเต็ด ได้แบบขาดลอย 3-0 ทำให้ชนะไปด้วยประตูรวม 5-3

    จากฟอร์มที่สุดยอดของ กาก้า ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถึงกับยกย่องเขาว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลกเลยทีเดียว

    นิวกาลาคติกอส   

    กาก้า ย้ายจาก มิลาน ไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวมหาศาลเมื่อปี 2009 ซึ่งถือเป็นสถิติโลกในเวลานั้น

    แม้จะมีอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้ง ทำให้ไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งออกมาได้ แต่เขาก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของราชันชุดขาวที่ได้แชมป์ ลา ลีกา ฤดูกาล 2011-12