ไม่มีเบอร์ 1 ถึง 2 คน
ใครหลายคนไม่ค่อยให้ความสำคัญ หรือส่องสปอร์ตไลท์ไปยังทีมรองแชมป์นักหรอก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วหากทีมนั้นเกิดเป็น ลิเวอร์พูล ขึ้นมา
แต่ในปีนี้ มันเป็นอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมมากเลย...
มาถึงตรงนี้ก็เหลืออีกเพียง 2 เกมเท่านั้น แม้ แมนฯ ซิตี้ จะไม่สามารถทำแต้มได้เยอะเท่ากับตอนที่คว้าแชมป์ลีกฤดูกาลก่อน แต่หากพวกเขาเก็บชัยได้หมดในโปรแกรมที่เหลือ มันก็จะยังเป็นคะแนนมากที่สุดอันดับสองในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกอยู่ดี
จะบอกว่ารองแชมป์ที่ได้คะแนนเยอะที่สุดในยุคของพรีเมียร์ลีกก่อนหน้านี้ก็คือ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เก็บไป 89 แต้มในปี 2012
หากใครจำไม่ได้ว่าผีแดงชวดแชมป์ได้ไงก็ให้นึกถึงประตูชัยของ กุน อเกวโร่ ในนาทีสุดท้าย
ตอนนี้ หงส์แดงจัดการเปิดบ้านถล่ม ฮัดเดอร์สฟิลด์ แบบสบายตัว 5-0 เก็บไปแล้วถึง 91 แต้ม
ขอบอกว่าในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา มีเพียง 4 ครั้งเท่านั้นในพรีเมียร์ลีกที่เคยมีทีมเก็บคะแนนมากขนาดนี้ ซึ่งก็คือ แมนฯ ยูไนเต็ด ปี 1993-94 (42 เกม), เชลซี ปี 2004-05, เชลซี ปี 2016-17 และ แมนฯ ซิตี้ ในปี 2017-18
และพวกนั้นคว้าแชมป์ลีกได้ทั้งหมด
มันชัดเจนว่ารองแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้จะเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุด เอาจริงๆ น่าจะโชคร้ายที่สุดมากกว่า
ด้วยฟอร์มระดับท็อปคลาสของทั้งสองทีม มันจะไม่ใช่เรื่องน่าเซอร์ไพรส์เลยหากทั้งเรือใบ และหงส์แดงจะเก็บได้ 6 แต้มเต็มใน 2 เกมสุดท้ายของซีซั่น
นั่นหมายถึง แมนฯ ซิตี้ จะเป็นแชมป์ลีกที่ 98 แต้ม ส่วน ลิเวอร์พูล จะได้เหรียญเงินด้วยการมี 97 คะแนน
อืม...นะ
ตอนนี้ต้องบอกว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะเก็บแต้มได้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก และไม่ได้ชูถ้วยแชมป์
ถามว่ามันเป็นความสำเร็จของหงส์แดงไหม คำตอบคือ 'ใช่' เพราะนี่คือฤดูกาลอันมหัศจรรย์ของเหล่าเดอะ ค็อป จริงๆ แต่ความรู้สึกคงหวานอมขมกลืนซะมากกว่า
สำหรับเด็กหงส์จะต้องทนขมขื่นไปอีกถึงเมื่อไหร่ กับการทำได้ดีขนาดนี้ และก็ต้องรอคอยแชมป์พรีเมียร์ลีกเพิ่มไปอีกปีเป็นอย่างน้อย
แต่แน่นอน ลิเวอร์พูล ในปี 2018-19 จะถูกบรรจุในความทรงจำบนหน้าประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนังเมืองผู้ดีอย่างแน่นอน
แค่พวกเขาเก็บได้เพิ่มอีก 1 แต้มก็จะไปอยู่ในระดับสูงสุดของการเก็บคะแนนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เคยทำได้ต่อซีซั่นแล้ว
พร้อมกันนี้ หงส์แดงยังเก็บชัยได้มากกว่าฤดูกาลอันไม่น่าเชื่อของ อาร์เซน่อล ในปี 2003-04 เสียอีก
แม้แฟนผีแดง และปืนใหญ่จะพากันอ้างถึงตู้รางวัลที่มีถ้วยแชมป์ลีกเหนือกว่า ลิเวอร์พูล ในลูกหนังยุคโมเดิร์น
แต่พวกเขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันมาตรฐานของตัวเองนั้นเริ่มห่างจากม้าสองตัวบนหัวตารางออกไปเรื่อยๆ และการลุ้นแชมป์ในปีนี้ก็บ่งชี้ให้เห็นถึงระดับความยากที่เพิ่มขึ้นเป็นกองของพรีเมียร์ลีก
แต่มันจะโหดร้ายเกินไปไหม...สำหรับความพยายามของหงส์แดงที่มาได้ไกลกว่าบรรดาแชมป์ทั้งหลายในพรีเมียร์ลีก ทว่ากลับต้องมาอกหักอีกครั้ง
หากมองกันตามเนื้อผ้า ทั้งสองทีมสมควรที่จะถูกยอมรับ หรือเหมาะสมกับตำแหน่งแชมป์
น่าเสียดายที่ตำแหน่งนั้นมันมีได้เพียงหนึ่งเดียว
เมื่อเร็วๆ นี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เคยว่าไว้ว่าทีมที่ชวดแชมป์ฤดูกาลนี้ไม่ต้องเสียใจอะไรเลย เพราะได้สร้างซีซั่นอันแสนมหัศจรรย์ให้เกิดขึ้นแล้ว
"ทั้งสองทีม (แมนฯ ซิตี้ และลิเวอร์พูล) สมควรต่อการได้แชมป์ลีก" นายใหญ่เรือใบกล่าว
"แต่มันมีได้แค่ทีมเดียวเท่านั้น ทีมที่แพ้นั้นไม่ควรเสียใจเลย เพราะพวกเขาได้ทำทุกสิ่งอย่างเต็มที่แล้ว"
มันจะไม่ให้เสียใจได้ไงวะเป๊ป!!!
ก็ตั้งแต่เกิดมาพวกกูยังไม่เคยได้เลยนะโว๊ยยยย....
พาสต้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT