เมื่อหงส์แดงต้องพึ่งคนรักเก่า
บรรดาเดอะ ค็อป หวังจะเห็นทีมรักผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในฤดูกาลนี้
แต่!!!
ทุกอย่างมันเริ่มห่างไกลออกไปขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพวกเขาต้องเห็น แมนฯ ยูไนเต็ด พ่ายแพ้แบบหมดรูปให้กับเพื่อนร่วมเมืองเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว เรียกได้ว่าหวังจาก เบิร์นลี่ย์ ยังมีลุ้นกว่าอีก
กับตอนนี้ที่ยังเหลืออีก 2 เกมสุดท้ายของซีซั่น ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีโอกาสจบฤดูกาลด้วยการเก็บได้ถึง 97 แต้ม ซึ่งนั่นเป็นคะแนนที่มากกว่าแชมเปี้ยนทุกทีมในพรีเมียร์ลีกเว้นเพียงแค่ แมนฯ ซิตี้ ที่ทำได้แตะหลักร้อยเมื่อปีที่แล้ว
และถึงแม้พวกเขาจะโกยแต้มได้มากมายขนาดนั้น มันก็อาจยังคงไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1990
บนตารางคะแนนที่ค่อนข้างผันผวน หงส์แดงขึ้นำไปรั้งจ่าฝูงได้ในคืนวันศุกร์หลังจากเปิดบ้านถล่ม ฮัดเดอร์สฟิลด์ แบบไม่เกรงใจใครหน้าไหน แต่เรือใบก็ชิงกลับมาคืนด้วยการเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ ไปในวันอาทิตย์
หาก ลิเวอร์พูล ต้องการก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์ลีก พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ
เรื่องนั้นมันดันไปโยงเกี่ยวกับอดีตบิ๊กบอสหงส์แดงอย่าง ราฟาเอล เบนิเตซ และ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส
หัวหน้าแก๊งเก่าในถิ่นแอนฟิลด์ทั้งสองคนเคยเกือบทำให้ ลิเวอร์พูล สิ้นสุดการรอคอยอันแสนยาวนานในการนำแชมป์ลีกมายังเมอร์ซี่ย์ไซด์ในช่วงที่พวกเขายังอยู่ในตำแหน่ง
การชิงชัยของ บีร็อด โดนยังหวะลื่นของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด (ไอ้พวกเด็กผียังเอามาล้อจนถึงทุกวันนี้โดยไม่ดูสภาพทีมตัวเอง) ในเกมกับ เชลซี ทำลายความหวัง ก่อนที่ทุกอย่างจะจบแบบบริบูรณ์ในนัดต่อมาที่พบ คริสตัล พาเลซ
ขณะที่ของ ราฟา นั้นต้องย้อนกลับไปในในปี 2009 ซึ่งหงส์แดงสะดุดขาตัวเองบ่อยเกินไปจนปล่อยให้แชมป์ตกอยู่ในมือของ แมนฯ ยูไนเต็ด
แต่ตอนนี้ ร็อดเจอร์ส อาจแก้ตัวในการนำหงส์แดงไปถึงแชมป์ด้วยการนำ เลสเตอร์ บุกไปเก็บแต้มจากถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ให้ได้ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
เอาเข้าจริงมันก็ไม่ใช่ว่าทัพจิ้งจอกจะทำเพื่อ ลิเวอร์พูล อะไรหรอกนะ พวกเขาก็ต้องเล่นเพื่อตัวเองด้วยกับการคว้าอันดับ 7 ซึ่งมีโอกาสที่จะได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า (ถ้าหาก แมนฯ ซิตี้เอาชนะวัตฟอร์ดในนัดชิงเอฟเอ คัพ)
นอกจากนี้ เลสเตอร์ เองก็เคยหักปากกาเซียนเอาชนะเรือใบในซีซั่นนี้มาได้แล้วด้วยสกอร์ 2-1 ที่คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เมื่อวันบ็อกซิ่งเดย์
พูดถึงฟอร์มการเล่นของ เลสเตอร์ ในชั่วโมงนี้ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่หมูเลยนะ พวกเขากำลังอยู่ในช่วงมั่นใจ โดยก่อนหน้านี้ก็เคยเก็บชัยได้ 4 นัดติดต่อกัน หลังจากมีช่วงเวลาอันเลวร้ายพอสมควรภายใต้การคุมทัพของ โคล้ด ปูแอล
หนึ่งในคนที่ฉุดผลงานของทีมเดอะ ฟ็อกซ์ ให้ผงาดขึ้นมานอกจาก บีร็อด แล้วก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก เจมี่ วาร์ดี้ เขายิงไป 6 ประตู จาก 6 นัดหลังสุดที่ลงสนาม และก็ขึ้นชื่อเหลือเกินกับการชอบยิงทีมใหญ่ๆ ล่าสุด อาร์เซน่อล ก็โดนมาแล้ว ขณะที่การเจอกับ ซิตี้ นั้นเขาก็กระซวกไป 5 เม็ดด้วยกัน
แต่ก่อนที่จะไปหวังถึงเกมระหว่าง แมนฯ ซิตี้ กับ เลสเตอร์ ในคืนวันจันทร์ 2 วันก่อนหน้านั้นหงส์แดงจะต้องยกพลไปเยือน นิวคาสเซิ่ล และนั่นก็คือทีมที่มีกุนซือคนเก่าที่พวกเขารักอย่าง ราฟา คุมทัพอยู่
ความผูกพันธ์ของนายใหญ่ชาวสแปนิชกับ ลิเวอร์พูล ต้องบอกว่าแนบแน่นหลังจากเคยใช้เวลาอยู่ด้วยกันถึง 6 ปี และบ้านของครอบครัวเขาก็ยังคงอยู่ในเมอร์ซี่ย์ไซด์ด้วย เชื่อว่าลึกๆ แล้วตัวของ 'เอล บอส' เองก็อยากเห็นหงส์แดงก้าวไปเป็นแชมป์ลีกเหมือนกัน
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะสั่งให้ทีมของเขาต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในนัดวันเสาร์นี้
"เราจะพยายามทำงานของเราอย่างที่สุดตามแบบมืออาชีพ แต่พวกเขาแข็งแกร่งมาก เราเล่นต่อหน้าแฟนของเรา และเราจะทุ่มเททุกอย่างในสนาม"
นั่นคือคำตอบของ ราฟา หลังจากมีนักข่าวได้สอบถามไปยังนายใหญ่เมืองกระทิงดุว่าเขาจะหยุดทีมเก่าไม่ให้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้รึเปล่า
แต่ก็นั่นแหละ ความเป็นมืออาชีพ
หากหงส์แดงอยากจะยังมีลุ้นต่อก็ต้องผ่าน นิวคาสเซิ่ล ไปให้ได้ และเกมที่หลายคนหวั่นมากที่สุดก็หาใช่สาลิกาดง แต่เป็น วูล์ฟส์ ที่มักชอบรับบทเป็น 'แจ็คผู้ฆ่ายักษ์' ในวันสุดท้ายของซีซั่นมากกว่า
ในขณะเดียวกัน คู่แข่งที่มีอำนาจอยู่ในมืออย่างเรือใบจะต้องเปิดบ้านรับมือ เลสเตอร์ และปิดท้ายด้วยการไปเยือน ไบรท์ตัน
จะเห็นได้ว่าทั้ง ราฟา และ บีร็อด ต่างก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลุ้นแชมป์ลีกในช่วงที่เหลือ 2 นัดสุดท้ายของ ลิเวอร์พูล
แม้ท้ายที่สุดแล้วเราจะยังไม่รู้หรอกว่าต่อให้ทั้งสองคนเคยรักสามารถทำให้หงส์แดงทะยานแซงหน้าเรือใบไปเป็นจ่าฝูงในนัดรองสุดท้ายแล้ว ลิเวอร์พูล จะสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรรึเปล่า
แต่ยังไงก็ตาม สุดสัปดาห์นี้ก็ช่วยๆ กันหน่อยเหอะ กูไหว้ล่ะ...
พาสต้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT