ถึงคราวต้องเปลี่ยน
ถึงวันนี้ยังไม่มีใครทราบว่าชีวิตของ เดยัน ลอฟเรน เป็นตายร้ายดียังไงบ้าง แต่จากกระแสน้ำที่ไหลไปดูท่ากราฟจะหนักไปทางดิ่งลงเหว
การลบข้อมูลความเป็นลิเวอร์พูล หรือปิดคอมเมนต์ในไอจี มันเหมือนเป็นการแสดงออกของคนยอมแพ้ หมดใจ ไม่อยากสู้ต่อ
ก็จริงว่า ลอฟเรน โดนจัดหนักจาก คล็อปป์ ไปไม่เบาเลย
แต่หากหมดแรงกำลังใจในการก้มหน้าก้มตาต่อสู้เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองมีดีให้คนอื่นๆ ได้แล้วล่ะก็
มันคงไม่ต่างจากจุดจบ
คล็อปป์จัดหนักลอฟเรนหลังฟอร์มห่วยสุดขีด
ทว่าสิ่งที่บ่งบอกได้ชัดเจนก็คืออาจถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงกันบ้างแล้ว
โจ โกเมซ คือแสงเล็กๆ ที่ปลายอุโมงค์ แต่ยังไม่การันตีว่าจะสว่างได้หรือไม่
มันน่าจะถึงคราวที่แนวรับวัยรุ่นจะได้โอกาส แม้จะมีจุดด่างพร้อยเรื่องประสบการณ์ก็ตามที
โอเค โกเมซ เพิ่งจะอายุอานามเพียง 20 ปีเท่านั้น และตั้งแต่ย้ายมาเป็นสมาชิกในถิ่นแอนฟิลด์เมื่อซัมเมอร์ปี 2015 ก็โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานมาโดยตลอด
ความเป็นจริงก็คือ เกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่ง หงส์แดง แพ้เละให้กับ สเปอร์ส มันคือครั้งแรกที่เขาได้โอกาสลงเล่นตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟให้ทีมชุดใหญ่ในพรีเมียร์ลีก
แน่นอน โกเมซ อาจได้รับโอกาสตรงนี้มากมายในทีมชุดยู 23
แต่ถ้าใครจำกันได้ ซีซั่นก่อนหลังคัมแบ็กจากโรคเดี้ยงแรมปีมาลงเล่นเผชิญหน้า วูล์ฟส์ ในศึกเอฟเอ คัพ ปรากฎว่า ลิเวอร์พูล แพ้รองบ่อนจอดป้าย พร้อมฟอร์มที่น่าส่ายหัวสำหรับไอ้หนูโจ
เวลาฉายแสงของโกเมซมาถึงแล้ว
โยงมาที่ลอฟเรนบ้าง เขาอยู่กับทีมมา 3 ปีแล้ว และลงเล่นไปกว่า 121 นัด
แต่ความรู้สึกของกองเชียร์กับตัวของแนวรับโครแอตมีแต่ถอยหลังลงคลอง
ผลงานห่วยแตกสะสมมาจนถึงในเกมล่าสุดทำให้แฟนหัวร้อนกลุ่มใหญ่ในโลกโซเชียลถึงขั้นบอกว่าเขาไม่สมควรสวมเครื่องแบบหงส์แดงอีกต่อไปเลยด้วยซ้ำ
นายใหญ่เมืองเบียร์ที่โดนโจมตีเรื่องหลังบ้านมาตั้งแต่ปีก่อนก็พยายามจะเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างให้เห็น
และคนที่โดนเชือดก็คือ ลอฟเรน นั่นเอง
ดูเหมือนว่าตอนนี้ คล็อปป์ จะให้น้ำหนักคู่เซนเตอร์แบ็กในใจเป็น โกเมซ กับ โฌแอล มาติป ไปแล้ว
แต่จะโบ้ยความผิดทั้งหมดให้กับลอฟเรนคนเดียวก็ไม่ใช่
ตัวของ คล็อปป์ เองก็ต้องรับผิดชอบกับปัญหาหลังรั่วที่ผ่านมาตลอดด้วย
มันน่าเหลือเชื่อว่า ลิเวอร์พูล ที่มีสถิติเสียประตูง่ายในยุคของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ด้วยขุนพลอย่าง ซิมง มิโญเลต์, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ และ ลอฟเรน
ทุกวันนี้ยังเสนอหน้ากันครบแก๊ง และที่น่าเจ็บใจคือดันเป็นตัวหลักของกุนซือเมืองเบียร์ด้วย
ที่ดูจะชีวิตดีกว่าชาวบ้านชาวเมืองในชั่วโมงนี้หน่อยก็เห็นจะเป็น โมเรโน่ แต่มีใครปักใจเชื่อเหรอว่าไอ้หมูเด็กเก่า เซบีย่า มีดีพอยืนระยะแบบยาวๆ ได้
อนาคตของลอฟเรนกับหงส์แดงถึงทางตัน?
กลุ่มนักเตะเหล่านี้จะว่าไปก็ไม่ได้เก่งพอจะเป็นตัวหลักให้กับทีมใหญ่อย่างลิเวอร์พูลได้เลย และถ้าพวกเขายังลงเล่นในทีมชุดแรกต่อไปเรื่อยๆ มันก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นไปกว่านี้หรอก
ถึงจะรู้ทั้งรู้ว่าเกมรับคือตัวการสำคัญ แต่ คล็อปป์ เองก็ใช้เงินไปกับนักเตะกองหลังน้อยมากตั้งแต่เข้ามานั่งเก้าอี้ใหญ่ในช่วงตุลาคม 2015
เงิน 10 ล้านปอนด์สำหรับ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ที่โดนแจ้งความคนหายถือว่าแพงที่สุดแล้ว
ที่เหลือ มาติป ก็ได้มาฟรี และยังดูไม่น่าเชื่อใจสักเท่าไหร่ ขณะที่ รักนาร์ คลาวาน (4.2 ล้านปอนด์) น่าจะเป็นอีกคนที่ค่อนข้างหมดอนาคตกับทีมแล้ว
นอกจากนี้ก็มี สตีเว่น คอลเกอร์ ที่เคยย้ายมาด้วยสัญญายืมตัวช่วงสั้นๆ
ส่วนตำแหน่งนายทวารก็เป็นที่พูดถึงมาอย่างยาวนานกับความไม่คงเส้นคงวาของ มิโญเลต์
กระทั่งถึงทุกวันนี้ คนที่ คล็อปป์ ซื้อมาอย่าง ลอริส คาริอุส ดันไม่เคยพิสูจน์ตัวเองได้เลยแม้แต่เสี้ยวนาทีเดียวว่ามีดีกว่านายด่านเบลเยียม
สิ่งเหล่านี้เองคือความผิดพลาดทั้งหมดที่น่าจะชี้นิ้วหากุนซือเมืองเบียร์ได้
แต่ในเมื่อปัญหารุมเร้าหลายอย่างที่สะสมได้ระเบิดออกแล้วในตอนนี้ สิ่งสำคัญสุดไม่ใช่การโยนแพะโทษโน่นโทษนี้
การแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าคือสิ่งจำเป็น
มีโอกาสจับคู่กันในเกมพบฮัดเดอร์สฟิลด์
กว่าจะถึงตลาดนักเตะหน้าหนาว โจ โกเมซ คงต้องกลายมาเป็นตัวความหวังแทนหมาหัวเน่าอย่าง ลอฟเรน ไปก่อน
หลายคนลืมไปแล้วว่าปราการหลังตัวกลางคือตำแหน่งที่กัปตันทีมชาติอังกฤษชุดยู 21 สร้างชื่อขึ้นมากับ ชาร์ลตัน ซึ่งปี 2014-15 เขาลงเล่นตรงนี้ถึง 24 นัด พร้อมคำสรรเสริญเยินยอในเวลานั้นว่าเป็นหนึ่งในแข้งพรสวรรค์ที่น่าจับตามองที่สุดคนนึงของประเทศ
แม้เขาก็ถูกวางให้เล่นเป็นแบ็กซ้ายในช่วงแรกๆ สมัยที่ทีมยังมี บีร็อด เป็นเจ้านาย ทว่าธรรมชาติความเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟที่อยู่ในสายเลือดคงไม่ได้จางหายไปไหน
นัดถัดไปที่จะต้องบู๊กับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ถือว่าสำคัญ เพราะหาก 11 ตัวจริงดันมี โกเมซ จับคู่แผงหลังกับ มาติป แล้วล่ะก็
คงไม่ต้องบอกว่าอนาคตของ ลอฟเรน ในถิ่นแอนฟิลด์หมดแล้วหรือยัง
หลายคนออกอาการวิตก เป็นห่วง ไอ้หนูโจยังเด็กอยู่เลย ประสบการณ์ก็น้อย ต้องเล่นพื้นที่สำคัญแบบนั้นจะไหวเหรอ
ขอบอกเลยว่าอย่าห่วงครับ
เพราะคงไม่มีอะไรจะเลวร้ายไปกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้แล้ว
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT