:::     :::

จากโรนัลโด้...รูนี่ย์...ถึงป็อกบา

วันพุธที่ 26 มิถุนายน 2562 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
3,100
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เขาจะอยู่หรือไป

    ???

    นั่นยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามในใจสาวกผีแดงต่อตัว ปอล ป็อกบา หลังจากที่นักเตะออกมาเปิดเผยถึงอนาคตของเขาที่ค่อนข้างคลุมเครือ

    เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน มิดฟิลด์ทีมแชมป์โลกได้เปิดใจที่โตเกียวว่าเขากำลังมองหาความท้าทายใหม่ โดยมีข่าวพัวพันกับทั้ง เรอัล มาดริด และ ยูเวนตุส

    แม้ว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงยืนยันหนักแน่นว่าดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสจะอยู่กับทีมต่อไป

    แต่หากว่าในใจของเขาต้องการชิ่งหนีถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จริงๆ แล้วล่ะก็ การรั้งเขาเอาไว้มันจะไม่ส่งผลเสียในห้องแต่งตัวมากกว่าเหรอ?

    แม้ ยูไนเต็ด จะเป็นหนึ่งในทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และร่ำรวยมากที่สุดในโลก (ถ้าไม่รวยจริงคงไม่กล้าลงทุนกับเด็กที่เพิ่งแจ้งเกิดได้เพียงปีเดียวอย่าง อารอน วาน-บิสซาก้า ถึง 50 ล้านปอนด์หรอก) แต่พวกเขาก็เคยประสบปัญหาเดียวกันนี้มาก่อน

    ย้อนกลับไปในปี 2010 ในเคสของ เวย์น รูนี่ย์ ตอนนั้นเขาเรียกได้ว่าเป็นคนหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกลูกหนัง หัวหอกเลือดผู้ดีแจ้งกับสโมสรว่าต้องการย้ายออกจากทีมเนื่องจากมองว่าผีแดงขาดความทะเยอทะยานในการประสบความสำเร็จ

    เวลานั้น ยูไนเต็ด ก็ไม่ได้แตกต่างจากที่ รูนี่ย์ นึกคิด พวกเขากำลังถูกครอบงำโดยทีมรุ่นใหม่อย่าง แมนฯ ซิตี้ และ เชลซี ซึ่งหัวหอกร่างตันเชื่อว่าทีมตนไม่สามารถเซ็นสัญญากับนักเตะระดับท็อปที่จำเป็นต่อการคว้าแชมป์รายการใหญ่

    สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นเพียงปีเดียวหลังจากที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ คาร์ลอส เตเวซ กอดคอกันเดินจากไปโดยที่ไม่ได้มีแข้งระดับเวิลด์คลาสเข้ามาแทนที่เลย

    จะว่าไปมันก็ไม่ได้ต่างจาก ป็อกบา ในวันนี้ รูนี่ย์ ไม่ต้องการอยู่กับสโมสรที่เขามองว่าเสี่ยงต่อการอยู่ในช่วงขาลง และถูกทีมอื่นครอบงำความยิ่งใหญ่ไปแทน

    แต่หลังจากที่ส่งสัญญาว่าพร้อมชิ่งหนีทีม อีกเพียง 2 วันหลังจากนั้น รูนี่ย์ ก็ตัดสินใจต่อสัญญาใหม่กับสโมสรออกไปอีก 5 ปี

    เขาอ้างว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และเหล่าบอร์ดบริหารทำให้เขาเชื่อมั่นในสิ่งที่เขากำลังทำ และค่าเหนื่อยของเขาก็เพิ่มขึ้นแบบน่าตกใจจนเท่ากับบรรดาสตาร์ดังของโลกบางคนเลยทีเดียว ขณะที่ผู้จัดการทีมก็บอกกับ รูนี่ย์ สุ่มเสี่ยงต่อการทำสิ่งผิดพลาดครั้งใหญ่ในอาชีพค้าแข้ง

    แม้เวลานั้นเขาจะได้รับแรงดึงดูดจากทั้ง แมนฯ ซิตี้, เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า หรือ เชลซี แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังเป็นบ้านของเขาในท้ายที่สุด และหลังจากสิ้นสุดเรื่องดราม่างอแง รูนี่ย์ ก็ร่วมคว้าถ้วยรางวัลกับทีมมากมาย ซึ่งนั่นรวมถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกอีก 2 สมัยด้วย

    แต่ในขณะที่ทีมผีแดงแฮปปี้สุดขีดกับการรั้งตัวหนึ่งในนักเตะชั้นยอดที่สุดของทีมเอาไว้ได้ และ เฟอร์กี้ ก็แสดงให้เห็นถึงอำนาจที่มากกว่าทีมของเขา

    ทว่าปฏิกิริยาจากแฟนบอลล่ะ???

    สำหรับบางคนมันก็อาจไม่เหมือนเดิมอีกเลย เสียงโห่ที่ถาโถมใส่เขาในตอนแรกอาจจางหายไปในเวลาอันรวดเร็ว แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง รูนี่ย์ กับแฟนบอลนั้นดำเนินไปแบบไม่แนบแน่น และเริ่มเสื่อมถอยไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาถูกปล่อยตัวออกไปในปี 2017

    ถ้า ป็อกบา ยังคงอยู่กับทีมต่อไปเกินกว่าซัมเมอร์นี้ เขาคงต้องทำอะไรที่สุดพิเศษในการชนะใจสาวกผีแดงให้ได้ หลังห่อเหี่ยวกับความล้มเหลวของสโมสรมา 3 ปีแล้ว

    ในขณะที่ความรู้สึกระหว่าง รูนี่ย์ และ ยูไนเต็ด มีความอึดอัดอยู่เล็กๆ หลังเหตุการณ์เมื่อปี 2010 นั้น แต่มันต่างจากความรู้สึกในตอนที่ โรนัลโด้ อำลาถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพื่อไปยัง เรอัล มาดริด อย่างสิ้นเชิง

    ซูเปอร์สตาร์โปรตุกีสเป็นคีย์แมนหลักในการพบผีแดงเถลิงแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2008 และความจริงที่ว่า มาดริด เป็นที่สนใจของเขาก็ไม่ใช่เรื่องที่ใครหลายคนแปลกใจเลย

    สโมสรรู้ว่าพวกเขาต้องดิ้นรนเพื่อที่จะเก็บดาราดังของตัวเองเอาไว้ และมันก็ไม่ใช่เรื่องปิดบังที่ว่าหัวใจของ โรนัลโด้ นั้นลอยไปอยู่กับราชันชุดขาวแล้ว การจ่ายเงินครั้งใหญ่จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ และมันก็ถูกยอมรับในวงกว้าง แม้ว่าจะมีความหวั่นกลัวจากแฟนคลับส่วนใหญ่ของทีมก็ตาม

    จากการสัมภาษณ์ของ โรนัลโด้ เมื่อปี 2008 ระบุว่า "ผมต้องการไปเล่นให้เรอัล มาดริด แต่มันเป็นเรื่องจริงที่พวกเขาต้องพร้อมจ่ายหนักในราคาที่แมนฯ ยูไนเต็ดร้องขอ แต่ก็นั่นแหละ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับผม"

    ฝันการย้ายทีมของ โรนัลโด้ ยังไม่ได้เป็นจริงในปี 2008 และเขาก็ถูกโน้มน้าวจากผู้จัดการทีมให้อยู่ช่วยสโมสรต่ออีกหนึ่งซีซั่น

    แล้วอะไรเกิดขึ้นล่ะ?

    มีหลายครั้งในฤดูกาล 2008-09 ที่เขาดูเหมือนไม่พอใจกับสิ่งรอบตัวเขา และมันก็ชัดเจนว่า เฟอร์กูสัน หรือบอร์ดของผีแดงไม่มีทางที่จะรั้งให้เขาอยู่ต่อเป็นครั้งที่ 2

    สุดท้ายทั้งตัว และหัวใจของเขาก็สมหวัง เมื่อ โรนัลโด้ ได้ย้ายทีมด้วยสถิติโลก (ในเวลานั้น) ราคา 80 ล้านปอนด์ในซัมเมอร์ปี 2009

    ในขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ทุกวันนี้ยังอยู่ภายใต้ร่มเงาของทั้งยุคของ รูนี่ย์ และ โรนัลโด้ แต่พวกเขาก็ยังคงมีอิทธิพลต่อตลาดนักเตะ และมีกำลังเงินที่จะดึงดูดแข้งชั้นนำของโลก

    ความปรารถนาของ ป็อกบา ในการขอย้ายทีมก็ยังคงเป็นปัญหาที่คาราคาซังกับทั้งตัวนักเตะ และสโมสร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเขาเกิดงัดไม้แข็งเพื่อให้ได้ออกจากทีมขึ้นมา

    โอเค ในอดีตหลังจากทั้งตอนที่ รูนี่ย์ และ โรนัลโด้ แสดงความต้องการชิ่งหนีถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พวกเขาจะรังสรรค์ความสำเร็จมาสู่สโมสรได้อย่างยอดเยี่ยมก่อนที่เขาจะเปิดตูดจากไปจริงๆ

    แต่กับกรณีของ ป็อกบา หากสโมสรรั้งเขาให้อยู่ต่อไปได้ขึ้นมา

    จากสภาพทีม รวมถึงการบริหารที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ น้อยคนนักที่เชื่อว่าจะได้เห็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย...

    พาสต้า


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด