คริสตอฟ ปิออนเท็ค กับหมายเลขอาถรรพ์

    เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางว่าหากใครได้สวมใส่หมายเลข 9 นั่นแสดงว่าคุณจะต้องเป็นดาวซัลโวประจำทีม หรือไม่ก็จอมถล่มประตูที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของทีม

    คุณอาจไม่ใช่นักเตะสไตล์ ลีโอเนล เมสซี่ ไม่ใช่คนแบบ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่เมื่อบอลมาถึงคุณ คุณก็แค่ทำยังไงก็ได้ให้บอลจมสู่ก้นตาข่ายของฝ่ายตรงข้ามให้ได้มากที่สุดก็เท่านั้น

    คริสตอฟ ปิออนเท็ค กำลังจะเปลี่ยนไปสวมเสื้อเบอร์ 9 ให้กับ เอซี มิลาน ในฤดูกาลหน้า

    แต่...

    มันน่าสนใจตรงที่ว่าเขาจะสามารถทำลายอาถรรพ์ได้หรือไม่

    ???

    หัวหอกทีมชาติโปแลนด์ได้รับเสื้อเบอร์ 9 ของทัพรอสโซเนรี่ในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้

    อย่างที่ทราบ ดาวยิงเลือดโปลย้ายมาร่วมถิ่นซาน ซิโร่ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังแจ้งเกิดขึ้นมาในระยะเวลาสั้นๆ กับ เจนัว แต่ปีศาจแดงดำก็รู้สึกว่าเขาควรที่จะพิสูจน์ตัวเองให้ได้ก่อนที่จะรับหมายเลขของดาวยิงอันทรงเกียรตินี้ไปสวมใส่

    มันเป็นไปได้ด้วยดี หลังจากใช้เวลาที่ซาน ซิโร่ เพียง 6 เดือน เขาก็ยิงไป 11 ประตูในทุกรายการให้กับพลพรรครอสโซเนรี่

    แต่มันไม่ใช่เพียงแค่จำนวนประตูเท่านั้นที่เขาได้สร้างความประทับใจให้กับเหล่าแฟนๆ มิลาน

    เขาเป็นคนที่มีออร่าอยู่รอบตัว แพสชั่น และความภาคภูมิใจของเขานั้นทำให้ความสัมพันธ์กับบรรดากองเชียร์เติบโตไปอย่างรวดเร็ว และเหล่าสาวกปีศาจแดงดำก็รู้สึกว่าทีมนี้เหมาะกับเขาจริงๆ

    มิลาน มีทีมที่ดีอยู่แล้ว ก่อนที่ยุคใหม่ภายใต้การคุมทัพของ มาร์โก จามเปาโล จะมาถึง เขาเข้ามาแทนที่ เจนนาโร่ กัตตูโซ่ ที่ตัดสินใจยื่นซองขาวหลังจบฤดูกาลที่ผ่านมา เมื่อไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายของสโมสรในตำแหน่งท็อปโฟร์

    แต่การที่ในซีซั่นหน้านี้ พวกเขาจะไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไกลไปเล่นในยูโรปา ลีก ทำให้ มิลาน จะมีสมาธิกับการบู๊เพื่อโอกาสคว้าท็อปโฟร์ในปี 2019-20 อย่างเต็มที่

    ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ปิออเท็ค คือหนึ่งในผู้นำของทีมยุคใหม่นี้ ดังนั้นการที่เขาจะได้รับเกียรติจากหมายเลข 9 ก็เป็นอะไรที่เหมาะสมแล้ว

    แต่หนึ่งในสิ่งที่หลายคนกลัวก็คือเรื่องของ 'อาถรรพ์' เบอร์นี้มันเต็มไปด้วยความรับผิดชอบมากมายต่อบรรดาแฟนๆ และสโมสร ซึ่งไม่ต่างจาก 'คำสาป' เบอร์ 7 ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด

    นับตั้งแต่หมดยุคของ ฟิลิปโป้ อินซากี้ ไปในปี 2012 มีนักเตะถึง 8 คนที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาจับจองหมายเลขนี้

    ชื่อของ อเล็กซานเดร ปาโต้, มัตเตีย เดสโตร, เฟร์นานโด ตอร์เรส และ กอนซาโล่ อีกวาอิน อยู่ในกลุ่มนั้น และช่างน่าตกใจที่สถิติบ่งบอกว่า 143 เกมที่ทั้ง 8 คนนั้นลงเล่นรวมกัน มีประตูเกิดขึ้นเพียง 25 ลูกเท่านั้น โดยค่าเฉลี่ยตกอยู่ที่ 0.17 ประตูต่อเกม

    นั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณคาดหวังแน่ๆ สำหรับดาวยิงเบอร์ 9 ของทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป

    ฤดูกาลก่อน หลังย้ายจาก เจนัว มายัง มิลาน ปิออนเท็ค ก็แจ้งเกิดได้กับปีศาจแดงดำในทันที เมื่อเขาทำ 2 ประตูในเกมประเดิมตัวจริงของศึกโคปปา อิตาเลีย ที่เผชิญหน้ากับ นาโปลี และกองหลังที่ได้รับคำชมว่าแข็งแกร่งที่สุดอย่าง กาลิดู กูลิบาลี่

    จากนั้นเขาก็มีสกอร์ติดตัวในเกมพบ โรม่า, กายารี่, เอ็มโปลี และ อตาลันต้า จนกระทั่งจบซีซั่นด้วยการเป็นดาวซัลโวอันดับ 3 ในเวทีเซเรีย อา รองจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ดูวาน ซาปาต้า

    ขณะเดียวกัน เขาก็รั้งตำแหน่งดาวซัลโวประจำฤดูกาล 2018-19 ของทั้ง เจนัว และ มิลาน อีกด้วย

    เดิมทีแล้ว หมายเลข 9 ก่อนหน้ายุคของ อินซากี้ นั้นจะสงวนสิทธิ์ไว้ให้กับพวกมากความสามารถอย่าง พาทริก ไคลเวิร์ต, โรแบร์โต้ บาจโจ้ หรือจะเป็นพวกตำนานอาทิ จอร์จ เวอาห์ และ มาร์โก แวน บาสเท่น

    แม้ที่ผ่านมาเกือบ 10 ปี เบอร์ 9 ของรอสโซเนรี่จะเต็มไปด้วยอาถรรพ์ของความล้มเหลวมากมาย

    แต่ ปิออนเท็ค อาจเป็นคนที่ทำลาย 'อาถรรพ์' เหล่านั้นให้จบสิ้นไปเสียที

    พาสต้า