อย่าบ่น...วีเออาร์
กระแสที่ใครหลายคนต่างพูดถึงก็คงไม่พ้นโอกาสชวดขึ้นจ่าฝูงของ แมนฯ ยูไนเต็ด หรือไม่ก็ ปอล ป็อกบา แย่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงจุดโทษจนลุกลามไปถึงเรื่อยเหยียดผิว และที่ขาดหนีไปไม่ได้เลยก็คือ วีเออาร์ สุดกระชากอารมณ์
ทีมที่ชอบช้ำจนอยากซดน้ำใบบัวบกเป็นโอ่งคงไม่พ้น แมนฯ ซิตี้ ที่โดนโจทก์อย่าง สเปอร์ส เล่นงานอีกครั้ง
จะบอกว่า ท็อตแน่ม เลยก็ไม่น่าพูดได้เต็มปาก ต้องบอกว่า วีเออาร์ มากกว่าที่พรากรอยยิ้มไปจากทีมเรือใบในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่งมันเหมือนกับเดจาวูในแชมเปี้ยนส์ลีกที่ทั้งสองทีมพบกันเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คงรู้ซึ้งถึงเรื่องนั้นเป็นอย่างดี
มันยากสำหรับแฟนบอลที่จะยอมรับเรื่องดังกล่าวได้เป็นเอกฉันท์
แม้ว่าเราจะรู้ถึงกฎใหม่ของการแฮนด์บอลกันแบบสากลแล้วก็ตาม
หลังจบแมตช์เดย์ที่ผ่านมาในพรีเมียร์ลีก เราได้เห็นทั้ง วูล์ฟส์ และ แมนฯ ซิตี้ ถูกบอกปัด 3 คะแนนครั้งใหญ่ หลังการทำงานของ วีเออาร์ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนข้อถกเถียงดังกล่าวอยู่ในกรณีเดียวกันคือการที่ลูกบอลสัมผัสแขนนักเตะ
เลอันเดร เดนดองเกอร์ คงคิดว่าเขาเหมือนคนแพ้ให้กับ เลสเตอร์ ที่รอดตัวจากการเสียประตู เนื่องจากบอลเจ้ากรรมดันไปกระเด้งสัมผัสแขนของ วิลลี่ โบลี่ ก่อนที่จะมาเข้าทางมิดฟิลด์เบลเยียมซัลโวเข้าประตูไป
อีกแค่สัปดาห์ถัดมา ทัพเรือใบก็โดนริบประตูชัยในช่วงทดเจ็บ ทำให้ไก่เดือยทองกลับสต็อคลี่ย์ พาร์ค ราวผู้ชนะ
สีหน้าของ กาเบรียล เชซุส เหมือนเด็กน้อยเตรียมร้องไห้ หลังได้เห็นลูกบอลที่เขาซัดด้วยขวาตุงตาข่ายแฉลบแขนของ เอมเมอริก ลาปอร์ตก์ มาก่อน
แต่สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนจาก 2 กรณีนี้ก็คือไม่มีนักเตะคนไหนพยายามจะประท้วงเลย!!!
ไม่มีผู้เล่นจากทั้ง เลสเตอร์ หรือ สเปอร์ส ที่เข้าไปฟ้องผู้ตัดสินว่านั่นคือลูกแฮนด์บอล
นั่นก็เพราะหากเป็นฤดูกาลอื่นๆ ก่อนหน้า 'แฮนด์บอล' ในลักษณะนี้ต่างถูกยอมรับว่าเป็นประตูโดยใสสะอาด ซึ่งเป็นผลมาจากความเร็วที่ค่อนข้างสูง และจังหวะของเกมกีฬา
หากเป็นสถานการณ์จริง มันคงยากนะ ที่ใครจะคิดว่าจังหวะแบบนี้มีแฮนด์บอลเกิดขึ้น
ทว่าด้วยกฎใหม่ที่ฝ่ายสูงได้ร่างขึ้นมาก็คือไม่ว่าเหตุการณ์นั้นที่เกิดขึ้นจากลูกแฮนด์บอลแบบใด (ไม่ว่าจะเล็กน้อย หรือไม่ได้ตั้งใจ) มันจะเป็นการฟาวล์ในทันที
นั่นคือกฎ และแม้คุณอยากประท้วงใจจะขาดแค่ไหน แต่ใครล่ะที่สามารถพูดได้เต็มปากว่า "เราไม่สมควรถูกบทลงโทษแบบนี้?"
กับโลกปัจจุบัน ความนิยมของฟุตบอลได้กลายเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งรวมหมดทั้งในแง่ของ 'เงิน' และ 'อารมณ์'
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าบางครั้ง ความซีเรียสในเกมการแข่งขันอันสวยงามได้ก่อให้เกิดผลพลอยได้ที่ไม่มีใครต้องการ
แนวคิดเรื่องชาติพันธุ์, การล้มบอล, กาเหยียดผิว...สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมกับความรุ่งโรจน์ทั้งหมดของฟุตบอล หรือคุณจะปฏิเสธว่ามันไม่จริง
ขณะเดียวกัน ความผิดพลาดของผู้ตัดสินก็คืออีกหนึ่งหัวข้อใหญ่ที่วงการกีฬาได้พยายามขจัดออกไปในไม่กี่ปีที่ผ่านมา
สังเกตุง่ายๆ ไม่ต้องมองที่ไหนไกล เอาแค่บ้านเรา ผู้ตัดสินทุกกีฬาจะได้รับความเคารพจากทุกทีม (รักบี้, คริกเก็ต, ฮ็อคกี้ เป็นต้น) ซึ่งนั่นต่างจากฟุตบอลอย่างลิบลับ
ตัวอย่างชัดเจนก็คือเสียงด่าทอที่ไม่รู้จักจบของแฟนๆ, เหล่ากูรู, โค้ช และเจ้าของสโมสร
ในขณะที่แวดวงลูกหนังเติบโตขึ้นไม่รู้จักหยุด เราคาดหวังกันว่าผู้ตัดสินจะไม่ก่อความผิดพลาด และรับผิดชอบต่อการเดิมพัน (พนัน) ที่ค่อนข้างสูง
บางกรณีผู้ตัดสินถูกตำหนิเรื่องความผิดพลาดจนส่งผลถึงถ้วยรางวัล หรือกระทั่งการตกชั้นอย่างไม่ควรจะเป็น
ดังนั้น วีเออาร์ จึงก้าวเข้ามาพร้อมกับตีความเรื่องการตัดสินใหม่อย่างน่าเชื่อถือ และวัตถุประสงค์หลักก็คือความเป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย
ผลที่ได้รับกลับมาก็คือ การนำพาอารมณ์ร่วมให้หายไปจากเหล่าคนเสพลูกหนังทั้งใจจริง และเฉพาะกิจ
แต่คุณเองก็ต้องวกกลับมาคิด และทำความเข้าใจด้วยว่าทำไมสิ่งนี้จึงกำเนิดขึ้น
บางคนเคยตะโกนใส่ไลน์แมน (ไอ้...ม่...ย็ด / ไอ้สั..ว์ / พ่...มึ...ตา...) ถึงจังหวะการยกธงล้ำหน้า หรือการตัดสินระยะใกล้
เหล่าทีมงานร่างกฎ และผู้ตัดสินได้สนองความต้องการให้คุณแล้วนี่ไง
หากคุณคิดให้ดี นี่คือสิ่งที่พวกเราทุกคนร่วมกันสร้างให้เกิดขึ้นเอง ฉะนั้นคุณจะมาบ่นทีหลังคงไม่ได้
พาสต้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT