เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด

    ไม่มีใครรู้ได้ว่ากระแสครั้งนี้เป็นการสร้างภาพเพื่อยอดขายหนังสือของอดีตหัวหอก ลิเวอร์พูล, เรอัล มาดริด, นิวคาสเซิ่ล, แมนฯ ยูไนเต็ด และ สโต๊ค รึเปล่า

    แต่ที่แน่ๆ ก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยเป็นเพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษด้วยกัน เป็นเพื่อนร่วมสโมสรสาลิกาดงด้วยกัน

    ทว่าจากมิตรในวันนั้น กลับกลายเป็นศัตรูในวันนี้

    เรามาย้อนอดีตกันดูหน่อยดีกว่าโลกฟุตบอลของเราเคยมีเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดคู่ไหนเป็นที่จดจำกันบ้าง

ลี โบว์เยอร์ vs คีรอน ดายเออร์ (2005)

    เริ่มต้นกับคู่ที่เรียกได้ว่าคลาสสิกตลอดกาล หนึ่งในต้นแบบของเพื่้อนรักหักเหลี่ยมโหด

    ลี โบว์เยอร์ และ คีรอน ดายเออร์ มีปากเสียงก่อนยื้อยุดฉุดเสื้อแถมมีการสาวหมัดด้วยในขณะที่เล่นให้ นิวคาาสเซิ่ล ในเกมพรีเมียร์ลีกที่พบ แอสตัน วิลล่า

    ทั้งสองโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ก่อนที่จะปรากฎตัวในห้องแถลงข่าวอีกวันถัดมาพร้อมกับกุนซือ แกรม ซูเนสส์ ซึ่งกล่าวในเวลานั้นว่าตนเองไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนในสนามฟุตบอล

โธมัส กราเวอร์เซ่น vs โรบินโญ่ (2006)

    นี่เป็นอีกหนึ่งคู่หูเพื่อนร่วมทีมที่มีปัญหากันเองแบบที่ทั่วโลกรับรู้ และ โรบินโญ่ ก็โชคดีมากที่ออกจากสนามซ้อมของ เรอัล มาดริด ในแบบที่ยังมีลมหายใจ

    โธมัส กราเวอร์เซ่น เกิดปะทะกับ โรบินโญ่ ในการซ้อมช่วงปรีซีซั่นที่ประเทศออสเตรีย และความป่าเถื่อนทั้งหมดก็หลุดออกมาจากตัวมิดฟิลด์ชาวเดนมาร์ก

    ดาวเตะโคนมต้องถูกดึงไว้โดยเพื่อนร่วมทีมก่อนที่เขาจะปล่อยหมัดใส่แข้งบราซิเลี่ยน

จอห์น ฮาร์ทสัน vs เอยัล เบอร์โควิช (1998)

    เราต้องย้อนเวลากลับไปในช่วงทศวรรษ 1990 ซึ่งก็มีอีกหนึ่งคู่ที่ใครหลายคนไม่เคยรู้

    จอห์น ฮาร์ทสัน เตะใส่หัวของ เอยัล เบอร์โควิช อย่างสุดช็อกในคลิปการซ้อมที่ถูกปล่อยออกมาในยุคของพรีเมียร์ลีก

    "ผมได้สร้างความลำบากใจอย่างมากต่อครอบครัว ผมรู้สึกละอายใจจริงๆ" ฮาร์ทสัน กล่าวผ่าน บีบีซี สปอร์ต ในปี 2014 ซึ่งก็ยอมรับว่านั่นคือสิ่งที่เขาเสียใจมากที่สุดในอาชีพค้าแข้ง

เดวิด แบ็ตตี้ vs แกรม เลอ โซ (1995)

    ยังคงอยู่ในยุค 90 เชื่อว่าใครหลายคนยังจำเหตุการณ์ที่ แกรม เลอ โซ ปล่อยหมัดใส่ เดวิด แบ็ตตี้ ได้ระหว่างเกมแชมเปี้ยนส์ลีกที่ แบล็คเบิร์น พบ สปาร์ตัก มอสโก

    แต่ แบ็ตตี้ ก็โชว์ความแข็งแกร่งด้วยการเดินหน้าเข้าใส่ ขณะที่ เลอ โซ นั้นได้แต่ถอยหลังอย่างเดียว ซึ่งนั่นทำให้เรื่องนี้น่าตกใจไปอีกเมื่อเรามองย้อนกลับไป

อลัน เชียร์เรอร์ vs คีธ จิลเลสพี (1997)

    นี่คือคำอธิบายจากปากของ คีธ จิลเลสพี กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    "เราอยู่ในช่วงเบรกกลางซีซั่น และผมก็ดูจะเคาะแก้วบนโต๊ะแบบไม่ได้คิดอะไร"

    "เชียร์เรอร์ มองดูก่อนพูดว่า 'จะเก็บมันป่ะ' และผมก็ไม่ได้ชอบวิธีที่เขาพูดกับผมสักเท่าไหร่"

    "ผมแค่มองไปรอบๆ แล้วพูดว่า 'ได้ งั้นข้างนอก ตอนนี้เลย!' และเขาก็รับคำท้านั้นทันที"

    "ผมไม่คิดว่าเขาจะทำนะ เราลงเอยด้วยการออกไปข้างนอก และผมก็ได้แต่แกว่งหมัดไปมาโดยที่ไม่โดนอะไร จากนั้นเขาก็หวดผม และผมก็ราตรีสวัสดิ์ไปเลย"

เจอร์เมน เบ็คฟอร์ด vs เอียน ดอยล์ (2016)

    เคสนี้คล้ายกับกรณีของ โบว์เยอร์ กับ ดายเออร์ เลย โดยเพื่อนร่วมทีม เปรสตัน อย่าง เจอร์เมน เบ็คฟอร์ด และ เอียน ดอยล์ ต่างถูกไล่ออกทั้งคู่ในเดือนธันวาคม ปี 2016 หลังจากที่หวดกันเองระหว่างเกมที่พบกับ เชฟฯ เว้นส์เดย์ ที่ฮิลล์สโบโร่

เคร็ก เบลลามี่ vs ยอห์น อาร์เน รีเซ่ (2007)

    คุณอาจเคยได้ยินเรื่องราวอันโด่งดังนี้มาแล้ว

    ยอห์น อาร์เน รีเซ่ ปฏิเสธที่จะร่วมร้องคาราโอเกะในช่วงเข้าแคมป์เก็บตัวที่โปรตุเกสก่อนเกมแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่ง ลิเวอร์พูล มีคิวปะทะ บาร์เซโลน่า

    เขากลับมาที่ห้อง ซึ่ง เคร็ก เบลลามี่ ที่โกรธมากได้เข้ามา และเข้าโจมตีแข้งนอร์เวย์ด้วยไม้กอล์ฟ

    จากนั้น เบลลามี่ ก็ยิงประตูได้ในเกมพบ บาร์ซ่า และเขาก็ทำท่าดีใจด้วยการโชว์วงสวิงหวดลูกกอล์ฟ

เนย์มาร์ vs เนลซอน เซเมโด้ (2017)

    เนย์มาร์ เข้าร่วมการฝึกซ้อม และมีปัญหากับ เนลซอน เซเมโด้ เพียงสัปดาห์เดียวก่อนที่เขาจะย้ายไปยัง ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง

    ยังดีที่กองหน้าบราซิเลี่ยนถูกฉุดรั้งไว้โดย เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ก่อนที่เขาจะออกจากสนามซ้อมในไมอามี่ไปแบบไม่สบอารมณ์

คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ vs อันเดรีย ราจจี้ (2017)

    แม้คุณจะมีบุคลิกที่สุภาพอ่อนโยน แต่คุณก็สามารถปลดปล่อยด้านมืดใส่เพื่อนร่วมทีมได้

    คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ถูกไล่ออกจากสนามซ้อมกลับบ้านในปี 2017 หลังจากเขามีปัญหากับ อันเดรีย ราจจี้

    สุดท้ายก็เหมือนกับ เนย์มาร์ หัวหอกเฟร้นช์แมนจบด้วยการย้ายซบ เปแอสเช หลังจากนั้น

อุสมาน เดมเบเล่ vs โรมัน เบือร์กี้ (2017)

    ซัมเมอร์ 2017 คงเป็นปีที่เหล่าดาวรุ่งซึ่งอยากย้ายทีมต้องก่อปัญหามีเรื่องมีราวกับเพื่อนร่วมทีมตัวเอง

    อุสมาน เดมเบเล่ และ โรมัน เบือร์กี้ มีปากเสียงกันในสนามซ้อมซึ่งถูกจับภาพไว้ได้ และอีกสัปดาห์ถัดมา ดาวรุ่งเมืองน้ำหอมก็ย้ายไป บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัวมหาศาล

นาบี เกอิต้า vs ดีเอโก้ เดมเม่ (2017)

    สนามซ้อม บางทีมันก็อาจกลายเป็นสมรภูมิเดือดยิ่งกว่าเกมการแข่งขันจริงก็ได้

    นาบี เกอิต้า พยายามเลี้ยงบอลแล้วโดนเข้าปะทะจาก ดีเอโก้ เดมเม่ ซึ่งทำให้มิดฟิลด์ ลิเวอร์พูล คนปัจจุบันถึงขั้นยืนเซ็งพักใหญ่เลยทีเดียว

    จังหวะถัดมา เกอิต้า จัดการเอาคืน เมื่อเห็น เดมเม่ เข้ามาใกล้ๆ เลยจัดการล้มตัวเสียบมันเข้าให้ซะเลย จน เดมเม่ ต้องกุมเข่าลงไปกองอยู่ที่พื้น

    ทว่าอีกหลายวันถัดมา ทั้งสองก็โพสต์รูปถ่าย และอัดคลิปวีดิโอด้วยการจับมือกันแสดงความเป็นเพื่อนเหมือนเดิม

มักซี่ โลเปซ vs เมาโร อีการ์ดี้ (2016)

    ทั้งสองเคยเป็นเพื่อนซี้กันที่ ซามพ์โดเรีย แต่ความสัมพันธ์ก็สะบั้นลง หลังจาก เมาโร อีการ์ดี้ ไปสอย วานด้า นาร่า อดีตภรรยาของ มักซี่ โลเปซ จนถึงขั้นแต่งงานในปัจจุบัน

    เมื่อทั้งสองต้องเผชิญหน้ากันระหว่างเกมเซเรีย อา ที่ อินเตอร์ พบ โตริโน่ ในปี 2016 โลเปซ จึงไม่ยอมจับมือ อีการ์ดี้ ก่อนเกมด้วยการเดินผ่านไปเหมือนหัวหอกงูใหญ่เป็นสูญญากาศ

วิลฟรีด ซาฮา vs ราเวล มอร์ริสัน (2013)

    ในเกมที่ทีมชาติอังกฤษชุดยู-21 เอาชนะ ลิทัวเนีย 5-0 วิลฟรีด ซาฮา และ ราเวล มอร์ริสัน มีปากเสียงจนออกไม้ออกมือผลักอกกัน

    ซาฮา รู้สึกว่า มอร์ริสัน ไม่อยากจ่ายบอลให้เขา ร้อนถึงบรรดาเพื่อนร่วมทีมต้องพากันห้ามทัพ

    ถึงเวลานี้ ทั้งสองจบเรื่องนั้นด้วยเส้นบนโลกลูกหนังที่ต่างกันลิบลับเลย

เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ vs นิคลาส เบนท์เนอร์ (2008)

    ในเกมที่ อาร์เซน่อล แพ้ให้กับคู่ปรับอย่าง สเปอร์ส 1-4 ทั้ง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และ นิคลาส เบนท์เนอร์ เริ่มมีเรื่องกัน

    เบนท์เนอร์ เดินออกมาด้วยการมีเลือดออกตรงจมูก

    "ที่ อาร์เซน่อล เรามีกฎที่ว่าห้ามไม่ให้ใครใส่รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าแตะเข้าห้องแต่งตัว ผมไม่เข้าใจว่าทำไม เบนท์เนอร์ ถึงได้ใส่มันอยู่ทุกวัน" อเดบายอร์ กล่าวผ่านเทเลกราฟ

    ดังนั้น หัวหอกโตโกก็เลยถามดาวเตะเดนมาร์กตรงๆ ว่า "เฮ้ย! นิคลาส มึงเป็นนักฟุตบอล กูก็นักบอล บางทีกูอาจเก่งกว่ามึง หรือมึงอาจเก่งกว่ากู แต่มึงควรให้เกียรติคนอื่นหน่อยนะ มันมีกฎอยู่ว่าทุกคนไม่สามารถเข้าห้องแต่งตัวได้โดยใส่รองเท้าเตะหรอกนะ มึงถอดมันซะ"

    ตามที่ อเดบายอร์ บอก เบนท์เนอร์ ไม่เคยถอดมันออก และสิ่งต่างๆ ก็เริ่มจากจุดนั้น "ผมไม่สามารถยอมรับสิ่งนั้นได้ แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ที่ ซิตี้ ก็ตาม ผมก็พร้อมที่จะต่อสู้กับมัน"

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช - โอกูชี่ ออนเยวู (2010)

    ถ้าคุณไม่กล้าหาญก็คงเป็นคนโง่มากที่ไปมีเรื่องกับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่มีดีกรีเทควันโด้สายดำติดตัวมาตั้งแต่เด็ก

    โอกูชี่ ออนเยวู อดีตกองหลัง เชฟฯ เว้นส์เดย์ และ ชาร์ลตัน คือใครคนนั้นที่อยากลองของกับ ซลาตัน ในขณะร่วมชายคาที่ เอซี มิลาน เมื่อปี 2010

    "ผมเฮดบัตต์ใส่เขา และเราทั้งคู่ก็โถมเข้าหากัน" หัวหอกสวีดิชเคยเขียนไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติของเขา

    "ต่างฝ่ายต่างอยากฉีกอีกฝ่ายออกเป็นชิ้นๆ มันเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดมาก เราต่างกลิ้งไปมา และก็ปล่อยทั้งหมัดกับเข่าใส่กัน ตอนนั้นเราควบคุมตัวเองกันไม่อยู่แล้ว เหมือนว่าเราจะเอากันให้ตายไปข้างเลย"