อย่าดูถูกแชมเปี้ยนชิพ

    'แชมเปี้ยนชิพ'

    ย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอริช สร้างสตอรี่อันน่าเหลือเชื่อด้วยการเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งกลายเป็นเรื่องโด่งดังทั่วโลกมาแล้วในช่วงออกสตาร์ทปี 2019-20

    บรรดาสตาร์ดังในลีกระดับสองของเมืองผู้ดี เมื่อฤดูกาลที่แล้วกำลังฉายแสงบนลีกสูงสุดในซีซั่นนี้

    ตีมู พุกกี้ คือตัวอย่างชั้นดี

    หัวหอกทีมชาติฟินแลนด์วัย 29 ปีเซ็นสัญญาแบบไร้ค่าตัวกับนกขมิ้นเหลืองอ่อนในปี 2018 หลังจากแวะเติมพลังกับ บรอนด์บี้ ซึ่งก่อนหน้านั้นไปตายสนิทกับ เซลติก

    คำถามมากมายถาโถมเข้าใส่ นอริช ถึงการเซ็นสัญญาครั้งนั้น แต่ พุกกี้ ให้ตอบโต้ถึงการตัดสินใจได้มากกว่าเป็น 10 เท่า ด้วยการยิงไป 29 ประตู ช่วยให้นกขมิ้นเหลืองอ่อนคว้าแชมป์ลีกรองได้สำเร็จ

    เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของซีซั่นในแชมเปี้ยนชิพปี 2018-19 ยังได้ต่อยอดความร้อนแรงมายังลีกสูงสุด เมื่อยิงไป 6 ประตู จาก 6 เกม

    นอกจากนี้ เหล่าเพื่อนร่วมทีมของเขาอย่าง ท็อดด์ แคนท์เวลล์ และ เอมิเลียโน่ บวนเดีย ก็ให้ความบันเทิงเริงใจแก่แฟนบอลด้วยเช่นกัน

    เจ้าหนูทีมชาติอังกฤษชุดยู-21 ยิงไป 2 ประตู และทำอีก 2 แอสซิสต์ ขณะที่แข้งพรสวรรค์ชาวอาร์เจนไตน์นั้นมีสถิติแอสซิสต์เป็นรองเพียง เควิน เดอ บรอยน์ เท่านั้นในลีก

    แล้วยังมี เชลซี อีกทีม

    แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่เปิดตัวในฐานะผู้จัดการทีมในลีกสูงสุดกำลังติดอกติดใจกับสองดาวเตะที่รั้งดาวซัลโวสูงสุดของ เชลซี

    แทมมี่ อบราฮัม และ เมสัน เมาท์ กำลังเปลี่ยนจากพระรองกลายเป็นพระเอกจากฟอร์มอันร้อนแรงในสีเสื้อสิงห์บลูส์

    หัวหอกหมายเลข 9 ของ เชลซี ยิงไป 25 ประตู ในแชมเปี้ยนชิพฤดูกาลที่แล้วให้กับ แอสตัน วิลล่า จนมีส่วนสำคัญในการรีเทิร์นสู่พรีเมียร์ลีกของสิงห์ผงาด

    ตอนนี้เขาอยู่ในระดับเดียวกับพวกจอมถล่มตาข่ายตัวท็อปในลีกลีกสุดเมืองผู้ดี และมีจำนวนสกอร์เป็นรอง เซร์คิโอ อเกวโร่ เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น

    สำหรับ เมาท์ ก็เป็นนักเตะที่ดีที่สุดของ ดาร์บี้ ในฤดูกาล 2018-19

    ด้วยผลงานเตะตาของมิดฟิลด์วัย 20 ปีในช่วงออกสตาร์ทซีซั่นนี้ทำให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ไม่ลังเลที่จะชักชวนให้เขาเข้ามาเป็นสมาชิกของทีมชาติอังกฤษในช่วงคัดยูโร 2 เกมที่ผ่านมา

    ทั้ง เมาท์ และ แลมพาร์ด ได้จูงมือกันจากถิ่นไพรด์ พาร์ค มายังสแตมฟอร์ด บริดจ์ และตอนนี้ความเข้าใจของทั้งคู่ได้แปรเปลี่ยนเป็นมาตรฐานที่สูงขึ้น

    แดเนียล เจมส์ ก็เป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งที่น่าจับตามองกับทีมกลางตารางในแชมเปี้ยนชิพอย่าง สวอนซี แต่เขากลับกลายเป็นแนวรุกที่น่าตื่นเต้นมากที่สุดกับทีมชื่อเสียงกระฉ่อนโลกอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด

    จำนวนประตูของตัวรุกทีมชาติเวลส์เป็นหลักฐานชั้นดีว่าทัพผีแดงในเวลานี้จะขาดดาวรุ่งมากพรสวรรค์จากแชมเปี้ยนชิพรายนี้ไปไม่ได้แล้ว

    พุกกี้, บวนเดีย, อบราฮัม, เมาท์, เจมส์ คือลิสต์รายชื่อนักเตะที่ดีที่สุดของแชมเปี้ยนชิพในปี 2018-19 และก็มีแนวโน้มที่จะเป็นแบบนั้นในพรีเมียร์ลีกซีซั่น 2019-20 ด้วย

    นั่นยังไม่นับรวมถึงความประทับใจที่เราได้เห็นจาก โอลิเวอร์ นอร์วู้ด, จอห์น แม็คจินน์, ไทโรน มิงก์ส, แฮร์รี่ วิลสัน, นีล โมเปย์ และ อดัม เว็บสเตอร์ อีก

    ถึงตรงนี้เราจะสรุปว่าการแข่งขันในเวทีแชมเปี้ยนชิพนั้นขยับเข้าใกล้มาตรฐานในพรีเมียร์ลีกแล้วหรือไม่

    ???

    มันก็แล้วแต่ว่าคุณจะเลือกมองอย่างไร

    ทั้ง 3 ทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาในปีนี้ต่างก็มีช่วงเวลาของพวกเขา แม้ นอริช (16) และ แอสตัน วิลล่า (18) จะอยู่ในโซนครึ่งล่างของตาราง แต่ เชฟฯ ยูไนเต็ด (8) ก็ทะลุขึ้นมาเกาะกลุ่มบน

    ทว่าก็ยังไม่มีสโมสรใดที่เสียประตูมากกว่าทีมของ ดาเนียล ฟาร์เค่ ขณะที่ทีมของ ดีน สมิธ ทำประตูได้น้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีกขณะนี้

    กระนั้น ในแง่ของคุณภาพนั้นพวกเขาดูไม่ต่างจากอีก 10 ทีมล่างในพรีเมียร์ลีก และท็อปซิกซ์จากแชมเปี้ยนชิพ

    ยังมีอีกข้อเท็จจริงที่ว่านักเตะอย่าง อบราฮัม, เมาท์ และ เจมส์ นั้นดูจะยอดเยี่ยมสำหรับสโมสรในกลุ่ม 'บิ๊กซิกซ์' ที่เห็นถึงคุณค่าของแข้งที่มาจากลีกรอง

    วูล์ฟส์ ในปีนี้อาจมีเป๋ๆ ไปบ้าง แต่พวกเขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาก็สามารถประสบความสำเร็จได้

    อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกัน ฟูแล่ม เองก็แสดงให้เห็นเหมือนกันว่าทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาด้วยความทะเยอทะยานอันสูงสุดก็สะดุดขาตัวเองจนตกท่อได้เหมือนกัน

    กับตอนนี้ มันยังเร็วเกินไปที่จะบอกถึงตำแหน่งของทั้ง นอริช, เชฟฯ ยูไนเต็ด และ แอสตัน วิลล่า ที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม แต่นกขมิ้นเหลืองอ่อนก็น่าชื่นชม ไหนจะเอกลักษณ์ในเรื่องแท็คติกของทัพดาบคู่ได้ทำให้มูลค่าในลีกนี้เพิ่มสูงขึ้นไป

    สภาพแวดล้อมในเรื่องของนักเตะจากแชมเปี้ยนชิพแบบนี้ทำให้เป็นจการลดภาระค่าใช้จ่ายในพรีเมียร์ลีก และทำให้ลีกระดับสองของเมืองผู้ดีกลายเป็นลีกรองระดับมาตรฐาน และยอดเยี่ยมที่สุดในโลก

    พวกเด็กๆ เหล่านั้นจากแชมเปี้ยนชิพกำลังพิสูจน์ให้พวกคุณทุกคนได้เห็นแล้ว

    พาสต้า