หน้าหนาวอันเร่าร้อน
ผมเคยนั่งบ่นกับเพื่อน ซึ่งแต่ละคนก็คลุกคลีกับวงการลูกหนังอย่างเต็มขั้นว่า "อาทิตย์นี้ไม่มีลิเวอร์พูลเตะว่ะ แล้วชีวิตกูจะดำเนินไปยังไงวะเนี่ย?"
เสียงตอบรับเสียงหนึ่งตอบกลับมาอย่างไว
"มึงอย่าเวอร์ เดี๋ยวกูตบหัวทิ่ม"
ก็จริงครับ มันอาจดูโอเวอร์แอ็คติ้งอลังการไปเสียหน่อย ทว่าความรู้สึกมันก็เป็นแบบนั้นเลยแหละ
ถึงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะไม่มีหงส์แดงยลโฉมในสนาม แต่เรื่องดีๆ มันก็มี เพราะบรรดานักเตะที่บาดเจ็บ หายหน้าหายตาไปนั้นใกล้คัมแบ็กกลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้งแล้ว โดยเฉพาะหน้าบ้านที่คงอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาช่วงคริสต์มาสพอดี
แม้แนวรับจะเป็นปัญหาที่หลายคนชี้เป้าว่าเป็นส่วนที่ทำให้หงส์บินไม่สูง แต่เกมรุกที่ยิงได้น้อยก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้พวกเขาเก็บได้เพียง 19 แต้ม จาก 11 นัดแรก
สำหรับบอลถ้วย ในแชมเปี้ยนส์ลีกยังอยู่ในเส้นทางที่ดี เมื่อผลชนะ 2 เสมอ 2 ส่งทีมให้รั้งจ่าฝูงอยู่ได้ แต่ควาย เอ๊ย! คาราบาว คัพ นั้นจอดป้ายเพราะ เลสเตอร์ ไปแล้ว
ย้อนกลับไปช่วงเวลาเดียวกันนี้ของซีซั่นก่อน ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ นำเป็นจ่าฝูงของลีก และยิงได้ถึง 30 ประตู
ทว่าตอนนั้น หน้าบ้านแต่ละคนอยู่กันครบ เมื่อเทียบกับชั่วโมงนี้ต่างกันเยอะทีเดียวเพราะกำลังสำคัญผลัดเปลี่ยนกันหายเข้าโรงหมอเกือบตลอด
ไม่ต้องไปมองไกลถึงคริสต์มาส เพราะช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ ลิเวอร์พูลก็มีโปรแกรมหนักถึง 8 นัดในพรีเมียร์ลีก
ขณะเดียวกันยังต้องเจอศึกหนักในการไปเยือน เซบีย่า และเปิดบ้านพบ สปาร์ตัก มอสโก ในบอลยุโรป
นับหลังพ้นเกมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ไป หงส์แดงจะมีถึง 10 เกมในระยะเวลาเพียง 35 วัน ซึ่งนี่จะเป็นบททดสอบทีมของ เจเค เป็นอย่างดี
หลายคนรู้ว่าหลังบ้านเรามีปัญหามากแค่ไหน แต่หากเรามีประสิทธิภาพในการพังประตูมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ มันก็อาจจะยังพอช่วงถูไถไปได้
ลิเวอร์พูลแสดงให้เห็นไปแล้วในเกมกับ เวสต์แฮม ที่ 3 แนวรุกตัวเลือกแรกทั้ง ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ลงเล่นพร้อมกัน
พวกเขาดูร่วมงานกันอย่างสมดุลย์ ขณะที่ตัวริมเส้นก็มีความเร็วเป็นอาวุธ แถมได้การสร้างสรรค์ที่ดีจาก ฟีร์มีโน่
การที่ มาเน่ หายเจ็บกลับมาถือว่าสำคัญอย่างยิ่ง หวังว่าข่าวที่หลุดออกมาว่าเขามีอาการเจ็บมาจากเกมทีมชาติจะไม่ได้หนักหนาอะไรนะ ไม่งั้นบรรลัยแน่
อีกจุดใหญ่เลยคือปีนี้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ลงเล่นไปแค่ 9 เกมเท่านั้นเองจากหลายสาเหตุทั้งเรื่องอาการบาดเจ็บ รวมถึงสภาพจิตใจ
หากเขาสามารถกลับมาในเกมปะทะนักบุญได้ มันคงช่วยให้ลิเวอร์พูลน่ากลัวขึ้นเยอะ เนื่องจากเขาเป็นมิดฟิลด์ที่สร้างสรรค์โอกาสเก่งที่สุดในทีมแล้ว
10 เกมอันตรายก่อนถึงคริสต์มาส
เซาธ์แฮมป์ตัน (เหย้า) 18 พ.ย.
เซบีย่า (เยือน) 21 พ.ย.
เชลซี (เหย้า) 25 พ.ย.
สโต๊ค (เยือน) 29 พ.ย.
ไบรท์ตัน (เยือน) 2 ธ.ค.
สปาร์ตัก มอสโก (เหย้า) 6 ธ.ค.
เอฟเวอร์ตัน (เหย้า) 10 ธ.ค.
เวสต์บรอมวิช (เหย้า) 3 ธ.ค.
บอร์นมัธ (เยือน) 17 ธ.ค.
อาร์เซน่อล (เยือน) 22 ธ.ค.
ส่วน อดัม ลัลลาน่า ก็หวังว่าเขาจะเร่งความฟิตกลับมาในเร็ววันนี้
ถ้าอยู่กันครบเมื่อไหร่ หงส์แดงก็จะเหมือนเครื่องยนต์ที่มีน้ำมันเต็มถัง การเล่นของกองกลางวัย 29 ปี ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงดึงตัวประกบ หรือการผ่านบอลที่พื้นที่สุดท้ายทำให้เขาเป็นคนโปรดสำหรับ คล็อปป์ อย่างมาก
แม้เขาจะไม่ดูเด่นเหมือนคนอื่นๆ รอบตัวสักเท่าไหร่ แต่การกลับมาของเขาจะเพิ่มมิติ รวมถึงสร้างความแตกต่างในทีมได้แน่ เกมกับนักบุญอาจยังเร็วเกินไป แต่ก็หวังว่าเราจะได้เห็นเขาอยู่ในทีม
ตั้งแต่เข้าสู่ปี 2017 เป็นต้นมา เราได้เห็น ลัลลาน่า, คูตินโญ่, มาเน่ และ ฟีร์มีโน่ ออกสตาร์ทตัวจริงพร้อมกันเพียง 5 นัดเท่านั้นเอง
หากได้พวกนี้กลับมาครบ รวมไปถึงกลุ่มหน้าใหม่ที่มี เชื่อว่าแนวรุกของหงส์แดงจะสั่นสะท้านคู่แข่งได้ทุกทีมอย่างแน่นอน
หลายคนคิดถึง สตีเว่น เจอร์ราร์ด เพราะตั้งแต่หมดยุคเขา เรายังไม่เคยมีมิดฟิลด์ธรรมชาติที่เล่นเกมรุกได้ดีเลย
มองมายังชุดปัจจุบัน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เอาแต่จ่ายคืนหลังจนหลายคนตั้งชื่อให้แกว่าเฮียแปะไปแล้ว
เอ็มเร่ ชาน ถ้าดีก็ดีไปเลย แต่วันไหนไม่ใช่ขึ้นมาก็จะเอาแต่ตะบี้ตะบันเลี้ยงจนอยากเรียกมาตบกบาล
รายของ จีนี่ ไวนัลดุม ค่อนข้างจะเด่น แต่ความรู้สึกมันยังกั๊กๆ ดูแล้วไม่สุดเท่าไหร่
นั่นทำให้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน อาจจะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นในเร็ววันนี้ เขาดูแข็งแกร่ง ปราดเปรียว และมั่นใจขึ้น หลังจากที่เปิดตัวได้อ่อนหัดไม่สมราคา 35 ล้านปอนด์
ส่วนกองหน้าธรรมชาติ แม้ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กับ โดมินิก โซลันกี้ จะยังไม่ค่อยได้รับโอกาสเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าช่วงจากนี้ไปจนถึงคริสต์มาสจะได้เห็นมากขึ้นแน่
นี่เรายังไม่ได้นับรวมพวก เบน วู้ดเบิร์น หรือ แดนนี่ อิงก์ส เลยนะ
นี่แหละคือเหล่าขุนพลแนวรุกของทีมที่กำลังจะกลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง
กับสถานการณ์ที่ยังไม่สามารถทำอะไรกับตลาดนักเตะได้ ทุกคนต่างรู้ดีว่าแนวรับคือหนังสยองขวัญของกองเชียร์หงส์
แต่หาก ลัลลาน่า, คูตินโญ่, ซาลาห์, มาเน่ และ ฟีร์มีโน่ อยู่ด้วยกันแล้ว
อยากโดนเท่าไหร่ก็โดนไป เดี๋ยวจะยิงคืนมากกว่าเป็นสองเท่าให้ดู
นี่แหละ คือความมันที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงหน้าหนาว
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT