เลวานดอฟสกี้ กับคำว่าดีที่สุดในโลก
ในที่สุดหัวหอกทีมชาติโปแลนด์ก็ได้กลายเป็นนักเตะเบอร์ 9 ที่ดีที่สุดในโลกอย่างแบบเดี่ยวๆ เสียที
มันก็จริงที่ว่าเขาเองก็เป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกอยู่แล้ว ทว่ากับการออกล่าเหยื่อแบบไม่มีพักของ หลุยส์ ซัวเรซ ในช่วงก่อนหน้านี้ได้ขัดขวางถึงการอ้างสิทธิ์ดังกล่าวอย่างไม่เป็นทางการ
กระนั้นในความเสื่อมโทรมเรื่องของฟอร์มการเล่น และอายุของดาวเตะทีมชาติอุรุกวัยที่เห็นได้อย่างชัดเจน แต่เมื่อมองมาที่ เลวานดอฟสกี้ นั้น เขายังดูมีชีวิตชีวากับการเป็นมือสังหารเหมือนเดิมในทีม บาเยิร์น ตอนนี้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าสมควรแล้วกับการที่เราจะมอบคำว่าโดดเด่นที่สุดให้กับเขา
อาจมีบางคนที่หยิบยกชื่ออื่นๆ อย่าง แฮร์รี่ เคน, เซร์คิโอ อเกวโร่ ... เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์
แต่เอาเข้าจริงก็ยังไม่มีใครที่แตะต้องผลงานได้เป็นชิ้นเป็นอันเท่ากับ เลวานดอฟสกี้ ในซีซั่นนี้
ดาวยิงวัย 31 ปี ทำไปแล้ว 23 ประตู (สโมสร และทีมชาติ) ในฤดูกาลนี้ ซึ่งสถิติมันน่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคุณพิจารณาว่าตอนนี้เพิ่งจะเข้าสู่ต้นเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น
เขาพังประตูได้ตลอดทุกเกมในการเล่นบุนเดสลีกาซีซั่นนี้กับทั้งหมด 14 ประตู จาก 10 เกม ซึ่งคิดค่าเฉลี่ยได้หนึ่งลูกต่อ 60 นาทีเลยทีเดียว
ทิโม แวร์เนอร์ กองหน้า ไลป์ซิก คือคู่แข่งที่ใกล้เคียงที่สุดของเขา โดยเพิ่งจะทำได้ 9 ลูกเท่านั้น เรียกได้ว่าน้อยกว่า เลวานดอฟสกี้ ตั้งเยอะ
ตอนนี้เราเพิ่งจะผ่านฤดูกาลแข่งขันจริงมาแค่ 1 ใน 4 แต่รางวัลดาวซัลโวบุนเดสลีกาสมัยที่ 5 น่าจะอยู่ไม่ไกลมือของหัวหอกเลือดโปลแล้ว
สถิติอันน่าทึ่งของ แกร์ด มุลเลอร์ เคยทำเอาไว้มากที่สุดในการลั่นไกต่อหนึ่งซีซั่นกำลังถูก เลวานดอฟสกี้ คุกคามอย่างเห็นได้ชัด
ตำนานกองหน้าทีมชาติเยอรมันยิงไปกระจุยกระจาย 40 ประตูในลีกให้ บาเยิร์น ฤดูกาล 1971-72
ในซีซั่นก่อนหน้า แม้ เลวานดอฟสกี้ จะฟอร์มดร็อปลงไปทำได้เพียงแค่ 22 ลูกเท่านั้น ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติของนักเตะตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าที่ครองความยิ่งใหญ่มาอย่างยาวนานในฟุตบอลลีก
แต่เราก็ต้องไม่ลืมว่าผลงานโดยรวมของทั้งทีม บาเยิร์น ก็ไม่ได้เป็นไปในแบบที่แฟนเสือใต้ปลาบปลื้มสักเท่าไหร่
ยิ่งปีนี้เรียกได้ว่าแย่กว่าเดิมอีก การป้องกันแชมป์บุนเดสลีกาสมัยที่ 7 ติดต่อกันของยอดทีมจากบาวาเรียนั้นกำลังยุ่งเหยิงอย่างมาก เมื่อพวกเขามีแต้มตามหลัง โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ถึง 4 คะแนน
มันอาจดูไม่เยอะ ทว่ามันก็ล่อแหลมกว่าที่คุณคิด เมื่อมองไปยัง เลเวอร์คูเซ่น ทีมอันดับ 10 ของตารางก็มีคะแนนตามหลังเสือใต้อยู่แค่ 3 แต้มเท่านั้นในขณะนี้
ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่า เลวานดอฟสกี้ ดันฉายแสงได้ในเวลาที่ บาเยิร์น ฟอร์มไม่ดียิ่งทำให้ความพยายามของเขาน่าประทับใจมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การอาละวาดของเขาก็ไม่ได้ถูกจำกัดแค่ในประเทศเท่านั้น
หัวหอกทีมชาติโปแลนด์ทำได้ถึง 5 ประตู จาก 3 นัดในแชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2019-20 นี้จากการพบ เร้ด สตาร์ เบลเกรด, โอลิมเปียกอส และ สเปอร์ส
กับผลงานในฟุตบอลยุโรปปัจจุบันนี้ทำให้เขามีสถิติแซงหน้า รุด ฟาน นิสเตลรอย อดีตกองหน้าชื่อดังชาวดัตช์ขึ้นไปรั้งดาวซัลโวสูงสุดอันดับ 5 ในประวัติศาสตร์แชมเปี้ยนส์ลีกแล้ว
กับตัวเลข 58 ประตูนั้นทำให้เขาตามหลังอันดับ 4 อย่าง คาริม เบนเซม่า ในลิสต์ดาวยิงตลอดกาลรายการนี้แค่ 2 ลูกเท่านั้น
นอกจากนี้ แฮตทริกในเกมคัดยูโรกับ ลัตเวีย เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมก็ทำให้เราเห็น เลวานดอฟสกี้ ตะบันถึงหลัก 60 ประตูให้ทีมชาติโปแลนด์แล้ว
ปัจจุบันเขาได้กลายเป็นดาวยิงสูงสุดอันดับ 5 ของทีมบ้านเกิดด้วย
ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องโง่ที่จะพูดว่าเขาคือคนที่รักษาความคงเส้นคงวามาได้ตลอดทั้งทศวรรษ แต่ที่น่าตกใจก็คือฟอร์มปัจจุบันของ เลวานดอฟสกี้ ก็ยังไม่ได้ตกลงไปจากเดิมเลย
40 ประตู จาก 47 เกมในซีซั่น 2018-19 เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ ทั้งที่เขาน่าจะดูแย่กับโอกาสที่น้อยลงจากแต่ก่อน
การยิงได้ 22 ลูกในลีกฤดูกาลที่แล้วนั้นถือเป็นจุดตกต่ำที่สุดของเขาตั้งแต่ปี 2014-15 และก็เป็นค่าเฉลี่ยยิงประตูต่อเกมห่วยที่สุดของเขาตั้งแต่ปี 2013 เลยทีเดียว
แม้ นิโก้ โควัช ที่เพิ่งโดนปลดไปสดๆ ร้อนๆ จะพาทีมทำผลงานไม่ถูกใจกองเชียร์สักแค่ไหน แต่ เลวานดอฟสกี้ ก็พร้อมที่จะการันตี 20-30 ประตูต่อซีซั่นอยู่ไม่เปลี่ยน
ไม่เพียงแค่นั้น เขายังมีโอกาสที่จะยิงได้อย่างน้อย 40 ประตูในทุกรายการเป็นซีซั่นที่ 5 ติดต่อกัน และหากไม่มีสะดุดไปดื้อๆ ก็มีโอกาสสูงที่จะไปถึงตำแหน่งดาวซัลโวยุโรปประจำปี 2019-20 อีกด้วย
เมื่อพิจารณาจากฟอร์มที่มีแต่ช่วงขาลงของทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ลีโอเนล เมสซี่ และ หลุยส์ ซัวเรซ ในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา
ตอนนี้เราน่าจะพูดได้เต็มปากว่า เลวานดอฟสกี้ คือกองหน้าธรรมชาติที่ดีที่สุดในโลกแล้ว
พาสต้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT