กำจัดจุดอ่อน

    มันค่อนข้างบ่อยที่จะเกี่ยวกับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หรือ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน

    มันมีบางครั้งที่เกี่ยวกับ อาลีสซง เบ็คเกอร์ หรือ ฟาบินโญ่

    ไม่บ่อยครั้งหรอกที่ความสำเร็จของพวกเขาจะมอบเครดิตให้กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม และ เดยัน ลอฟเรน แต่กับชัยชนะสุดสำคัญหรือ แมนฯ ซิตี้ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนได้พิสูจน์ถึงอะไรบางอย่าง

    เหมือนว่าบรรดาพวกที่ใครหลายคนมองว่าเป็นจุดอ่อนของ ลิเวอร์พูล 'weaker links' เพียงไม่กี่คนกำลังส่องแสงแวววาวอย่างโดดเด่นในวันที่แทบจะยิ่งใหญ่ที่สุดของฤดูกาล

    หาก โฌแอล มาติป ฟิตตามปกติ ลอฟเรน ก็คงไม่ได้น่าจะอยู่ในทีมตัวจริง แต่ปราการหลังทีมชาติโครเอเชียก็ผลิตผลงานอันร้ายกาจจนทำให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ เงียบหายไปตลอดทั้งเกม

    หากใครยังจำกันได้ อเกวโร่ เคยหลอน ลอฟเรน มาแล้วในเกมที่เรือใบเปิดบ้านชนะหงส์แดง 2-1 เมื่อเดือนมกราคมของซีซั่นก่อน โดยเป็นการโฉบมาตัดหน้าและซัดประตูแรกที่เอติฮัด สเตเดี้ยม

    แต่ ลอฟเรน ที่ใครหลายคนมองว่าอาจเป็นบ่อในการเผชิญหน้ากันยกล่าสุดของทั้งสองทีมที่แอนฟิลด์กลับทำได้ดีทุกอย่างไม่ว่าจะลูกโด่ง และมีสถิติเคลียร์บอลอันตราย 5 ครั้ง รวมถึงบล็อคจังหวะยิงอีก 2 ครั้ง

    นั่นทำให้ อเกวโร่ ต้องร้องเพลงรอประตูแรกในชีวิตของเขาที่แอนฟิลด์ต่อไป

    ยิ่งไปกว่านั้น บรรดาแผงมิดฟิลด์ของหงส์แดงยังได้รับการปรามาสว่าค่อนข้างทื่อ และเชย ท่ามกลางการกล่าวหาว่าเป็นพวกไร้การสร้างสรรค์เกม

    อย่างในบิ๊กแมตช์เกมล่าสุดนี้ เหล่าเดอะ ค็อป ต่างพากันเซ็ง เมื่อได้เห็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงตัวจริงอีกครั้ง แทนที่จะเป็น อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ซึ่งกำลังสด

    ส่วน จีนี่ ไวนัลดุม นั้นถูกตั้งคำถามอยู่เสมอในเรื่องของความราบเรียบเกินไปในสไตล์การเล่นจนที่อังกฤษมักจะตั้งฉายาให้เขาว่า 'Ghost' หรือ 'ผี' เพราะหายเงียบไปจากเกมอยู่หลายครั้ง

    แต่ทั้ง เฮนเดอร์สัน และ ไวนัลดุม ก็ได้ร่วมกันแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีอิทธิพลเหนือกว่าทั้ง เควิน เดอ บรอยน์ และ อิลคาย กุนโดกัน

    เครดิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับมิดฟิลด์กัปตันทีม ลิเวอร์พูล นอกจากแอสซิสต์ให้ มาเน่ ก็คือภัยคุกคามที่มากขึ้นจาก แมนฯ ซิตี้ หลังเขาถูกเปลี่ยนตัวออกเนื่องจากสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์

    ตอนนี้ เฮนเดอร์สัน อายุ 29 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงถูกค่อนขอดว่าไม่ได้ยิง หรือแอสซิสต์มากเท่าที่ควรสำหรับนักเตะตำแหน่งกองกลาง

    ทว่าสิ่งที่มากกว่านั้นก็คือความเป็นผู้นำ และระดับของวินัยที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละซีซั่น และเขาก็ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวตนของ เจอร์เก้น คล็อปป์ อย่างสมบูรณ์แบบ

    ขณะที่เมื่อมองไปยัง ไวนัลดุม เขาก็มีดีในตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถิติอันสวยหรูยามเล่นในบ้าน ซึ่งนั่นทำให้เขาไม่อาจหลุด 11 ตัวแรกของ คล็อปป์ ได้

    อย่าลืม ว่าเขานี่แหละคือคนที่ปลุกหงส์ออกจากหลุมฝังศพที่แอนฟิลด์ในเกมปะทะ บาร์เซโลน่า เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

    เกมกับ ซิตี้ อาจจะเหมือนเงียบเชียบ ทว่าเขาก็มีสถิติผ่านบอลสำเร็จสูงถึง 97% ซึ่งทั้ง กุนโดกัน และ โรดรี้ เอร์นานเดซ ยังห่างอยู่เยอะเลย

    หากคุณต้องการคอนโทรล และรักษาจังหวะของคุณเอง ไวนัลดุม นี่แหละคือคนที่คุณต้องการ

    กับเกมที่เอาชนะเรือใบ 3-1 นั่นเป็นสิ่งที่เราได้เห็นอีกครั้งว่าหงส์แดงเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่กว่าการมีสามแนวรุกที่อันตราย

    ในฤดูกาลนี้ พวกเขาถูกบังคับให้ต้องบดบี้ขยี้คู่แข่งในช่วงท้ายเกมอยู่หลายครั้ง ซึ่งนั่นก็แสดงให้เห็นถึงสปิริตอันยิ่งใหญ่ไปด้วย

    ตามความเป็นจริงแล้ว ชัยชนะจากเกมล่าสุดนี้ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาคว้าชัยเหนือคู่แข่งด้วยผลห่างมากกว่าหนึ่งประตูในพรีเมียร์ลีกตั้งแต่กลางเดือนกันยายนเลยทีเดียว

    ตอนนี้ในทีม ลิเวอร์พูล มีคนที่ยิงประตูได้แล้วถึง 15 นักเตะจากการแข่งขันทุกรายการ

    ก็เหมือนกัน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์, ฟาบินโญ่ และ อดัม ลัลลาน่า พวกเขาทั้งหมดล้วนมีส่วนสำคัญสำหรับประตูของทีม ส่วน ดิว็อก โอริกี้ เราก็เห็นความมหัศจรรย์ที่แปลกประหลาดจากเขามาพักใหญ่แล้ว

    มันไม่ใช่แค่ ซาลาห์, ฟีร์มีโน่ หรือ มาเน่ แต่พวกเขาทั้งหมดคือหนึ่งเดียวกัน และมีความเป็นแมตช์วินเนอร์ในทุกๆ ตำแหน่ง

    สำหรับใครที่ยังบอกว่าตำแหน่งนั้นเป็นจุดอ่อน คนนี้คือจุดบอด ผมคิดว่าเมื่อเวลาทุกคนอยู่รวมกันเป็นทีม 11 นักเตะในสนาม

    จุดอ่อนเหล่านั้นพวกเขาได้กำจัดมันทิ้งไปหมดแล้ว

    พาสต้า