:::     :::

มูรินโญ่ กับการฉายแสงของ อัลลี่

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2562 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
1,958
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อย่างที่เราทราบกันเส้นทางค้าแข้งของ เดเล่ อัลลี่ ดูจะสะดุดลงไปเล็กน้อย

    เรื่องการพังประตูที่เคยเป็นจุดเด่นของเขาก็ดูจะแห้งเหือดไปจากตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา หลังมิดฟิลด์รายนี้ยิงได้เพียง 9 ลูกในทุกรายการให้กับ สเปอร์ส ตั้งแต่คัมแบ็กกลับมาจากทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก

    ในเวลานั้น เขามักจะมีปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่เรื่อยๆ แถมฟอร์มก็ไม่อยู่กับร่องกับรอยจนแสงสว่างที่เคยจับนั้นเริ่มกลายเป็นความมืดมิดทีละน้อย

    เขาต้องสูญเสียตำแหน่งในทีมชาติอังกฤษชุดสู้ศึกยูโร 2020 ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ในช่วงซัมเมอร์หน้า เนื่องจากการแจ้งเกิดขึ้นมาของทั้ง เมสัน เมาท์ และ เจมส์ แมดดิสัน

    ก่อนหน้านี้ อัลลี่ นี่แหละคือนักเตะที่สร้างความประทับได้มากที่สุดในระหว่างฤดูกาล 2016-17 เมื่อยิงได้ถึง 18 ประตูในพรีเมียร์ลีก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะตกเป็นข่าวพัวพันกับทีมชั้นยอดของโลกอย่าง เรอัล มาดริด ก่อนที่ 2 ปีถัดมาเรื่องดังกล่าวจะเงียบหายไปในกลีบเมฆ

    แต่บางทีเรื่องทั้งหมดอาจเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง

    โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามารับงานเป็นกุนซือคนใหม่ของ สเปอร์ส ซึ่งนั่นอาจทำให้ อัลลี่ สามารถกลายเป็นนักเตะที่เราทุกคนหวังให้เขาเป็น

    กับอายุที่เพิ่งจะ 23 ปี เขายังคงมีเวลาเหล่านั้นอยู่ในมือ และมีศักยภาพที่จะก้าวไปเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกระดับเวิลด์คลาสให้กับทั้งไก่เดือยทอง และทีมชาติอังกฤษ แต่เขาก็ต้องได้รับการเอาใจใส่จากมันสมองของเจ้านายคนใหม่ด้วย

    หลายคนอาจตั้งคำถาม เดอะ สเปเชียล วัน จะทำให้ อัลลี่ กลายเป็นมิดฟิลด์ชั้นยอดได้

    ย้อนกลับไปในช่วงเวลาของเขาที่ ปอร์โต้ คุณจะเห็นได้ว่ารับจากนั้น มูรินโญ่ มักจะสร้างกองกลางระดับท็อปอย่างน้อยหนึ่งคนในแต่ละสโมสรที่เขาร่วมงาน

    ตัวอย่างเริ่มแรกเลยก็คือ เดโก้ เขากลายเป็นแข้งระดับชั้นนำขึ้นมาอย่างด่วนจี๋ภายใต้การทำงานกับ มูรินโญ่

    ก่อนหน้านั้น เดโก้ อาจเป็นนักเตะฝีเท้าดีอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้โดดเด่น และค่อนข้างขาดคุณสมบัติที่กองกลางระดับท็อปควรจะมี แต่ มูรินโญ่ ก็ปลุกปั้นความเก่งกาจ และความคิดสร้างสรรค์ให้กับมิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกสเพื่อทำให้เขากลายเป็นกุญแจสำคัญด้วยสไตล์ที่โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด

    ในเวลา 2 ปีที่อยู่ในมือของ มูรินโญ่ เดโก้ ร่วมคว้าแชมป์ลีก และฟุตบอลถ้วยภายในประเทศ แถมยังรางวัลใหญ่อย่างยูฟ่า คัพ และแชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนที่จะย้ายไปยัง บาร์เซโลน่า ขณะที่ปี 2014 ก็เข้าวินเป็นอันดับสองของบัลลงดอร์ด้วยการแพ้ อังเดร เชฟเชนโก้

    แน่นอนว่าความสำเร็จของเขาไม่ได้เกิดขึ้นก่อนที่ มูรินโญ่ จะมาถึง เนื่องจาก เดโก้ ในเวลานั้นแทบจะกลายเป็นส่วนเกินสมัยที่เขามายังโปรตุเกสใหม่ๆ กับ เบนฟิก้า

    มูรินโญ่ สามารถหล่อหลอมเขาให้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในชั่วข้ามคืนได้

    โอเค อัลลี่ อาจจะไม่ได้มีโมเดลเดียวกัน หรือใกล้ชิดกับ เดโก้ เลย แต่ถ้าเราพูดถึง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ล่ะ

    ???

    กุนซือ เชลซี คนปัจจุบันเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งกาจที่สุดในโลกภายใต้การคุมทีมของ มูรินโญ่ และกลายเป็นต้นแบบของมิดฟิลด์จอมถล่มประตู

    หลังจากฤดูกาลแรกของเขาภายใต้ยุคของ เดอะ สเปเชียล วัน แลมพาร์ด จะยิงได้อย่างน้อย 10 ลูกในทุกๆ ซีซั่นที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี และยังคว้าแชมป์ทุกรายการที่เป็นไปได้ด้วยความสามารถที่เขามี

    "เราแทบกลายเป็นทีมใหม่เลยในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่" แลมพาร์ด เล่าย้อนไปยังซีซั่นแรกที่เขาได้ร่วมงานกับกุนซือโปรตุกีส

    "เราเหมือนทีมที่สดใหม่ มีความกระหายอย่างมากที่จะคว้าแชมป์ และมีผู้จัดการทีมชั้นยอดที่ช่วยได้อย่างชัดเจน"

    "โชเซ่ เป็นกุนซือที่ดีที่สุดซึ่งผมก็โชคดีพอที่จะเล่นในยุคของเขา เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยม เป็นคนจริง และทำให้เราเชื่อว่าเราสามารถคว้าแชมป์ลีกซีซั่นนั้นได้"

    "เราสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่กับ เชลซี เพราะว่าเราไม่ได้มีแชมป์ลีกมา 50 ปีแล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากสำหรับสโมสร และสำหรับเราในฐานะทีม"

    นอกจากนี้ คุณยังสามารถนึกถึง เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ได้อีกด้วยในช่วงที่ มูรินโญ่ ประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงกับ อินเตอร์ มิลาน

    เพลย์เมกเกอร์ดัตช์แมนได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นกองกลางตัวรุกที่ดีที่สุดในโลกระหว่างปีที่ทีมงูใหญ่คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ และก็มีข่าวเชื่อมโยงกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มานานหลายปี

    ย้อนกลับไปในปี 2013 สไนเดอร์ เคยพูดถึง มูรินโญ่ ไว้ว่า "เขาเป็นคนที่พิเศษมากสำหรับผม ในฐานะโค้ชเขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมอันดับหนึ่งเลย"

    "เขาเป็นคนที่ให้ความมั่นใจกับผม และผมก็สนุกกับการเล่นฟุตบอลอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนภายใต้การทำงานของเขา"

    หากว่าก่อนหน้านี้ ความมั่นใจของ เดเล่ ขาดหายไป เขาก็น่าจะพบว่าตัวเองกำลังร่วมงานกับหนึ่งในกุนซือที่สามารถสร้างแรงจูงใจในเกมการแข่งขันได้มากที่สุดของโลก

    สิ่งนั้นมันพิสูจน์ได้จากผลงานในสนาม และก็เหมือนว่าเวทมนตร์ของ มูรินโญ่ เริ่มทำงานแล้วกับฟอร์มของ อัลลี่ ที่ยิงหนึ่ง จ่ายหนึ่งในเกมที่เอาชนะทั้ง เวสต์แฮม และ โอลิมเปียกอส เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

    อย่างตอนที่มาถึงแคมป์ไก่เดือยทอง มูรินโญ่ ก็ได้ใช้ความเก่งกาจในการสร้างแรงจูงใจของเขาด้วยคำถามยียวนใส่ อัลลี่ ว่าต้องการเห็นเขาลงเล่นให้เหมือน อัลลี่ ไม่ใช่น้องชายที่แค่หน้าเหมือน

    น่าสนใจเหลือเกินว่าต่อจากนี้ อัลลี่ ในกำมือของ มูรินโญ่ จะเติบโตขึ้นได้เพียงใด ตัวของ อัลลี่ เองก็คงลุ้นอย่างใจจดใจจ่อไม่แพ้กัน

    พาสต้า


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด