จุด(ต้อง)เปลี่ยนของหงส์แดง

    ตั้งแต่ยกพลไปแพ้ สเปอร์ส เละเทะที่เวมบลีย์ จากนั้นลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ยกระดับตัวเองขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยม

    เกมนั้นแทบเป็นจุดเปลี่ยนเลยทีเดียว

    เนื่องจากกุนซือเมืองเบียร์มีการปรับทั้งระบบการเล่น รวมถึงรายละเอียดของแผนระหว่างเกม

    ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้งานกอลหน้าคู่ ซึ่งเราแทบไม่ได้เห็นเลยตลอดช่วงระยะเวลาของ คล็อปป์ ในถิ่นแอนฟิลด์

    เช่นเดียวกับแนวรับที่ได้รับการปรับแต่งให้ดีขึ้นทั้งการยืนของ โจ โกเมซ หรือ อัลเบร์โต้ โมเรโน่

    มันทำให้หงส์แดงพุ่งชนชัยชนะเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกันแล้ว พร้อมกระซวกตาข่าย 13 เม็ด แถมเสียแค่ประตูเดียวเท่านั้น

    คนที่ได้รับเครดิตเต็มๆ ในช่วงที่ผ่านมาคงไม่พ้น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งแซงทั้ง โรเมลู ลูกากู, แฮร์รี่ เคน และ เซร์คิโอ อเกวโร่ ขึ้นไปนำเป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกแบบเดี่ยวๆ ที่ 9 ประตูแล้ว

    อย่างไรก็ตาม สำหรับแฟนหงส์ เราได้เห็นช่วงเวลาแบบนี้มาจนชินตาแล้ว

    เล่นดี ผลงานเยี่ยม แต่พอถึงช่วงหนึ่งก็เข้าอีหรอบเดิมทำให้ลิเวอร์พูลไม่สามารถก้าวข้ามผ่านคำว่าผู้ท้าชิงได้เสียที

    กี่ซีซั่นแล้วที่ตอนจบต้องพบเจอกับความผิดหวังจากแชมป์ลีก

    คิดเป็นเวลาก็นานกว่า 25 ปีแล้ว

    ทีนี้ต้องกลับมาวิเคราะห์กันว่าจะทำอย่างไรให้หงส์แดงรักษาความคงเส้นคงวาได้มากกว่านี้เสียที เพื่อจะให้ทีมเป็นได้มากกว่ารองแชมป์ 3 สมัย นับตั้งแต่เถลิงแชมป์ลีกสูงสุดเมื่อปี 1989-90 ในยุคของ เคนนี่ ดัลกลิช

    มันเลยมีถึง 5 จุดที่หงส์แดงจะต้องปรับปรุงเพื่อที่จะทำให้ทีมบินสูงได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในอนาคตอันใกล้นี้

    เบอร์ 10 คนใหม่

    แน่นอน ปัจจุบัน ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ยังคงเป็นเต้ยในบทบาทนี้ของทีม ทว่าอนาคตของดาวเตะบราซิเลี่ยนนั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ข่าวลือจากทั้ง บาร์เซโลน่า และ เปแอสเช มีให้เห็นมาตลอดแม้ตลาดซื้อขายจะยังใส่กุญแจมืออยู่

    นั่นจึงน่าจะเป็นเรื่องยากที่ คล็อปป์ จะโน้มน้าวใจให้ คูตินโญ่ ฝากชีวิตระยะยาวไว้ในถิ่นแอนฟิลด์ การหาทายาทคนใหม่จึงเป็นสิ่งที่พวกเขาควรเริ่มทำตั้งแต่เนิ่นๆ

    โตมาส์ เลอมาร์ เคยเป็นคนที่หงส์แดงไล่ล่าเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว ไม่แน่ พอจบฤดูกาลนี้พวกเขาอาจยูเทิร์นกลับไปให้ความสนใจอีกครั้ง แต่ก็คงต้องออกแรงหนักแย่งกับ อาร์เซน่อล ที่พร้อมจะเปิดศึกด้วยเช่นกัน

    ขณะที่ เลออน โกเร็ตซ์ก้า ก็เป็นอีกคนที่กำลังจะหมดสัญญากับ ชาลเก้ แต่ด้วยตำแหน่งดูเหมาะสมจะมาแทนในกรณีที่สูญเสีย เอ็มเร่ ชาน มากกว่า

    ดาวยิงที่หายไป

    นับตั้งแต่หมดยุคของ หลุยส์ ซัวเรซ และ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ คนเก่า หงส์แดงไม่เคยมีกองหน้าประเภทโป้งเดียวจอดที่ไว้ใจได้เลย

    แม้ สเตอร์ริดจ์ จะยังคงอยู่กับทีมในปัจจุบัน แต่เขาก็เหมือนจะเป็นคนละคนกับช่วงปี 2013-14

    ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว ความคล่องตัว หรือความเฉียบคม สิ่งเหล่านี้เหมือนตายไปพร้อมกับอาการบาดเจ็บเรื้อรังของเจ้าตัวแล้ว

    แม้กุนซือเยอรมันจะชอบใช้ ซาดิโอ มาเน่, ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เป็นสามประสานในแนวรุก ทว่านอกจากแข้งอียิปต์ที่กำลังฟอร์มร้อนแรงในตอนนี้แล้ว นอกนั้นยังมีปัญหาในเรื่องการจบสกอร์อยู่ทั้งหมด

    ยิ่งกับ ฟีร์มีโน่ ที่สวมบทกองหน้าตัวเป้าด้วยแล้ว จากจำนวนประตูที่เขายิงได้ยังถือว่าน้อยไปหน่อยในฐานะดาวยิงเบอร์หนึ่งของทีม

    เมื่อมองไปยังคู่แข่งรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น สเปอร์ส ที่มี เคน แมนฯ ซิตี้ ที่มี เซร์คิโอ อเกวโร่ และ กาเบรียล เชซุส แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มี ลูกากู หรือ เชลซี ที่มี อัลบาโร่ โมราต้า ตรงนี้หงส์แดงเป็นรองแบบสุดกู่เลย

    มิดฟิลด์ตัวคุมเกม

    ทุกทีมที่จะประสบความสำเร็จในยุคนี้ ต่างก็ต้องมีกองกลางตัวคุมจังหวะของเกมชั้นยอดกันหมด เมื่อหันมามองยังหงส์แดงตอนนี้แล้ว จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มีคนเชื่อใจหรือ? ส่วน จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ก็เหมาะกับการเล่นเกมรุกเสียมากกว่า

    เอ็มเร่ ชาน อาจพัฒนาตัวเองไปได้ไกลสู่จุดนั้นได้ แต่มีปัญหาตรงที่มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมันดูเหมือนจะไม่ยอมต่อสัญญาค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์

    แม้ช่วงซัมเมอร์หน้า ทีมจะได้ นาบี้ กาอิต้า เข้ามาเสริมอีกราย ซึ่งมันน่าสนใจว่าเขาจะรับบทบาทไหน แต่ด้วยสไตล์ที่เล่นหนัก และได้รับใบแดงง่ายเกินไป อาจจะยังไม่เหมาะกับการเป็นตัวคุมจังหวะได้

    นั่นอาจทำให้ คล็อปป์ ต้องเสริมตรงจุดนี้ด้วยตัวเทพๆ เพิ่มอีก

    มือกาวไม่ดีพอ

    ตำแหน่งนายทวารเป็นปัญหาเรื้อรังของหงส์แดงมานานมากแล้ว แม้ ซิมง มิโญเลต์ จะเข้ามาทำได้ดีจนรับคำชมมากมายในซีซั่นแรกของเจ้าตัว ทว่าหลังจากนั้นเละเทะออกทะเลไม่เป็นท่า

    คำวิจารณ์โถมเข้าหาเขาต่างๆ นาๆ ซึ่งมันก็ไม่ได้เกินไปเลย นี่คือผู้รักษาประตูที่ทำผิดพลาดมากสุดในพรีเมียร์ลีกถึง 13 หน นับตั้งแต่ลงเฝ้าเสานัดแรก

    ในรายของ ลอริส คาริอุส ก็โดนล้อว่าเป็นหมู อู๊ดๆ... ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความไว้ใจได้ ทำให้ถ้าอยากลุ้นแชมป์ก็ต้องไปคว้านายทวารชั้นยอดมาเฝ้าเสาให้ได้

 
   เซนเตอร์ตัวท็อป

    ไม่ต้องไปวิเคราะห์อะไรมาก ขนาดเด็กอมมือยังรู้เลยว่าลิเวอร์พูลชุดนี้ ปัญหาใหญ่ที่สุดคือแนวรับอันอ่อนยวบ ไม่ว่าจะแก้แล้วแก้อีกขนาดไหนก็ยังไม่หาย

    เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ คือตัวเลือกอันดับหนึ่งในใจ คล็อปป์ แต่ก็พบความผิดหวังมาในช่วงซัมเมอร์ก่อน ไม่แน่ว่าช่วงปีใหม่นี้อาจมีข้อเสนอยื่นเข้าไปใหม่

    นี่ผ่านมา 12 นัดในลีก ลิเวอร์พูลเสียไปแล้วถึง 17 ประตู และในอันดับท็อป 10  มีแค่ วัตฟอร์ด (21 ประตู) ทีมเดียวเท่านั้นที่โดนเจาะตาข่ายมากกว่าพวกเขา

     ทั้ง โฌแอล มาติป, เดยัน ลอฟเรน และ รักนาร์ คลาวาน อาจมีดีกรีเป็นผู้เล่นทีมชาติ แต่ยังไม่ดีพอที่จะช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ได้แน่ เพราะถ้าจะทำให้ได้เช่นนั้นต้องมีกองหลังระดับท็อปเท่านั้น