โมเสส & อลอนโซ่ มาไวไปเร็ว...
ทั้งคู่ดูโดดเด่นอย่างมากในช่วงก่อนที่ อันโตนิโอ คอนเต้ จะตบเท้าเดินออกจากถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์
อลอนโซ่ นั้นใช้ชีวิตวัยเด็กกับ เรอัล มาดริด ซึ่งก็เคยถูกยืมตัวมาเล่นให้ทีมเล็กๆ อย่าง โบลตัน และ ซันเดอร์แลนด์ ขณะที่ โมเสส นั้นถูกปล่อยยืมไปให้กับหลายทีมในพรีเมียร์ลีกตลอด 3 ฤดูกาลก่อนหน้าที่บิ๊กบอสชาวอิตาเลี่ยนจะมาถึง
สิ่งที่น่าสนใจก็คือการนำระบบ 3-4-3 มาติดตั้งให้ เชลซี ทะยานไปถึงแชมป์พรีเมียร์ลีก
คอนเต้ แทบจะคอขาดจากการตกเป็นฝ่ายตามหลัง อาร์เซน่อล 0-3 ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในครึ่งแรก และแพ้ด้วยสกอร์นั้นในเดือนกันยายน ปี 2016 จนสิงห์บลูส์หล่นไปรั้งอันดับ 10 ของตาราง
อย่างไรก็ตาม จากนั้นเขาหาจุดลงตัวให้ทีมได้สำเร็จด้วยการคว้าชัย 13 นัดติด โดยการเปลี่ยนแปลง 2 วิงแบ็ก ซึ่งก็เป็น โมเสส และ อลอนโซ่ ที่เข้ามาสร้างอิมแพ็คท์ได้
นักเตะอย่าง เอแด็น อาซาร์ และ วิลเลี่ยน มีพื้นที่เล่นมากยิ่งขึ้น ส่วน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กับ เนมานย่า มาติช ก็คอยคัฟเวอร์อยู่ตรงกลางสนาม ขณะที่ แกรี่ เคฮิลล์, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า และ ดาวิด ลุยซ์ ก็ปักหลักตรง 3 เซนเตอร์แบ็ก เพื่อให้อิสระในการเล่นกับทั้งสองวิงแบ็ก
แม้ว่าตอนนั้นวิงแบ็กอย่างพวกเขาจะดูธรรมดา นอกสายตามาก แต่มันก็ให้ความรู้สึกราวกับว่าดวงดาวได้ถูกจัดเรียงอย่างเหมาะสมในช่วงเวลาที่ถูกต้องสำหรับทั้งส่วนของสโมสร และสองนักเตะ
ก็องเต้ ชนะเลิศรางวัลแข้งยอดเยี่ยมประจำปีของพีเอฟเอ และจูงมือ เคฮิลล์, ลุยซ์ และ อาซาร์ ติดทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล แต่มันดันไม่มีที่ว่างให้กับทั้งสองแอนตี้ฮีโร่ซะงั้น
อลอนโซ่ ยิงไป 6 ประตู และทำอีก 3 แอสซิสต์ ขณะที่ โมเสส นั้นเหมือนเจอตำแหน่งที่ใช่ของตัวเองกับการทำ 3 ลูก และ 4 แอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีก
ลีกเมืองผู้ดีเหมือนถูกปฏวัติใหม่โดยกุนซือชาวอิตาเลี่ยน และสองวิงแบ็กของเขา ซึ่งช่วยให้สิงห์บลูส์เก็บไปทั้งหมด 93 แต้ม
แต่ช่วงเวลาอันหอมหวานนั้นช่างสั้นเหลือเกิน
แน่นอน เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลถัดมา คอนเต้ ก็กระเด็นตกเก้าอี้ แต่สิ่งที่เขาทิ้งเอาไว้ก็คือระบบการเล่นที่มีการโจมตีจากกองหลัง
หลายคนเริ่มใช้งานมันมากขึ้น
ตั้งแต่ที่ เชลซี ทะยานไปคว้าแชมป์ลีก เมื่อ 3 ซีซั่นก่อน ชะตากรรมของวิงแบ็กทั้งสองก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังตรีน!
ปัจจุบัน โมเสส กำลังเล่นอยู่ในตุรกีกับ เฟเนร์บาห์เช่ หลังจากเซ็นสัญญายืมตัว 18 เดือน เมื่อมกราคมปีก่อน
ดาวเตะไนจีเรียได้ลงสนามเพียงแค่ 6 นัดเท่านั้นในฤดูกาลนี้ ซึ่งเวลาส่วนใหญ่ของเขาก็คือการต่อสู้กับปัญหาบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า
ความสำเร็จของเขาในปี 2016-17 นั้นถือว่ายิ่งใหญ่ และน่าเหลือเชื่อเกินกว่าที่ อลอนโซ่ ทำเอาไว้ เมื่อพิจารณาว่าก่อนหน้านั้นเขาแทบไร้ตัวตนในถิ่นเดอะ บริดจ์ ด้วยการถูกปล่อยให้ทั้ง สโต๊ค และ เวสต์แฮม ยืมตัวมาตลอด 2 ซีซั่นจนกระทั่ง คอนเต้ มาถึง
สำหรับ อลอนโซ่ ทุกวันนี้เขายังอยู่ที่ เชลซี แต่ก็ดันเป็นแค่ตัวเลือกลำดับสุดท้ายรองจาก เอแมร์ซอน เสียอีก
โอเค มีอยู่นัดที่ สิงห์บลูส์เลือกใช้แผน 'แบ็กไฟฟ์' ในซีซั่นนี้ และอดีตดาวเตะ โบลตัน ก็งัดฟอร์มที่เราเคยเห็นเมื่อ 3 ปีก่อนกับตำแหน่งวิงแบ็กซ้ายในเกมกับ สเปอร์ส เมื่อเดือนที่แล้ว
แต่ก็นั่นแหละ ดาวเตะหมายเลข 3 ไม่ได้มีความสำคัญกับทีมเหมือนเดิม และยามใดที่สิงห์บลูส์ปรับมาใช้ 'แบ็กโฟร์' เขาก็ไม่เคยได้รับการเหลียวแล
แฟร้งค์ แลมพาร์ด เลือกที่จะให้ อัซปิลิกวยต้า ข้ามฟากมายืนแบ็กซ้าย ซึ่งเขามองว่าน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า อลอนโซ่ ยามที่เล่น 'แบ็กโฟร์'
ไม่แปลกเลยที่สถานการณ์นี้จะทำให้เขากลายเป็นท็อปลิสต์สำหรับนักเตะที่จะย้ายออกจาก เชลซี ในเดือนมกราคม
วันเวลาของเขาที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ อาจจะสิ้นสุดลงไม่ช้าก็เร็วนี้แหละ
ไม่ใช้เรื่องปิดบัง คอนเต้ คือคนที่ทำให้ทั้ง โมเสส และ อลอนโซ่ กลับมามีชีวิตใหม่ในอาชีพค้าแข้งอีกครั้ง
เวลานี้ ทั้งสองก็มีอายุ 29 ปีเท่าๆ กัน และช่วงเวลาที่พวกเขาจะกู้คืนเส้นทางค้าแข้งให้กลับมาสดใสอีกครั้งกำลังจางหายไปเรื่อยๆ เหมือนสมัยในช่วงก่อนที่จะได้ร่วมงานกับ คอนเต้
กับยุคนี้ที่ ลิเวอร์พูล กำลังไล่ล่าความสำเร็จแบบไม่หยุดหย่อน เครดิตเกินครึ่งมาจากทั้ง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ที่ถูกยกให้เป็นสองฟูลแบ็กยุคโมเดิร์น
ทั้งสองถูกยกให้กลายเป็นแบ็กระดับโลกไปแล้ว ทั้งที่จริงๆ โมเสส กับ อลอนโซ่ ควรได้รับการยอมรับแบบนั้นเช่นกัน
น่าเสียดายที่พวกเขามาไวไปไวเกินไปหน่อย มันก็เหมือนพลุที่สว่างวาบ และดับลงไปในพริบตา
พาสต้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT