เกลียดกัน...แต่เล่นด้วยกัน

    นักเตะอย่าง เดยัน ลอฟเรน กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ เจสซี่ ลินการ์ด หรือ เมสัน เมาท์ กับ ดีแคลน ไรซ์ คือคู่ซี้ที่แบบไปไหนไปกัน

    พวกเขาทั้งหมดใกล้ชิดกัน โดยมีฟุตบอลเป็นสื่อกลาง

    แต่ก็ไม่ใช่ว่าเพื่อนร่วมทีมทุกคนจะต้องมีความสัมพันธ์ที่พิเศษต่อกัน

    ในโลกฟุตบอลมันก็มีอยู่หลายคู่ที่เหม็ดขี้หน้ากัน อยากฟาดปากกัน แต่ก็ต้องเล่นด้วยกัน ซึ่งพวกเขาเหล่านี้คือตัวอย่างของอีกหลายคู่

เอ็มมานูเอล ฟริมปง กับ ซามีร์ นาสรี่

    "สำหรับผม ความจริงก็คือผมไม่เคยชอบขี้หน้า นาสรี่ เลย และจะไม่มีวันนั้นด้วย ต่อให้เขาเอาเงินมากองให้ผม 5 พันล้านดอลลาร์ ผมก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิม"

    นั่นคือสิ่งที่ ฟริมปง พูดถึง นาสรี่ เมื่อปี 2019 ผ่าน ดิ แอธเลติก

    ความบาดหมางของพวกเขาเริ่มต้นขึ้น เมื่อ นาสรี่ ปรี่เข้าไปด่า ฟริมปง ในห้องแต่งตัว หลังจากมิดฟิลด์กานาโดนไล่ออกในเกมแพ้ ลิเวอร์พูล 2-0 เมื่อปี 2011

    จากนั้น นาสรี่ ก็ยังโทรไปด่า ฟริมปง ต่ออีก

    "ผมรับโทรศัพท์ และมันก็เป็นสายของ นาสรี่ ที่โทรมาด่าผม"

    "ผมบอกเขาไปว่า 'ผมไม่ได้เป็นนักเตะที่กลัวนายหรอกนะ"

    "ดังนั้น ผมแค่จะบอกเขาว่า ผมไม่ชอบเขา ผมไม่เคารพเขา และผมก็จะไม่เคารพเลยในฐานะแข้งอาชีพด้วย"

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กับ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท

    อิบราฮิโมวิช และ ฟาน เดอร์ ฟาร์ท เป็นเพื่อนร่วมทีมกันที่ อาแจ็กซ์ ในขณะที่ทั้งสองต้องเผชิญหน้ากันในเกมอุ่นเครื่องทีมชาติระหว่าง สวีเดน และ ฮอลแลนด์

    ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ได้รับบาดเจ็บระหว่างเกมนั้น และต่อมาก็มีการกล่าวหาต่อหน้าสื่อว่า อิบราฮิโมวิช เจตนาที่จะเล่นงานเขา

    แน่นอน ซลาตัน ไม่เฉยอยู่แล้ว

    หัวหอกที่ยังค้าแข้งอยู่เปิดเผยในหนังสืออัตชีวประวัติ เมื่อปี 2013 ว่าเขาขู่จะหักขาดาวเตะดัตช์ทั้ง 2 ข้าง

    "ฉันไม่ได้ทำร้ายนายโดยเจตนา นายเองก็รู้ หากนายยังกล่าวหาฉันลอยๆ อีกครั้ง ฉันจะหักขาทั้งสองข้างของนาย และถึงตอนนั้นมันจะเป็นความตั้งใจ" อิบราฮิโมวิช กล่าวถึง ฟาน เดอร์ ฟาร์ท

โคโล่ ตูเร่ กับ วิลเลี่ยม กัลลาส

    ลองนึกภาพสองเซนเตอร์แบ็กที่จับคู่กันโดยไม่คุยกันในสนาม นั่นแหละพวกเขา

    เกาเหลาของ ตูเร่ และ กัลลาส ดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งดาวเตะไอวอรี่โคสต์รู้สึกว่าเขาต้องย้ายออกจาก อาร์เซน่อล

    "เมื่อคุณเล่นกับใครบางคน และคุณไม่คุยกันในสนาม มันเป็นเรื่องยากจริงๆ"

    "ผมกับ กัลลาส... เราไม่คุยกันเลย เราคนหนึ่งยังไงก็ต้องไป และมันก็เป็นผม"

    "ผมเซ็งมาก เพราะผมไม่ต้องการที่จะทำให้ทีมตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ดังนั้นผมจึงเป็นคนเอ่ยปากว่าผมจะไป"

เยนส์ เลห์มันน์ กับ มานูเอล อัลมูเนีย

    เป็นอีกคู่ที่กินเกาเหลากันระหว่างอดีตนักเตะ อาร์เซน่อล

    เลห์มันน์ ตกอยู่ใต้ร่มเงาของ โอลิเวอร์ คาห์น และเขาก็ไม่มีความสุขกับการเป็นตัวเลือกรองจาก อัลมูเนีย ในทีมปืนใหญ่

    อัลมูเนีย กล่าวผ่าน ดิ แอธเลติก ในปี 2019 ว่า "ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อผมโชว์ฟอร์ม และฝึกซ้อมได้ดี และในเวลาเดียวกัน เขาไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดกับ อาร์เซน่อล ดังนั้น อาร์แซน เวนเกอร์ จึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงมือหนึ่ง เขาอาจเป็นวินเนอร์ แต่เขาก็แย่มากเช่นกัน"

    "เขาเป็นผู้รักษาประตูชื่อดังจากชาติใหญ่ และผมเป็นนายทวารโนเนมจากสเปน เขาคงคิดว่า 'อะไรวะเนี่ย? ที่เป็นเรื่องจริงเหรอ?' ใช่ เรามีช่วงเวลาที่ลำบากต่อกัน"

เมาโร อีการ์ดี้ กับ มักซี่ โลเปซ

    คู่บาดหมางนี้ทุกคนในโลกต่างรู้เป็นอย่างดี

    เกาเหลาระหว่าง อีการ์ดี้ และ โลเปซ ไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลเลย แต่มันก็เรื่องที่ว่า อีการ์ดี้ ไปสอยเมียของ โลเปซ มาเป็นของตัวเอง

    ถ้าคุณเป็น โลเปซ คุณจะนึกภาพออกไหมล่ะว่า อีการ์ดี้ ซึ่งเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนไปมีความสัมพันธ์กับเมียตัวเองได้ยังไง และในที่สุดทั้งสองก็ดันไปแต่งงานกัน

    ในปี 2014 อีการ์ดี้ และ โลเปซ ต้องเผชิญหน้ากันในเกมที่ อินเตอร์ พบ ซามพ์โดเรีย ซึ่ง โลเปซ ก็ปฏิเสธที่จะจับมือกับเพื่อนเก่า

    เป็นคุณ คุณจะโกรธไหม?

เท็ดดี้ เชอริงแฮม กับ แอนดี้ โคล

    "ในตอนนั้น ผมรู้ว่า เชอริงแฮม ไม่ใช่สำหรับผม"

    การทะเลาะระหว่าง เชอริงแฮม และ โคล ต้องย้อนไปในปี 1995 ซึ่ง โคล ประเดิมติดธงทีมชาติอังกฤษครั้งแรก

    เขาเป็นตัวสำรองในเกมพบ อุรุกวัย โดยถูกส่งลงมาแทน เชอริงแฮม แต่ฝ่ายหลังไม่ยอมจับมือด้วย แถมยังไม่แม้กระทั่งสบตาอีก

    2 ปีถัดมา โคล ย้ายไป แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นค่ายเดียวกับ เชอริงแฮม

    "เราเล่นด้วยกันหลายปี เราช่วยกันทำประตูได้มากมาย แต่ผมไม่เคยพูดอะไรกับเขาเลย" โคลกล่าวผ่านอินดิเพนเดนท์ เมื่อปี 2010

    "ผมยอมนั่งจิบกาแฟกับ นีล รัดด็อก ที่ทำขาผมหักสองท่อนในปี 1996 มากกว่าเล่นกับ เชอริงแฮม ที่ผมเกลียด และไม่คุยด้วยมากว่า 15 ปี"

เจมี่ คาร์ราเกอร์ กับ เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ

    ดิยุฟ น่าจะเป็นอดีตนักเตะ ลิเวอร์พูล ที่แฟนหงส์เกลียดมากที่สุด

    เขาปากกล้าโจมตี สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ คาร์ราเกอร์ เมื่อไม่กี่ปีก่อน นั่นเหมือนเป็นการปิดประตูสู่การต้อนรับที่แอนฟิลด์

    ทุกวันนี้ คาร์ร่า ยังดูถูก ดิยุฟ อยู่เหมือนเดิม และนิยามเขาว่าเป็นนักฟุตบอลที่แย่ที่สุดที่เขาเคยร่วมงานด้วยที่ ลิเวอร์พูล

    "สิ่งเลวร้ายที่สุดก็คือ เอล ฮัดจิ ดิยุฟ นี่แหละ" คาร์ราเกอร์ กล่าว

โลธาร์ มัทเธอุส กับ สเตฟาน เอฟเฟ่นแบร์ก

    มัทเธอุส กับ เอฟเฟ่นแบร์ก เคยเล่นร่วมกันที่ บาเยิร์น มิวนิค และทีมชาติเยอรมัน

    เรื่องเกิดขึ้นตอนทั้งคู่เล่นให้ทัพอินทรีเหล็ก โดย เอฟเฟ่นแบร์ก ด่า มัทเธอุส ว่าไอ้ขี้ขลาดไม่กล้ายิงจุดโทษในบอลโลกนัดชิง ปี 1990

    นอกจากนี้ เอฟเฟ่นแบร์ก ยังได้กล่าวในหนังสือชีวประวัติของตัวเอง โดยตั้งชื่อบทหนึ่งว่า "โลธาร์ มัทเธอุส มีความรู้อะไรเกี่ยวกับฟุตบอล"

จอห์น ฟาชานู กับ ลอว์รี่ ซานเชซ

    วิมเบิลดัน เอาชนะ ลิเวอร์พูล ในนัดชิงเอฟเอ คัพ ปี 1988 ซึ่งยังคงเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ช็อกที่สุดในประวัติศาสตร์ถ้วยใบนั้น

    แต่เบื้องหลังก็คือ ความบาดหมางครั้งใหญ่ของ ฟาชานู กับ ซานเชซ

    ทั้งสองปะทะกันในการซ้อม เมื่อมีการออกหมัดใส่กัน และ ฟาชานู ก็เตะคาราเต้คิกเข้าที่ขาของ ซานเชซ

    เมื่อถาม ฟาชานู ว่าเสียใจกับเรื่องดังกล่าวไหม เขาตอบว่า "ไม่ ลอว์รี่ ซานเชซ ควรจะโดนเร็วกว่านี้ด้วยซ้ำ"

รุด ฟาน นิสเตลรอย กับ พาริก ไคลเวิร์ต

    ในขณะที่ ไคลเวิร์ต เอาแต่สนุกกับแสงสียามค่ำคืนที่ นิวคาสเซิ่ล เมื่อเขาย้ายมาไทน์ไซด์ตอนปี 2004 มันต่างจาก ฟาน นิสเตลรอย เพื่อนร่วมชาติที่ชอบคลุกตัวอยู่ในบ้าน

    ยูโร 2004 เป็นทัวร์นาเมนต์เดียวที่ทั้งสองเคยเล่นร่วมกันในแดนหน้า โดย ไคลเวิร์ต เคยปรามาส ฟาน นิสเตลรอย ว่าไม่เหมาะที่จะเล่นคู่เขา

    ด้าน รุด เองก็บอกเหมือนกันว่าไม่แฮปปี้กับ ไคลเวิร์ต เหมือนกัน แต่ก็ยอมรับว่าเขาแบกรับความหวังในการพังประตูคนเดียวไม่ไหว

    "ผมทำทั้งหมดคนเดียวไม่ได้ ผมไม่สามารถเป็นผู้นำในแดนหน้าให้กับทีมชาติเพียงคนเดียวได้"