อยู่ตรงไหนก็ยิงได้
แม้ว่าคุณจะเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม หรือน่าตื่นตาตื่นใจแค่ไหน หากคุณไม่สามารถทำประตูได้ คุณก็จะไม่มีทางพุ่งชนชัยชนะ
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม พวกนักเตะจอมถล่มประตูถึงได้มีมูลค่าที่สูงเป็นอย่างมาก
แต่มันก็ไม่ใช่แค่พวกตัวรุกหรอกที่สามารถพังตาข่ายได้ กองหลัง หรือบางทีผู้รักษาประตู ก็เคยโผล่มามีชื่อบนสกอร์บอร์ดให้เราได้เห็นหลายครั้งแล้ว
นี่คือนักเตะของแต่ละตำแหน่งที่ทำประตูได้เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
ผู้รักษาประตู
พอล โรบินสัน, ทิม ฮาวเวิร์ด, ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล, อัสเมียร์ เบโกวิช, แบรด ฟรีเดล : 1 ประตู
5 นายทวารยิงได้คนละหนึ่งประตูในพรีเมียร์ลีก แต่ก็ไม่มีมือกาวคนไหนเลยที่เคยยิงได้เกินกว่านั้น
ฟรีเดล ทำประตูได้ในช่วงทดเจ็บจากเกมจากพบ ชาร์ลตัน ในปี 2004 แม้ว่าสุดท้ายแล้ว แบล็คเบิร์น จะยังคงแพ้ในเกมนั้น เนื่องจาก เคล้าส์ เยนเซ่น พังประตูชัยได้อีกหลังจากนั้นก็ตาม
นอกจากนี้ โรบินสัน, ฮาวเวิร์ด และ เบโกวิช ก็ทำได้คนละลูกจากการเตะเปิดยาวจากในกรอบเขตโทษของตัวเอง
ขณะที่ ชไมเคิ่ล ซึ่งยิงได้ถึง 11 ครั้งในเส้นทางอาชีพค้าแข้งก็ซัดในพรีเมียร์ลีกได้จากลูกวอลเลย์ช่วงท้ายเกมให้กับ แอสตัน วิลล่า ในปี 2001
แบ็กซ้าย
เลห์ตัน เบนส์ : 32 ประตู
เบนส์ ถือเป็นนักเตะตำนานของ เอฟเวอร์ตัน เลยก็ว่าได้ เขาอยู่มานาน และก็ยังอยู่มาจนถึงปัจจุบันกับเท้าซ้ายอันยอดเยี่ยม
เขามักจะทำประตูได้จากลูกฟรีคิก และจุดโทษ โดย เบนส์ ยิงไป 32 ประตูในพรีเมียร์ลีกตลอเส้นทางค้าแข้งในรังกูดิสัน พาร์ค
ตอนนี้กับวัย 35 ปี เบนส์ ถือเป็นกำลังสำรองของ ลูก้าส์ ดีญ และสถิติดังกล่าวก็อาจยังไม่ได้หยุดที่ตรงนี้
เซนเตอร์ฮาล์ฟ
จอห์น เทอร์รี่ : 41 ประตู
เทอร์รี่ ถือเป็นเซนเตอร์แบ็กยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก เนื่องด้วยความสามารถในการเล่นเกมรับของเขา
แต่เขาก็คือตัวอันตรายในลูกตั้งเตะเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นทุกสิ่งทุกอย่างเลยก็ว่าได้
จากจำนวน 41 ประตูทำให้เขากลายเป็นกองหลังที่มีสถิติซัลโวมากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
แบ็กขวา
สตีฟ วัตสัน : 26 ประตู
วัตสัน คือนักเตะสารพัดประโยชน์ เขาสามารถดันขึ้นไปเล่นเป็นกองกลางได้ แต่ส่วนใหญ่ในอาชีพของเขาก็คือตำแหน่งแบ็กขวา
เขาเคยทำแฮตทริกขณะที่เล่นอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน ในเกมพบ ลีดส์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2003-04
ปีกซ้าย
ไรอัน กิ๊กส์ : 109 ประตู
กิ๊กส์ คือนักเตะระดับท็อปที่ยืนระยะมาอย่างยาวนาน
อดีตดาวเตะทีมชาติเวลส์เปิดตัวครั้งแรกกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 1990 และเขาก็อยู่กับสโมสร โดยเป็นตัวหลักจนกระทั่งแขวนสตั๊ดในปี 2014
รวมแล้วเขายิงในพรีเมียร์ลีกไป 109 ประตู ซึ่งฤดูกาลยอดเยี่ยมที่สุดของเขาก็คือปี 1993-94 ซึ่งทำได้ทั้งหมด 13 ลูก
มิดฟิลด์ตัวกลาง
แฟร้งค์ แลมพาร์ด : 177 ประตู
อย่างที่ทุกคนรู้ แลมพาร์ด คือมิดฟิลด์ตัวกลาง แต่เขาก็ยังอุตส่าห์ยิงได้ถึง 177 ประตูอย่างน่ามหัศจรรย์ในพรีเมียร์ลีก
สถิตินั้นทำให้เขากลายเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลอันดับ 5 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ซึ่งมากกว่าตำนานอย่าง เธียร์รี่ อองรี และ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ เสียด้วยซ้ำ
หากเป็นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางแล้ว คงยากที่จะหาใครทำลายสถิติของ แลมพาร์ด ได้
ปีกขวา
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ : 84 ประตู
แม้ว่าซูเปอร์สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสจะพบเจอกับความยากลำบากในครั้งแรกที่มาร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ โรนัลโด้ ก็มีชีวิตที่ดีขึ้นในปี 2006-07
ใน 3 ฤดูกาล โรนัลโด้ ยิงไป 84 ประตู ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งก็รวมถึง 31 ลูก ในฤดูกาล 2007-08 ด้วย
แต่จากการที่ทั้ง ซาดิโอ มาเน่ (77) และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (77) ทำได้ใกล้เคียงมากขนาดนี้ อีกไม่นาน โรนัลโด้ คงจะโดนทั้งสองรายนั้นแซงได้
กองหน้า
อลัน เชียร์เรอร์ : 260 ประตู
นี่คือหัวหอกตัวเป้าที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
เชียร์เรอร์ คือเครื่องจักรถล่มประตูตลอดอาชีพของเขาไม่ว่าจะเป็นกับ เซาธ์แฮมป์ตัน, แบล็คเบิร์น และ นิวคาสเซิ่ล
ช่วงชีวิตยอดเยี่ยมที่สุดของเขาเกิดขึ้นที่ทัพ กุหลาบไฟ เมื่อเขาพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และยิงด้วยตัวเองได้ถึง 112 ประตู จาก 138 เกม
กระนั้น สถิติของเขาจะถูกตามจี้ โดย แฮร์รี่ เคน ซึ่งกำลังมองหาโอกาสทำลายตัวเลขของ เชียร์เรอร์ อยู่ ขณะที่ เซร์คิโอ อเกวโร่ ก็ยังมีโอกาสที่มากมายอยู่ด้วยเช่นกัน
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT