เมื่อ 'สิงห์' อยากทวงบัลลังก์
เดอะ สเปเชียล วัน คือคนที่ตรงไปตรงมา และไร้ความปราณีในการหาคนที่เขาคิดวาสามารถชูถ้วยพรีเมียร์ลีกได้ในราคาที่เหมาะสม
ตอนนี้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด กำลังมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และเฉียบคม เช่นเดียวกันในตลาดซื้อขายนักเตะ ขณะที่เขาเองก็หวังจะเปลี่ยนทีมคนหนุ่มให้กลายเป็นผู้ท้าชิง
ฮาคิม ซิเย็ค ถูกเซ็นสัญญาล่วงหน้าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ ซึ่งก็ไม่ได้เยอะอะไรหากเทียบกับตลาดซื้อขายในปัจจุบัน
การมาของเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติโมร็อกโกได้รับแรงหนุนเข้าไปอีกจากความจริงที่ว่า เชลซี กำลังจะปาดหน้า ลิเวอร์พูล เข้าวินซิว ทิโม แวร์เนอร์
แลมพาร์ด รู้เหมือนเจ้านายเก่าของเขา เมื่อ 5 ปีก่อนว่าทีมของตนกำลังต้องการประตู และบอร์ดบริหารก็หนุนหลังกุนซือของพวกเขา เพื่อให้เซ็นสัญญากับนักเตะที่ต้องการ
ที่ผ่านมา ใช่ว่าบอร์ดของ สิงห์บลูส์ จะให้การสนับสนุนผู้จัดการทีมของพวกเขาหมดทุกคนที่ไหน ไม่เชื่อก็ลองถาม อันโตนิโอ คอนเต้ ดูสิ กับการที่เขาอยากได้ โรเมลู ลูกากู แต่สุดท้ายดันได้คนที่น่าสงสารอย่าง อัลบาโร่ โมราต้า มาแทน
มันก็ไม่ใช่อีกเหมือนกันกับช่วงซัมเมอร์ที่ 2 ในการกลับมาหนที่ 2 ของ มูรินโญ่
ด้วยการมี ซิเย็ค และ แวร์เนอร์ ทำให้แนวรุกของ เชลซี หมดห่วงไปได้ และเป้าหมายถัดไปของพวกเขาก็คือ เบน ชิลเวลล์ ซึ่งถือเป็นคนโปรดอันดับหนึ่งในใจของ แลมพาร์ด
ในขณะที่ 2 แนวรุกโฉมใหม่ไฉไลน่าจะช่วยให้แดนหน้ามีความอันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เรื่องของเกมรับเอง พวกเขาก็ต้องเพิ่มความแข็งแกร่งหาก สิงห์บลูส์ จริงจังกับการท้าทาย 2 มหาอำนาจปัจจุบันอย่าง แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ในหัวตาราง
ในฤดูกาลนี้ เชลซี เสียไปแล้วถึง 39 ประตู จาก 29 เกม ซึ่งมากกว่า หงส์แดง ตั้ง 18 ลูกด้วยกัน และ แลมพาร์ด ก็มองว่าตำแหน่งแบ็กซ้ายนี่แหละคือคำตอบของปัญหาหลังบ้าน
ย้อนกลับไปในปี 2015 การเซ็นสัญญาของ มูรินโญ่ ส่งผลโดยตรงให้ เชลซี ผงาดคว้าแชมป์ลีก โดย คอสต้า ยิงไป 20 ประตู จาก 26 เกม หลังย้ายมาจาก แอต. มาดริด ด้วยค่าตัว 32 ล้านปอนด์ ขณะที่ ฟาเบรกาส ซึ่งมาจาก บาร์เซโลน่า 27 ล้านปอนด์ ก็จบฤดูกาลด้วยการทำแอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีกไปถึง 18 ครั้ง
ตู้โชว์ถ้วยแชมป์ของ เชลซี ที่แห้งหายมาเป็นพักใหญ่ในหลายฤดูกาลก่อนหน้านั้นกลายเป็นสามารถคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้ทันทีจากการมาของทั้งคู่ เมื่อได้ชูถ้วยลีก คัพ ก่อนที่จะฟาดแชมป์พรีเมียร์ลีก
คอสต้า และ ฟาเบรกาส พร้อมด้วยนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ ปี 2015 อย่าง เอแด็น อาซาร์ ทำให้ทีมของ มูรินโญ่ กลายเป็นเดอะ วินเนอร์ส
ในซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ การตัดสินใจอันรวดเร็วของ เชลซี ทำให้พวกเขาใกล้จะได้ตัว แวร์เนอร์ อย่างเป็นทางการ ทั้งที่ทางเลือกแรกที่เขาอยากไปอยู่ด้วยคือ ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์
ค่าฉีกสัญญา 54 ล้านปอนด์ ที่ หงส์แดง อยากขอต่อรองให้ตัวเลขลดลงมา แต่ สิงห์บลูส์ ไม่เสียเวลาด้วยการโฉบตัดหน้าพร้อมจ่ายเต็มจำนวนเพื่อคว้าหนึ่งในดาวยิงฟอร์มร้อนแรงที่สุดของยุโรปในปัจจุบัน
จากสถิติ ไม่มีดาวยิงคนไหนที่มีส่วนร่วมกับประตูในเวทีบุนเดสลีกา ฤดูกาลนี้ มากกว่า แวร์เนอร์ ที่ยิงไป 25 ประตู และทำอีก 8 แอสซิสต์ อีกแล้ว ขณะที่ เจดอน ซานโช่ ซึ่งเหนือกว่าก็ไม่ใช่กองหน้า
แม้ทีมคนหนุ่มของ เชลซี อาจจะยังไม่พร้อมสำหรับการท้าทายตำแหน่งแชมป์ลีกเหมือนกับยุค 2015 แต่การทำงานในตลาดรอบนี้ไม่เพียงแค่แสดงให้เห็นว่า โรมัน อบราโมวิช มีความสุขกับการทุบคลัง แต่เขาก็ยินดีที่จะให้ แลมพาร์ด ได้ใช้เงินก้อนใหญ่ด้วย
ความคำชื่นชมที่มีต่อ เมสัน เมาท์, รีซ เจมส์ และ แทมมี่ อบราฮัม ทั้งหมดประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้ และ แลมพาร์ด จะมีการตัดสินใจว่าใครจะอยู่หรือใครจะไปในช่วงซัมเมอร์
หลังจากผ่านตลาดซื้อขายนักเตะที่ไร้ผลในเดือนมกราคม ผู้จัดการทีม เชลซี ต้องขอบคุณสโมสรที่กำลังพยายามให้เขาได้ปรับปรุงทีมตามต้องการ
สิงห์บลูส์ กำลังเข้าใกล้เป้าหมายที่ถูกต้องในซัมเมอรืนี้ ซึ่งมันก็คล้ายกับในปี 2015
แวร์เนอร์ และ ซิเย็ค อาจยังไม่เพียงพอสำหรับการท้าทาย 2 มหาอำนาจในฤดูกาล 2021 แต่มันก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่านี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นในการเนรมิตยอดทีมของ อบราโมวิช อีกครั้ง
การใช้เงินของเขาช่วยนำแชมป์พรีเมียร์ลีกมาประดับตู้โชว์ได้แล้วถึง 5 สมัย แม้มันดูเป็นเรื่องยากที่ เชลซี จะได้แชมป์สมัย 6 ภายใต้การทำงานของ แลมพาร์ด
แต่ด้วยการลงมืออย่างเฉียบขาด และรวดเร็วในซัมเมอร์นี้ แลมพาร์ด ก็มีโอกาสที่จะเป็นใครคนนั้นที่ทำได้
พาสต้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT