เมสซี่จะไปไหน?

    ที่ช็อกยิ่งกว่าสำหรับแฟนบอลหลายคนก็คือ นี่ปี 2020 แล้วนะ เมสซี่ ยังส่งแฟ็กซ์อีกรึ!

    เอาเป็นว่าตอนนี้ ในหัวของ เมสซี่ มีความชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาไม่อยากที่จะอยู่ในถิ่นคัมป์ นู อีกต่อไป

    ความจริงเรื่องมันเริ่มมาตั้งแต่ที่ บาร์ซ่า จบฤดูกาลแบบมือเปล่า แถมยังปิดฉากด้วยความพ่ายแพ้ต่อ บาเยิร์น แบบสุดอัปยศ 8-2

    แม้ โจเซฟ มาเรีย บาร์โตเมว ประธานยักษ์กาตาลันจะพยายามบอกให้ โรนัลด์ คูมัน เทรนเนอร์ใหม่ออกแรงโน้มน้าวใจกองหน้าวัย 33 ปีให้อยู่กับทีมต่อไปให้ได้

    ทว่าสิ่งที่ คูมัน บอกกับ เมสซี่ ผ่านทางโทรศัพท์ว่าต่อไปนี้เขาจะไม่มีสิทธิพิเศษอะไรอีกแล้ว และต้องคิดถึงทีมก่อน

    เมสซี่ ได้ยินแบบนั้นก็คงได้แต่คิดในใจ 'เออ...งั้นก็เรื่องของมึงล่ะ' และนั่นก็คือฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติอาร์เจนตินาตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าขอมูฟออน

    เรื่องนี้ยังต้องคุยกันอีกยาว เพราะ บาร์ซ่า เองก็ไม่ยอมให้ เมสซี่ มาขอฉีกสัญญากันง่ายๆ แน่ ซึ่งดีไม่ดีอาจต้องไปสู้กันถึงชั้นศาลเลยทีเดียว

    เอาเป็นว่ากับการที่ เมสซี่ อยากย้ายทีมในตอนนี้ เราไปเช็กกันหน่อยดีกว่าว่ามีทีมไหนบ้างที่เป็นแคนดิเดตบ้านหลังใหม่ของเขา

สโมสรในลีกจีน

    มันดูไม่สมเหตุสมผลเลยใช่ไหม?

    เมสซี่ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขายังโหยหาความสำเร็จในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก และเขาก็ยังคงเป็นหนึ่งในนักเตะดีที่สุดในทวีปยุโรป ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะเห็นเขาจูบลาทั้งหมดนั้นไปในวัย 33 ปี

    การย้ายไปยังลีกที่ไม่ได้ถูกยอมรับถึงมาตรฐานเหมือนเป็นการเดินถอยหลังเข้าคลองทั้งที่เขายังคงเล่นในระดับสูงได้อีกอย่างน้อยก็ 3 ปี

    อีกความจริงก็คือตอนนี้ เวทีซูเปอร์ลีกแดนมังกรได้จำกัดเพดานค่าเหนื่อยแล้ว ดังนั้นการเซ็นสัญญากับ เมสซี่ จึงมีแต่ปัญหายุ่งยาก อีกอย่าง เมสซี่ ก็คงยังไม่เคยคิดถึงสิ่งนั้นสักนาทีเลยด้วยซ้ำ

นีเวลล์ส โอลด์บอยส์

    เมสซี่ ไม่เคยปิดบังความลับว่าเขาต้องการที่จะกลับไปยังสโมสรวัยเด็กไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่มีความสงสัยเลยว่าการย้ายครั้งนี้อาจเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่มันอาจยังไม่ถึงเวลา

    อย่างที่บอกไป ยังไม่สมเหตุสมผลเลยที่ เมสซี่ จะเลือกหันหลังให้ฟุตบอลลีกยุโรปในตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความหิวกระหายของเขาในถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก

แมนฯ ยูไนเต็ด

    ไม่มีใครเถียงว่า แมนฯ ยูไนเต็ด คือสโมสรใหญ่ และน่าสนใจกว่าทั้งที่จีน หรืออาร์เจนตินา แต่มันก็ยากที่เราจะได้เห็น เมสซี่ ยอมตกลงมาเล่นกับทีมที่กำลังอยู่ในช่วงขาลง

    เรากำลังพูดถึง ผีแดง ที่ยังไม่สุกงอม โดยตอนนี้พวกเขากำลังพัฒนา และสร้างทีมขึ้นมาใหม่ ขณะที่ เมสซี่ กำลังมองหาความสำเร็จในช่วงท้ายอาชีพค้าแข้งของเขา

    แน่นอนหากมองถึงเรื่องแบรนด์นั้น ยูไนเต็ด ดึงดูดใจเขาได้แน่ แต่มันก็ยังยากที่จะนึกภาพ เมสซี่ ไปร่วมโปรเจ็คท์ 3 ปี ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ซึ่งยังผ่านบทพิสูจน์ในระดับท็อปเลย

อินเตอร์ มิลาน

    นี่คือหนึ่งในตัวเต็งของสโมสรที่อาจจะเป็นบ้านใหม่ของ เมสซี่ แต่พวกเขาก็ยังหาทางกลับมายังจุดสูงสุดไม่เจอเหมือนกับ ยูไนเต็ด

    เมสซี่ อยากได้การการันตีว่า อันโตนิโอ คอนเต้ จะอยู่กับสโมสรต่อไป และตอนนี้มันก็ได้รับการคอนเฟิร์มจาก งูใหญ่ แล้ว หากมองไปยังพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมของทีมในซีซั่นที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าส่วนใหญ่มาจากนายใหญ่คนนี้

    ปัญหาก็คือ แม้ คอนเต้ จะมุ่งมั่น และชัดเจนเพียงใด อินเตอร์ ก็ผ่านเกือบหนึ่งทศวรรษด้วยการไร้แชมป์ และคาดหวังอะไรไม่ได้ในแชมเปี้ยนส์ลีก นับตั้งแต่ชูโทรฟี่ในปี 2010

    เมสซี่ เป็นนักเตะที่คู่ควรกับทุกถ้วยรางวัลในทุกซีซั่น ดังนั้นมันอาจจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาอยากจะลองเสี่ยงอะไรอีกแล้ว แม้จะมีโอกาสมาเป็นผู้นำในแผงเกมรุกร่วมกับ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ รุ่นน้องร่วมชาติก็ตาม

ยูเวนตุส

    นี่อาจเป็นแคนดิเดตเบอร์หนึ่งในใจคุณ แต่ที่น่าสงสัยก็คือมันจะเป็นไปได้มากแค่ไหน และที่ผ่านมา ม้าลาย ก็แทบไม่มีข่าวพัวพันกับ เมสซี่ เลย

    มันมีความไม่แน่นอนมากเกินไปในทีม ม้าลาย ทุกวันนี้ เมื่อ เมาริซิโอ ซาร์รี่ โดนปลดจากตำแหน่งเทรนเนอร์ และมีการตั้ง อันเดรีย ปีร์โล่ ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์คุมทีมมาแทน

    ยิ่งไปกว่านั้น ผลงานในแชมเปี้ยนส์ลีกล่าสุดของ ยูเว่ ก็เหมือนกับเป็นสัญญาณเตือนว่าการมาที่นี่อาจไม่ได้การันตีถ้วยหูโต

    แต่ก็อีกนั่นแหละ แฟนบอลทั่วโลกคงหวังในใจลึกๆ ว่าวันหนึ่งอยากจะเห็น เมสซี่ ลงเล่นเคียงข้าง โรนัลโด้ ในทีมเดียวกัน

เชลซี

    ที่คือทีมที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุดในซัมเมอร์นี้ และแต่ละดีลก็เรียกได้ว่าระดับยักษ์ด้วย

    นักเตะอย่าง ทิโม แวร์เนอร์ และ ฮาคิม ซิเย็ค ถูกเซ็นสัญญามายังถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แล้ว ที่กำลังจะตามตูดมาติดๆ ก็คือ เบน ชิลเวลล์, ไค ฮาแวร์ทซ์ รวมถึง ติอาโก้ ซิลวา

    หาก เชลซี สามารถก้าวผ่านคำว่ามาตรฐานที่พวกเขาสร้างเอาไว้ในซีซั่นที่แล้วได้ สิงห์บลูส์ ก็น่าจะเป็นผู้ท้าชิงตัวโตทั้งในพรีเมียร์ลีก และแชมเปี้ยนส์ลีก

    โอกาสทั้งสองนี้น่าจะดึงดูดใจ เมสซี่ ได้ไม่น้อย เช่นเดียวกับชื่อเสียงของเหล่าตัวรุกที่ถูกดึงเข้ามา แม้ว่าชื่อชั้นของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด อาจจะยังไม่ถูกใจใครบางคน

ลิเวอร์พูล

    ถ้าพูดถึงเรื่องโอกาสประสบความสำเร็จอย่างเดียว ลิเวอร์พูล คงรั้งเบอร์ต้น แต่มันก็ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า หงส์แดง ไม่ได้มีกำลังในการใช้จ่ายช่วงซัมเมอร์นี้

    แต่ เมสซี่ คงไม่ปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญากับแชมป์พรีเมียร์ลีก และแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน ซึ่งนั่นจะเขาสามารถกวาดถ้วยรางวัลได้อีกมากมาย

    นอกจากนี้ไอเดียการเล่นของ เมสซี่ ภายใต้ปรัชญาฟุตบอล 'เฮฟวี่เมทัล' ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็เป็นอะไรที่ยั่วยวนในการจะให้เขาเล่นในบทบาทที่ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เคยทำเอาไว้

    ทว่ามันคงเป็นแค่ความฝันนั่นแหละ เพราะอย่างที่เด็กหงส์เขาแซวๆ กัน เกิน 10 ล้านปอนด์ ลิเวอร์พูล ขอบาย

เปแอสเช

    ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง มี 2 ปัจจัยใหญ่ๆ หนึ่งก็คือแชมป์ สองก็คือเงิน

    มันเป็นเรื่องง่ายๆ มากที่เราจะได้เห็น เมสซี่ รุ่งเรืองในลีก เอิง เช่นเดียวกับ เนย์มาร์ ซึ่งทั้งสองเคยเป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยมกันใน บาร์เซโลน่า ขณะเดียวกันก็จะได้ช่วยติว คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ให้เป็นเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ คนต่อไปด้วย

    อย่างไรก็ตาม เมสซี่ ก็ยังมีเหตุผลที่จะไม่สนใจ เปแอสเช อยู่เหมือนกัน จากการที่พวกเขาไม่เคยประสบความสำเร็จในแชมเปี้ยนส์ลีกเลย ซึ่งต้องเวลากว่า 8 ปี ถึงจะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ แถมยังต้องอกหักเสียอีก

    เมสซี่ อาจตั้งข้อสงสัยด้วยว่าเส้นทางของ ปารีส ไปยังกรุงลิสบอนในซีซั่นนี้มันดูดีเกินจริง เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับทีมอย่าง อตาลันต้า และ ไลป์ซิก ก่อนจะไปแพ้ให้กับ บาเยิร์น

แมนฯ ซิตี้

    นี่คือเต็งหนึ่ง และตัวเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุดในนาทีนี้

    เมสซี่ เคยอยู่กับยุคทองของ บาร์เซโลน่า ที่เคยการันตีแชมป์ทุกรายการแบบไม่ต้องกังวลอะไรเลย

    ถ้าเป็นที่ เรือใบ เขาจะได้กลับมาร่วมงานกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือที่เขาสนุกกับช่วงเวลาดีที่สุดในอาชีพค้าแข้ง และก็มีเหตุผลที่ดีที่จะคิดได้ว่าการย้ายมายัง ซิตี้ นั้นคือทางเลือกดีที่สุดสำหรับ เมสซี่

    แน่นอนว่า เรือใบ มีสถิติย่ำแย่ไม่ต่างกับแคนดิเดตรายอื่นในแชมเปี้ยนส์ลีก และ เป๊ป ก็ยังไม่เคยพา เรือใบ ไปถึงรอบตัดเชือกรายการนี้ได้เลย

    เมื่อพิจารณาถึงความสำเร็จในแชมเปี้ยนส์ลีก เมสซี่ อาจจะรู้สึกกังวลกับการที่เขาจะกลับมาชูถ้วยหูโตอีกครั้ง แต่บางที ปัญหานั้นอาจหมดไปทันทีที่เขามาถึง

    ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำไมตอนนี้ทุกบ่อนดังถึงยกให้พวกเขาขึ้นเป็นเต็งหนึ่งแบบเดี่ยวๆ โดยทิ้งแคนดิเดตตามมาแบบไม่เห็นฝุ่น