รวมแข้งเด่นพรีเมียร์ลีกวีกสอง
ในเกมวีกล่าสุดนี้ ลีกเมืองผู้ดีเหมือนอัดอั้นรึอะไรก็มิทราบได้ มีการพังประตูถึง 44 ลูก จาก 10 แมตช์ไล่ตั้งแต่วันเสาร์จนกระทั่งถึงวันจันทร์
นักเตะแต่ละคนก็มีฟอร์มที่ร้อนแรงจนเกินห้ามใจ แต่ใครจะเป็นผู้ชนะในสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการจัดอันดับนี้ เราไปดูกันได้เลย
10.ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง
หลังพังประตูแบบเหนือชั้นได้ในเกมนัดเปิดสนามที่เอาชนะ ฟูแล่ม กัปตันทีม อาร์เซน่อล อาจรู้สึกผิดหวังที่ยิงไม่ได้ในสุดสัปดาห์ที่แล้ว
แต่ดาวเตะวัย 31 ปี ก็สามารถทำแอสซิสต์ให้เพื่อซี้อย่าง อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ เบิกร่องประตูแรก โดยการครอสจากกราบซ้ายอย่างแม่นยำที่จะทำให้ดาวยิงฝรั่งเศสไม่พลาดเป้า
ความจริงก็คือ โอบาเมย็อง มีส่วนร่วมกับประตูของทีม ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดีในทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ที่เริ่มต้นพรีเมียร์ลีกได้อย่างเพอร์เฟ็คท์ หลังผงาดคว้าถ้วยคอมมิวนิตี้ ชิลด์
เดอะ กันเนอร์ส จะเล่นกับ ลิเวอร์พูล ในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งหมายความว่าแกนนำ และคนสำคัญของ ปืนใหญ่ มีโอกาสอยู่ในจุดสูงสุดของเกมหากสโมสรจากลอนดอนเหนือได้อะไรจากแชมป์พรีเมียร์ลีก ติดมือกลับมา
9.เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ
การเปิดตัวของ เอมิ มาร์ติเนซ ในสีเสื้อ แอสตัน วิลล่า ต้องบอกว่าสุดยอด
นายด่านชาวอาร์เจนไตน์กลายเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอลทันทีที่เซฟจุดโทษ และเก็บคลีนชีตในเกมที่ วิลล่า เอาชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 1-0
จอมหนึบวัย 27 ปี โชว์ปฏิกิริยาที่ยอดเยี่ยมหยุดลูกยิงของ จอห์น ลันด์สตรัม จากจุด 12 หลา ด้วยการทิ้งตัวไปทางขวาเพื่อปัดบอล โดยใช่ฝ่ามือที่แข็งแกร่งปัดบอลให้พ้นกรอบ หาก มาร์ติเนซ ยังรักษาฟอร์มแบบนี้เอาไว้เรื่อยๆ ปืนใหญ่ ก็อาจมานั่งเสียใจที่ปล่อยของดีออกไปก็ได้
8.มาเตอุส คลิช
มิดฟิลด์ของ ลีดส์ พังประตูได้ในเกมเปิดหัวที่พบ ลิเวอร์พูล และก็ยังต่อยอดฟอร์มที่ดีด้วยการยิงอีกลูก และทำแอสซิสต์ในเกมที่ ยูงทอง เอาชนะ ฟูแล่ม 4-3
คลิช ทำให้ทีมของ มาร์เซโล่ บีเอลซ่า ขึ้นนำ 2-1 จากลูกที่จุดโทษ ก่อนที่จะมีส่วนสำคัญกับประตูของ แพทริก แบมฟอร์ด ให้ทีมขยายความได้เปรียบออกไป
มิดฟิลด์ทีมชาติโปแลนด์จ่ายบอลซูเปอร์พาสไปยังหัวหอกเบอร์ 9 ให้ได้หลุดไปยิงบอลโค้งเสียบตาข่ายในเขตโทษ แม้ฤดูกาลนี้เพิ่งจะเล่นไปเพียง 2 นัด แต่ คลิช ได้เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคนสำคัญในถิ่นเอลแลนด์ โร้ด ได้แล้ว
7.ทาริก แลมพ์ตี้ย์
เชลซี อาจกำลังนั่งเสียใจที่ปล่อย ทาริก แลมพ์ตี้ย์ ออกไป โดยฟูลแบ็กดาวรุ่งสร้างความประทับใจได้ตั้งแต่เกมกับ สิงห์บลูส์ ในนัดเปิดสนามแล้ว แถมล่าสุดยังมีฟอร์มที่ดีขึ้นอีกจนพา ไบรท์ตัน บุกถล่ม นิวคาสเซิ่ล 3-0
ดาวเตะวัย 19 ปี เรียกจุดโทษให้ทีมเยือน หลังเกมออกสตาร์ทไปเพียง 3 นาที ด้วยความเร็วที่โดดเด่นจน อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง ต้องทำพลาด
จากนั้น แลมพ์ตี้ย์ ก็ยังเล่นบอลได้อย่างน่าชม ด้วยการปล่อยบอลให้ เลอันโดร โตรสซาร์ ซึ่งหลุดไปเปิดทางกราบขวาให้ นีล โมเปย์ ทำประตูที่สองของเกม แม้จะอายุไม่เท่าไหร่ แต่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งในผลงานอันยอดเยี่ยมของแบ็กขวาอนาคตไกล
6.ฮาเมส โรดริเกซ
มิดฟิลด์คนรักใหม่ของ เอฟเวอร์ตัน พังประตูแรกให้ทีมใหม่ของเขาได้ในเกมที่เอาชนะ เวสต์บรอมวิช 5-2 พร้อมฟอร์มชั้นเซียน
นอกจากการพลิกตัวยิงของดาวเตะโคลอมเบียให้ทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ออกนำ 2-1 ในครึ่งแรก ฮาเมส ยังเรียกใบแดงจาก คีแรน กิ๊บบ์ส ได้อีกด้วย
การจ่ายบอลอันยอดเยี่ยมของแข้งวัย 29 ปี ทำให้ ริชาร์ลิซอน สามารถนำบอลต่อไปให้ โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน เพื่อทำประตูที่สองของเขาเอง ขณะที่ลูกเตะมุมของเขาก็ตกลงที่หัวหอกหมายเลข 9 ซึ่งทำแฮตทริกที่กูดิสัน พาร์ค ในวันนั้น
5.แฮร์รี่ เคน
กัปตันทีมชาติอังกฤษกลายเป็นนักเตะเพียงคนที่ 6 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ทำ 4 แอสซิสต์ในเกมเดียวให้ สเปอร์ส ถล่ม เซาธ์แฮมป์ตัน 5-2
หัวหอกวัย 27 ปี แอสซิสต์ทั้งหมดให้กับ ซน ฮึง-มิน ทำประตูที่เซนต์ แมรี่ส์ ก่อนที่จะมีสกอร์ของตัวเองในช่วงท้ายเกม
โชเซ่ มูรินโญ่ และ ท็อตแน่ม จะต้องดีใจมากกับความมั่นใจที่กลับมาของ เคน ในพรีเมียร์ลีก หลังจากมีฟอร์มที่น่าผิดหวังจากนัดเปิดซีซั่นที่พบ เอฟเวอร์ตัน
4.โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน
กองหน้าดาวรุ่งตอกย้ำกว่าตัวเองพร้อมแล้วที่จะเป็นตัวความหวังของ เอฟเวอร์ตัน ตั้งแต่เกมเปิดสนามกับ สเปอร์ส ต่อด้วยแฮตทริกในวันเสาร์ที่พบ เวสต์บรอมวิช
ทั้ง 3 ลูกของ คัลเวิร์ต-เลวิน มาจากการยิงในกรอบ 6 หลา ซึ่งบ่งบอกว่าหัวหอกวัย 23 ปีเป็นสุดยอดนักล่าตาข่าย
มันอาจไม่ใช่แฮตทริกที่น่าดึงดูดใจ แต่หนุ่มน้อยที่ตัวไม่น้อยชาวอังกฤษก็สร้างความประทับใจในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าที่อยู่ถูกที่ถูกเวลา
3.ซาดิโอ มาเน่
ปีกเบอร์ 10 ของ ลิเวอร์พูล เจอกับวันเปิดฤดูกาลที่ค่อนข้างเงียบ แต่ก็ยังเป็นหนึ่งหนึ่งของแผงแนวรุกที่ยิง ลีดส์ ซึ่งเพิ่งเลื่อนชั้นกลับมาได้ถึง 4 ลูก
ทว่าเรื่องราวมันแตกต่างไปมากในเกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ โดย มาเน่ ทำได้ 2 ประตู ในการช่วยให้แชมป์พรีเมียร์ลีก มีชัยเหนือ เชลซี ที่เหลือ 10 คน
เขาแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจอันยอดเยี่ยมกับการโหม่งจากลูกครอสของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ขณะที่สกอร์ที่สองนั้นบ่งบอกให้เห็นถึงการทำงานหนักด้วยการวิ่งไล่กดดันจน เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ผู้รักษาประตู สิงห์บลูส์ เปิดบอลผิดพลาด และส่งลูกเข้าตาข่ายที่ว่างเปล่า
2.วิลฟรีด ซาฮา
ปีกทีมชาติไอวอรี่โคสต์ทำได้อย่างเพอร์เฟ็คท์ในการรีเทิร์นสู่ถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กับ 2 ประตูที่ คริสตัล พาเลซ บุกชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด แบบสุดช็อก
ดาวเตะวัย 27 ปี ยิงลูกหนีห่างให้ทีมในครึ่งหลังจากจุดโทษ ซึ่งเขาได้ทำหน้าที่แทน จอร์แดน อายิว ที่ยิงพลาดไปถูก ดาบิด เด เคอา เซฟได้ แต่ดันไปยืนเท้าหลุดเส้นจนถูกวีเออาร์เช็กให้ยิงใหม่
นอกจากนี้ ซาฮา ยังมายิงตอกฝาโลกก่อนจบเกมด้วยการวิ่งที่ยอดเยี่ยมก่อนปั้มบอลได้จาก วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ และยิงหักข้อผ่าน เด เคอา เพื่อรักษาสถิติชนะ 100 เปอร์เซ็นต์ให้ทีมในช่วงออกสตาร์ทซีซั่น
1.ซน ฮึง-มิน
อันที่จริง ท็อตแน่ม เริ่มต้นในเกมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ได้ไม่ดีเลย เมื่อทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ตกเป็นฝ่ายตามหลังก่อน และเกมรุกก็โดนจับล้ำหน้านับไม่ถ้วน
แต่แรงบัลดาลใจจาก ซน ฮึง-มิน ก็ทำให้ สเปอร์ส กลับมาได้ ตัวรุกทีมชาติเกาหลีใต้งัดฟอร์มกระฉูด และทำคนเดียว 4 ประตูเพื่อพาทีมเยือนไปสู่ชัยชนะ
แฮร์รี่ เคน คงรู้สึกขอบคุณที่ ซน สามารถแบ่งเบาภาระหน้าที่การทำประตูของเขาซึ่งถูกตั้งความหวังเอาไว้สูงได้ และเมื่อ แกเร็ธ เบล กำลังรอเวลาเพื่อกลับมาฟิตอีกครั้ง ไก่เดือยทอง ก็จะมี 3 แนวรุกที่อันตรายอยู่ในมือ
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT